สุพรรณบุรี  ผู้ว่าฯพาแต่งชุดไทยตักบาตรทางน้ำอนุรักษ์ฟื้นฟูประเพณีส่งเสริมการท่องเที่ยว

สุพรรณบุรี  ผู้ว่าฯพาแต่งชุดไทยตักบาตรทางน้ำอนุรักษ์ฟื้นฟูประเพณีส่งเสริมการท่องเที่ยว
ผู้ว่าสุพรรณบุรี นำหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชนและนักท่องเที่ยว ครู นักเรียน แต่งชุดไทยใส่บาตร นาวาภิกขาจาร ของวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร เพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟูประเพณีตักบาตรทางน้ำ และส่งเสริมการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจหลังผ่อนปรนมาตรการโควิด19
ที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยสุพรรณบุรี ด้านหลังวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ได้นำส่วนราชการ ประชาชน นักท่องเที่ยว คณะครู นักเรียน นักศึกษา แต่งชุดไทยใส่บาตรพระสงฆ์ นาวาภิกขาจาร โดยมี นายเดชา ก่อเกิด ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสุพรรณบุรี นายจำลอง บุญเรืองโรจน์ รองผู้อำนวยการเขตพื้นที่ประถมศึกษาสุพรรณบุรีเขต1 นายณัฐปคัลภ์ อัครวิชญ์ ผอ.ททท.สำนักงานสุพรรณบุรี นายอานนท์ รักผล ประธานศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมกินกิจกรรม เพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟูประเพณีตักบาตรทางน้ำของวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ที่สมัยก่อนบ้านและวัดมักอยู่ติดริมแม่น้ำ พระภิกษุสงฆ์ออกรับบิณฑบาตรทางเรือ ซึ่งปัจจุบันหาดูชมได้ยาก เพราะเส้นทางคมนาคมสะดวกสบายกว่าแต่ก่อน ทำให้ประเพณีการตักบาตรทางน้ำนับวันยิ่งสูญหายไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดสุพรรณบุรีมีแม่น้ำที่สำคัญไหลผ่านคือแม่น้ำท่าจีน


ทางวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ได้ให้ความสำคัญสำคัญของประเพณีตักบาตรทางน้ำอันดีงามนี้จึงได้อนุรักษ์ประเพณีนี้ไว้ โดยทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา07.00 น. จะมีพระภิกษุสงฆ์ออกรับบิณฑบาตทางเรือ 9 รูป มีประชาชน เยาวชนและนักท่องเที่ยว คณะครูนักเรียน นักศึกษามาร่วมใส่บาตรกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งการได้ตักบาตรพระสงฆ์ที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วย นอกจากเป็นการทำบุญแล้วยังได้ศึกษาพันธุ์กล้วยชนิดต่างๆ ที่หายากพร้อมกับถ่ายรูปสวยๆในสวนกล้วยสุพรรณบุรีที่จัดไว้ให้ หลังจากใส่บาตรทางน้ำเสร็จ ก็ไปไหว้พระขอพรหลวงพ่อโต เพื่อความเป็นสิริมงคล หลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด19ที่ผ่านมาทำให้วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ตลาดสินค้าชุมชนและสวนกล้วยสุพรรณบุรี ได้รับผลกระทบต้องหยุดกิจกรรมนี้ไป


นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรีกล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ว่าหลังปีใหม่ที่ผ่านมาจังหวัดสุพรรณบุรี มีผู้ติดเชื้ออยู่ 2 กลุ่มใหญ่คือกลุ่มกุ้งซึ่งอยู่ในตำบลบางตาเถร อำเภอสองพี่น้องเราสามารถควบคุมพื้นที่ได้ไม่มีการแพร่กระจายออกนอกพื้นที่และกลุ่มไก่ที่ติดเชื้อมาจาก จ.อ่างทอง เราสามารถติดตามผู้ที่อยู่ในความเสี่ยงสูงเสี่ยงต่ำและควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ จนครบ 31 วันไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มล่าสุดพบชาวต่างชาติเป็นผู้ติดเชื้อมาจากที่อื่นทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปดำเนินการควบคุมโรคไว้ได้ และวันนี้เป็นวันที่17 แล้วที่ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มในพื้นที่เราได้ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะสาธารณสุขและฝ่ายปกครองดูแลควบคุมพื้นที่สังเกตคนเข้าออกที่เป็นคนต่างพื้นที่ ส่วนคนสุพรรณบุรีจากการที่เราได้ควบคุมแล้วไม่มีผู้ติดเชื้อติดต่อกันนานๆเราก็มั่นใจว่าชาวสุพรรณบุรีน่าจะปลอดจากการติดเชื้อโควิดแต่เราต้องระวังคนที่มาจากต่างจังหวัด เพราะฉะนั้นความเข้มแข็งของชุมชนเจ้าหน้าที่พี่น้องประชาชนในชุมชนที่ช่วยกันดูแลเฝ้าระวังในเรื่องโควิดทำให้เรามั่นใจว่าควบคุมได้ประกอบกับทางรัฐบาลได้มีมาตรการผ่อนคลายมาตรการที่ผ่านมาสุพรรณบุรีเราเป็นสีเหลืองสุพรรณบุรีเราก็ผ่อนคลายตามมาตรการพื้นที่สีเหลืองที่ส่วนกลางกำหนดว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้างเราก็ทำตามทั้งหมดเราจะไม่ปิดกั้นเพื่อให้ทางด้านเศรษฐกิจเดินไปได้

อย่างที่วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร บริเวณสวนกล้วย ได้จัดกิจกรรมนาวาภิกขาจาร มีการแต่งชุดไทยมาตักบาตรทางน้ำกันทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ประมาณ 07.00 น.ซึ่งเราดำเนินโครงการมาก่อนที่จะมีโควิด19 รอบ2ระบาดเมื่อสถานการณ์ผ่อนคลายทางวัดได้มีการหารือกับหน่วยราชการทั้งสำนักพุทธและทางจังหวัดจึงมีความเห็นว่าน่าจะมีการผ่อนคลายให้ทางวัดได้จัดกิจกรรมนาวาภิกขาจารต่อจึงขอเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องประชาชนพุทธศาสนิกชนนักท่องเที่ยวแต่งชุดไทยมาร่วมตักบาตรทางน้ำกัน ในนามของจังหวัดสุพรรณบุรี ต้องขอขอบคุณในความเข้มแข็งของภาคส่วนราชการโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเจ้าหน้าที่ปกครองผู้ปกครองท้องที่ท้องถิ่นกำนันผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนถิ่นต่างๆที่ให้ความร่วมมือกันโดยเฉพาะพี่น้องประชาชนทุกท่านทุกครัวเรือนที่ได้ให้ความร่วมมือในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 กันเป็นอย่างดีจนนำไปสู่การคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
ภัทรพล พรมพัก/สุพรรณบุรี