จิตอาสาจังหวัดปทุมธานีจัดกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์พัฒนาศาสนสถานวัดสายไหม เพื่อถวายพระราชกุศลรัชกาลที่2
เมื่อเวลา10.00 น. วันที่24 กุมภาพันธ์ 2564 ที่วัดสายไหม ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พร้อม พระครูโสภณภัทรเวทย์ ดร.(หลวงพ่ออ๊อด)เจ้าอาวาสวัดสายไหม นายดรณ์ สมิตะเกษตริน ปลัดจังหวัดปทุมธานี นายรนัสถ์ชัย พุ่มเจริญ นายอำเภอลำลูกกา นางรวีพรรณ ช้างเย็นฉ่ำ พาณิชย์จังหวัดปทุมธานี จิตอาสา 904 วปร. ทหาร ตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนประชาชนจิตอาสาร่วมกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ทำความสะอาด กำจัดวัชพืช และขยะ บริเวณรอบวัดสายไหม เพื่อให้สะอาดสวยงาม โดยจิตอาสาและผู้ร่วมกิจกรรมได้ช่วยกันเทน้ำหมักชีวภาพ EM ลงในคลองเพื่อเป็นการบำบัดน้ำในเบื้องต้นให้คุณภาพน้ำในคลองดีขึ้นเพื่อรักษาสภาพน้ำ ถวายเป็นพระราชกุศลและ เฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อ ประเทศชาติและประชาชนชาวไทย ทำให้ประเทศไทยดำรงความเป็นไทยมาจบจนปัจจุบัน พระองค์ทรงมีพระอัจฉริยภาพในงานศิลปะหลายสาขา ทั้งทางด้านประติมากรรม ด้านการดนตรี โดยเฉพาะในด้านวรรณคดี จนอาจเรียกได้ว่ายุคนี้เป็นยุคทองของวรรณคดีไทยสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ด้านกาพย์กลอนเจริญสูงสุด
สำหรับกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ของหน่วยราชการ และประชาชนจิตอาสา พระราชทาน 904 วปร. ในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมที่น้อมนำพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มายึดถือปฏิบัติ โดยพระองค์ทรงมุ่งหวังให้ข้าราชบริพารในพระองค์ เป็นแบบอย่างที่ดี และให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าได้ร่วมทำความดี มีจิตอาสา และเป็นการสร้างความสมัครสมานสามัคคี สร้างจิตสาธารณะในความเสียสละที่จะร่วมกันทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม โดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน และไม่หวังสิ่งตอบแทน เพื่อพัฒนาให้สังคมได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขอย่างยั่งยืน
โดยก่อนหน้านั้นนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ประธานในพิธีได้นำจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. ร่วมถวายความเคารพต่อหน้าเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประธานกล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร ที่ทรงพระราชทานโครงการจิตอาสาตามแนวพระราชดำริ เพื่อปลุกจิตสำนึกประชาชนคนไทยให้รู้รักสามัคคีและร่วมกล่าวคำปฏิญาณตน
“ “เราทำความดีเพื่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์”โดยพร้อมเพรียงกัน จำนวน 3 ครั้ง ทั้งนี้จิตอาสาพระราชทานฯ ได้ร่วมกันทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ เป็นการปลุกจิตสำนึกคนไทยให้รู้รักสามัคคี มีจิตสำนึกสาธารณะ มีความเอื้อเฟื้อ รู้จักแบ่งปันซึ่งกันและกัน โดยการร่วมกันบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ต่างๆ ก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติหลายๆด้าน ตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานโครงการจิตอาสาพระราชทาน “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ด้วยทรงมุ่งหวังให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่ามีความสมัครสมาน สามัคคี ร่วมมือร่วมใจ ประกอบกิจกรรมสาธารณะ เพื่อประโยชน์สุขของชุมชนส่วนรวม โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เพื่อให้เกิดความรัก ความผูกพันในสถาบันหลักของชาติ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชน