กาญจนบุรี ผบ.ฉก.ลาดหญ้า ประชุมร่วมบูรณาการขอความร่วมมือ ในการป้องกันโควิต การหลบหนีเข้าเมือง ยาเสพติด สินค้าหนีภาษี

กาญจนบุรี  ผบ.ฉก.ลาดหญ้า ประชุมร่วมกับ นอภ.หน.ส่วนราชการ ผู้ประกอบการ ผู้นำชุมชน เพื่อขอความร่วมมือ ในการป้องกันโควิต การหลบหนีเข้าเมือง ยาเสพติด สินค้าหนีภาษีก่อนลงพื้นที่ตรวจการปิดประตูหลังบ้านเรือนของประชาชน สถานประกอบการ
//////////////////////////////////
ที่ฐานชุดปฎิบัติการพลเรือน หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า (กองกำลัวสุรสีห์) บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ที่ 9 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งอยู่ติดชายแดนบ้านพยาตองซู ประเทศเมียนมา พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ ผู้บังคับหน่วยเฉพากิจลาดหญ้า พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า นายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี พ.ต.ท.สมศักดิ์ ไชยสุด รองผู้กำกับสืบสวนสอบสวนสถานี้ตำรวจภูธรสังขลบุรี ร.ต.อ.คณพศ หมวดผา หัวหน้าชุดเฉพาะกิจร้อย ตชด.134 นายรังสิมันต์ ทองสวัสดิ์ สาธารณสุขอำเภอสังขละบุรี ร.ต.อ.สุรพล ชุช่าง รองสารวัตรป้องกันปราบปรามตำรวจตรวคนเข้าเมืองกาญจนบุรี นายวีระ โตปิติ หัวหน้าสรรพสามิตสังขละบุรี นายสถาพร บุญสมจิตร์ผู้ใหญ่บ้าน บ้านพระเจดีย์สามองค์ ผู้ประกอบการโรงงาน พ่อค้า ประชาชน

โดยในที่ประชุมได้หารือถึงมาตรการ การป้องกันโควิต 19 ในพื้นที่ อำเภอสังขละบุรี รวมทั้งมาตรการทำงานของฝ่ายความมั่นคง ปกครอง และสาธารณสุข ที่ผ่านมา จนนำมาสู่ความสำเร็จที่ทำให้ไม่พบผู้ป่วยโควิต 19 ในพื้นที่ อำเภอสังขละบุรี ในระยะเวลาที่ผ่านมา เนื่องจากที่ผ่านมาเมื่อมีรายงานการพบผู้ป่วยในพื้นที่ ำเภอพยาตองซู ประเทศเมียนมา ซึ่งมีพื้นที่ติดกับบ้านพระเจดีย์สามองค์ คณะกรรมการโรคติดต่อ จังหวัดกาญจนบุรี โดยนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีคำสั่งระงับการใช้ช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักรของบุคคล ยานพาหนะ และสิ่งของ ณ.จุดผ่อนปรนทางการค้าพระเจดีย์สามองค์ (จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว) โดยคำสั่งฯล่าสุด (ฉบับที่4) มีผลบังคับถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 นี้


แต่ที่ผ่านมายังพบมีการฝ่าฝืนคำสั่งดังกล่าวฯ เนื่องจากยังจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่ง ทั้งในเรื่องการลักลอบขนยาเสพติด แรงงานเต่างด้าว สินค้าหนีภาษี เข้ามาในพื้นที่ อำเภอสังขละบุรี รวมทั้งการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านช่องทางธรรมชาติและประตูหลังบ้าน สถานประกอบการ ในพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ ซึ่งเป็นปัญหาหนึ่งที่หน่วยงานด้านความมั่นคงและฝ่ายปกครอง มีความเห็นร่วมกันว่าต้องมีการแก้ไข จนนำมาสู่การประชุมเพื่อชี้แจง ทำความเข้าใจ และขอความร่วมมือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจากการลงพื้นที่สำรวจร่วมกันของเจ้าหน้าที่พบว่า ในพื้นที่ บ้านพระเจดีย์สามองค์ มีสถานประกอบการ และบ้านเรือนชาวบ้านที่มีประตูด้านหลังติดประเทศเพื่อนบ้าน(พยาตองซู)ทั้งหมด 36 แห่ง จึงได้ขอความร่วมมือให้ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับ ทหาร ตำรวจ เข้าดำเนินการปิดประตูทั้งหมด


ซึ่งภายหลังจากการประชุม พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ พร้อมด้วย นายปกรณ์ กรรณวัลลี ได้นำทีมลงติดตามการปิดประตูและช่องทางทั้ง 36 แห่ง โดยเฉพาะ บริเวณบ้านประตูไม้ ซอยพานิขย์ 8 ซึ่งจากข้อมูลของเจ้าหน้าที่พบว่าเป็นช่องทางที่นำรถยนต์ Toyota fortunner สีขาว หมายเลขทะเบียน 9 กฌ 5568 กทม ซึ่งเป็นรถยนต์ที่แก๊งโจรกรรมรถยนต์ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน ไปเช่ามาจากบริษัทรถเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ จังหวัดสมุทรปราการ ก่อนนำออกไปขายให้นายทุนในพื้นที่ พยาตองซู ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมาและ ซอยเกษตร 8 ซึ่งเป็นโรงงานเก่า ซึ่งประตูด้านหลังโรงงานสามารถเปิดออกสู่ประเทศเมียนมาได้

โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้มาทำการแก้ไขก่อนทำการแก้ไขประตูให้อยู่ในลักษณะที่ปิดตาย ไม่สามารถเปิดได้อีก เพื่อป้องกันการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยเมื่อวันที่ 22 มกราคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ประจำด่านน้ำเกิ๊ก สามารถจับกุม นายกิตติภพ สังข์เทพ และนายกิตติภณ สังข์เทพ พร้อมยาบ้าจำนวน 8,000 เม็ด ที่ซุกซ่อนมาในหมอน ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่าเดินทางไปรับยาจากชายชาวเมียนมาในพื้นที่พยาตองซู โดยผ่านประตูโรงงานแห่งนี้ โดยในการลงพื้นที่ครั้งนี้ ได้มีการกำชับเจ้าของบ้านเรือน สถานประกอบการ ให้ปฎิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อฯ หากยังพบว่ามีการการทำความผิดโดยผ่านช่องทางเหล่านี้ จะต้องถูกดำเนินคดี เนื่องจากถือว่ามีส่วนร่วมในการกระทำผิดเช่นเดียวกัน


ต่อจากนั้น พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ ได้เดินทางประชุมร่วมกับส่วนราชการเมียนมา ประจำพื้นที่ อำเภอพยาตองซู บริเวณ ด่าน ตรวจคนเข้าเมืองพยาตองซู ติดชายแดนไทย*เมียนมา เพื่อขอความร่วมมือในการทำงานร่วมกันในการป้องกันโควิต 19 การกระทำความผิดกฎหมายทั้งในเรื่องยาเสพติด การโจรกรรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ไปขายเมียนมา สินค้าหนีภาษี รวมทั้งการป้องกันการเดินทางข้ามแดนของประชาชนไทยและเมียนมา ในห้วงเวลานี้ ซึ่งทางการเมียนมาพร้อมให้ความร่วมมือและแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อป้องกันปัญหาร่วมกัน โดยใช้เวลา 30 นาที่ ก่อนเดินทางข้ามแดนกลับมา
เกษร เสมจันทร์