ราชบุรี นักร่อนทองชาวโคราชยันมีทองอยู่จริง ด้านชาวบ้านเฮเจอสร้อยแหวนทอง

ราชบุรี  นักร่อนทองชาวโคราชยันมีทองอยู่จริง ด้านชาวบ้านเฮเจอสร้อยแหวนทอง

นักร่อนทองชาวโคราชยันในคลองชลประทาน หลังสนามกอล์ฟ บ้านดอนแจง ม.5 ต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี มีทองคำอยู่จริง ตามที่หนุ่มราชบุรีออกมาโชว์ว่าร่อนพบทองคำ สร้างความฮือฮาจนมีชาวบ้านแห่กันมาจำนวนมาก พร้อมเตรียมพิสูจน์เช้านี้ ขณะที่ ส.ส.ราชบุรี ออกมาเตือนประชาชนระวังอันตรายจากงูเห่า และการแพร่ระบาดของโควิด-19 เตรียมนำเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าที่ดังกล่าวมีทองคำจริงหรือไม่


.(25 ม.ค. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นายกรภัทร พรของแม่ หรือ บี อายุ 33 ปี อาชีพพ่อค้าขายของในตลาดนัดที่ราชบุรี และ ครูสอนพิเศษสอนตามบ้าน เจ้าเฟซบุ๊ก ชื่อ จอนนี่ “ผู้พิชิตเส้นทางอสรพิษราย” ได้ออกมาเผยเรื่องราวว่าตนเองลงไปร่อยทองใน คลองชลประทาน แถวสนามกอล์ฟดอนแจง ใกล้คอกม้า หมู่ที่ 5 ต.ดอนตะโก ติดกับตำบลคูบัว อ.เมือง จ.ราชบุรี โดยมีลำคลองคั่นกลาง และ ผู้สื่อข่าวได้พานายกรภัทร เจ้าของทองคำที่พบไปให้ร้านทอง ช.โชคดีเยาวราช ภายในตลาดศรีเมืองราชบุรีได้ตรวจสอบและพบว่าเป็นทองคำจริงสามารถซื้อขายได้ และเรื่องราวได้ถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้วันนี้มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาจากหลายๆจังหวัด เดินทางมาหาทองคำภายในลำคลองชลประทานกันอย่างคึกคัก บางคนผิดหวัง ขณะที่บางคนดวงเฮง พบสร้อยคอทองคำ และ แหวนทองคำ รวมไปถึงวัตถุที่คล้ายทองคำบริสุทธิ์กลับบ้าน


นายธงชัย วรรณวิจิตร อายุ 65 ปี ชาวโคราช กล่าวว่า ตนเองทราบข่าวจากสื่อที่นำเสนอข่าวว่ามีการร่อยพบทองคำภายในคลองชลประทาน ที่จังหวัดราชบุรี จึงได้ชวนเพื่อนขับรถออกมาจากบ้านทันที ซึ่งตนมีประสบการณ์ในการร่อนทองคำ เพราะทำมากว่า 20 ปี ตั้งแต่ปี 2540 และมีความเชี่ยวชาญสามารถบอกได้ว่าที่ดังกล่าวมีทองคำจริงหรือไม่ โดยผู้สื่อข่าวได้ขอพิสูจน์กับทางคุณลุงธงชัยว่าที่ดังกล่าวมีทองคำจริงหรือไม่ตามที่ หนุ่มราชบุรีนำทองคำที่ตนเองร่อนได้มาโชว์ได้ดู ลุงธงชัยให้คำตอบว่า จากประสบการณ์ ทองคำที่พบนี้เป็นทองคำบริสุทธิ์จริง เป็นทองคำที่เกาะมาจากในหินที่เรียกกันว่า หินควอตซ์ จากเท่าที่เดินสำรวจดู มีหินควอตซ์ หินสีขาว และ หินควอตซ์เนื้อราวา อยู่จำนวนมาก แต่จะตอบได้ว่ามีทองคำอยู่จำนวนเท่าไหร่นั้น ตนยังตอบไม่ได้เพราะต้องนำมาป่นและตรวจสอบดู หากมีเป็นก้อนเล็กๆ ต้องใช้หินจำนวนมากมาป่นรวมๆกันและนำมาร่อน พร้อมใช้น้ำยาตรวจสอบดู หากพบก้อนใหญ่ ก็จะหาได้ง่าย ตัวอย่างจากที่พบ “เป็นก้อนเล็ก หินก้อนนี้ ดูคร่าวๆ แล้วพบว่ามี แต่อาจจะมองด้วยสายตาเปล่าไม่เห็นเพราะเล็กมากต้องใช้กล้องส่องจึงจะเห็น”


นายธงชัย เผยอีกว่า หากประชาชนที่ลงหาร่อนทอง สงสัยว่า ว่าก้อนหรือชิ้นส่วนที่พบนั้นเป็นทองคำจริงหรือไม่ ให้นำปลอดที่มีน้ำตะกั่ว ทุบปลายปลอดให้แตกจากนั้นเทน้ำปลอดลงในเศษชิ้นส่วนที่คาดว่าเป็นทอง หากเป็นทองคำแท้ น้ำปลอดจะจับรวมตัวกันเป็นก้อน และเมื่อนำไปต้มด้วยความร้อน เมื่อน้ำปลอดละลาย ก้อนทองก็จะหลุดออกตามออกมา แต่จากการที่มีชาวบ้านนำเศษชิ้นส่วนที่ร่อนจากน้ำมาให้ดูนั้น พบว่าไม่ใช่ทองคำแท้ เป็นทองคนโง่ คือ แร่ที่มีสีเหมือนทองคำ หรือ มีชื่อเรียกว่า แร่ไพไรต์ (Pyrite) ซึ่งไม่ใช่ทองคำ แต่มีลักษณะเป็นสีทองจนทำให้ผู้พบเห็นเข้าใจผิดบ่อยๆ คิดว่าคือ ทองคำ จึงมีฉายาว่า ทองคนโง่ ตรงนี้ต้องเตือนให้ระวังหากมีการนำไปหลอกขายต่อกัน


นายธงชัย กล่าวอีกว่าเช้าวันนี้ ตนกับเพื่อนจะทำการวางแผนเพื่อที่จะลงไปร่อนหาทองคำ เพื่อพิสูจน์ดูว่าจะมีอยู่จริงหรือไม่ หรือ จะมีทองคำอยู่ประมาณเท่าไหร่ วันนี้ได้เตรียมอุปกรณ์ในการร่อนและน้ำยาตรวจสอบเพื่อที่จะดูว่ามีทองคำประมาณเท่าไหร่ แต่มั่นใจได้ว่ามีอยู่จริงแน่นอน หากพบหินควอตซ์จำนวนมากอาจจะเป็นจุดเกิดในหินแบบปฐมภูมิ และการเกิดในดิน/ทราย แบบทุติยภูมิ ได้ จะเป็นแหล่งที่มีหินทองคำอีก 1 แห่งของประเทศ

ด้านนางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า หลังจากที่ทราบข่าวว่ามีชาวบ้านเดินแห่กันทางมาเพื่อที่จะค้นหาทองคำ โดยเดินทางมาจากหลายพื้นที่จังหวัดต่างๆ ตนเป็นห่วงเรื่องการแพร่ระบาด และ อันตรายจากสัตว์มีพิษ โดยเฉพาะงูเห่า เพราะจุดนี้มีงูเห่าดงจำนวนมาก ซึ่งวันนี้จะประสานทางอำเภอเมืองราชบุรี พร้อมด้วย อุตสาหกรรมจังหวัด เจ้าหน้าที่จากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่ามะกา หน่วยงานสังกัดกรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาตรวจสอบ ว่าที่ตรงนี้มีแร่ทองคำจริงหรือไม่ และดูแลความปลอดภัยรวมถึง มาตรการเฝ้าระวังเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย


ขณะที่ชาวบ้านที่เดินทางมาหาร่อนทองต่างกล่าว หลังจากที่ทราบข่าวก็ได้เดินทางมาเพื่อที่จะมารองร่อนทองดู โดยนำอุปกรณ์ ทั้งตะแกรง ฝ้าหม้อก๋วยเตี๋ยว หรือ กระทะ รวมไปถึงเครื่องตรวจจับโลหะ
อย่าง นางสาวนันท์มนัส แซ่จิว อายุ 21 ปี อาชีพค้าขาย กล่าวว่า ตนมากัน 3 คน มาลงร่อนทองตั้ง แต่ 10.00 น. จน 16.00 น. พบพระเครื่องหลายองค์ เงินพดด้วง และ เศษชิ้นส่วนที่คาดว่าจะเป็นทองคำ เพราะมีสีคล้ายกับทอง จะนำไปตรวจสอบที่ร้านทองอีกครั้ง โดยวันนี้ถือว่ามาไม่เสียเที่ยว
.ส่วน นายพิบูลย์ เปลี่ยนแปลก อายุ 35ปี เป็นชาวนครปฐม ทำงานที่ว่าการอำเภอเมืองนครปฐม กล่าว่า วันนี้ตนได้นำเครื่องจับวัตถุโลหะลงไปหาสิ่งของที่อยู่ภายในน้ำ ตามข่าวที่ปรากฏ จากการที่ตนเองลงไป เจอแหวนทองซึ่งมีวัตถุที่คล้ายเพชร หรือ อาจจะเป็นเม็ดพลอยที่ติดกับแหวนทองคำ พร้อม เหรียญ 10 และทุ่นตะกั่ว หละงจากนี้จะนำไปที่ร้านทองเพื่อตรวจสอบดูว่าเป็นแหวนทองคำจริงหรือไม่ และมีน้ำหนักราคาของแหวนกี่บาด วันนี้ถือว่าตนเองมาไม่เสียเที่ยวได้สิ่งของติดมือกลับบ้าน เพราะถ้าหากเป็นทองคำจริงก็น่าจะมีราคา หลักพันถึงหลักหมื่นบาท


ขณะที่ นายคำรณ เกิดช่วง อายุ 64 ปี ชาวบ้านในพื้นที่และมีที่ดินติดอยู่กับจุดที่พบทองคำ เล่าว่า ตนเองเกิดที่นี่ อยู่มาถึงทุกวันนี้ยังไม่ทราบเลยว่าจุดดังกล่าวมีทองอยู่ แต่จากเรื่องเล่าของพ่อ-แม่ คลองแห่งนี้เป็นคลองใหญ่มีความกว้างมาก เป็นคลองที่ต่อมาจากแม่น้ำแม่กลอง ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลัก ตรงนี้เป็นคลองที่ไหลผ่าน ตำบลบ้านไร่ ตำบลดอนตะโก ตำบลคูบัว ตำบลอ่างทอง และ ตำบลดอนแร่ ซึ่งจะมีน้ำจากเขื่อนไม้เต็งไหลลงมาสมทบด้วย แต่ก่อนคลองแห่งนี้จะเป็นเส้นทางเดือนเรือ โดยจุดที่ห่างจากนี้ไปประมาณ 50 เมตร จะเป็นที่จอดเทียบเรือขนส่งค้าขาย แต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว เพราะกลายเป็นที่นา โดยที่ชาวบ้านต่างก็ซื้อที่ทำนากัน มีการถมคลอง ทำถนน จนคลองสายนี้แคบลง แต่ก่อนจะตื้นเขินมาก แต่ทางจังหวัดได้นำรถแบ็คโฮมาขุดลอกเพื่อให้น้ำไหลสะดวกเพราะคลองแห่งนี้ไม่ได้ใช้เป็นเส้นทางคมนาคมแล้ว เนื่องจากถนนตัดผ่านและวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ประกอบกับถนนสายนี้เปลี่ยว กลางดึกมักจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง มีการดักจี้ปล้นชิงทรัพย์ และตรงจุดที่มีการพบทอง สร้อยทอง หรือ แหวน ก็จะมีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เสียหลักหลุดโค้งลงมาในคลองหลายราย
ผู้สื่อข่าวรายงายว่านอกจากจะเป็นแหล่ง ที่ประชาชนเดินทางมาหาทองคำแล้ว ยังเป็นที่ที่หนึ่งที่สามมารถสร้างรายได้ให้กับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่มาจอดรถขายของกิน น้ำดื่ม ด้วย โดยแม่ค้าที่มาขายของ กล่าวว่า เดิมตนขายของอยู่กับที่ แต่เจอพิษโควิด-19 ทำให้ขายของไม่ได้ ไม่มีลูกค้าซื้อ จึงได้ซื้อรถพ่วงข้าง เปิดเป็นรถขายขนม เครื่องดื่ม ไปขายตามสถานที่ก่อสร้าง วันนี้มีคนบอกว่ามีคนมาหาทองกันเยอะ ตนจึงวิ่งมาขายดูแต่ก็ไม่ได้ลงทุนเยอะ เพราะไม่คิดว่าจะมีคนมาจำนวนมากขนาดนี้ แต่วันนี้ก็ถือว่าดีใจขายของได้หลายร้อยบาทอยู่ได้กำไรมากกว่าทุกวันที่ขาย.

ประวิทย์ ลิ้มเจริญ รายงาน