กาญจนบุรี กลุ่มผู้เลี้ยงปลากระชัง ในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ์ตายนับ 100 ตัน ค่าเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
สุดอนาถความฝันสลายทำมากว่า 10 ปี หายเพียงพริบตา!! คืบหน้าเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากดคังในกระชังอำเภอทองผาภูมิ ตายไม่ต่ำกว่า 100 ตัน เสียหายกว่า 10 ล้านบาท เร่งเก็บกู้ขึ้นฝั่งเกรงน้ำเสีย ริมตลิ่งต้องกลายเป็นสุสานปลา คิดอะไรไม่ออกว่าปลาตายจะเอาไปทำอะไร ฝูงกาบินลงมาจิกกินกันจนอ๊วก เจ้าของบอกอยากขายแต่เจอโควิด 19 ไม่มีใครสั่งซื้อ จนต้องมาเจอปัญหาทุกคนสิ้นเนื้อหมดตัวไปตามๆกัน
ผู้สื่อข่าวเดินทางล่องเรือเข้าไปยังอ่าวที่เกษตรกรชาวบ้านผู้เลี้ยงปลากดคังหมู่ที่ 2 บ้านปิล็อกคี่ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เกือบ 30 ราย ได้รับความเดือดร้อนจากปลากดคังในกระชังที่เลี้ยงมากว่า 3 ปี ได้ตายลอยทั้งหมดอย่างไม่ทราบสาเหตุมาเป็นเวลา 3 วัน แล้ว และเกษตรกรทราบว่าปลาเกิดปัญหาเร่งให้อ๊อกซิเย่นในกระชังปลา และย้ายกระชังออกไปกลางอ่าว แต่ไร้ผลปลาขนาดใหญ่มีตั่งแต่ 3 กิโลกรัม ไปจนถึง 8 กิโลกรัมได้หงายท้องทุกกระชังไม่สามารถช่วยได้ จนต้องเร่งเก็บปลาขึ้นฝั่งไปกองรวมอยู่ริมตะลิ่งยาวนับเป็นกิโลเมตร พบฝูงกาลงกินกันเป็นฝูงๆ และปลาทั้งหมดเริ่มส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วคลุ้งน้ำแล้ววอนหน่วยงานภาครัฐเร่งช่วยไม่เช่นนั้นสิ่งตามมาคือเชื้อโรค เนื่องจากปลานับ 100 ตัน ได้นำขึ้นมากองไว้ริมตลิ่ง ยังไม่ทราบจะทำอย่างไร หากปล่อยให้อยู่ในน้ำอาจจะทำให้น้ำเสียได้ เจ้าของกระชังปลาเร่งเก็บกู้ขึ้นฝั่งมาเป็นวันที่ 4 แล้ว ยังไม่หมด
สำหรับกลุ่มเกษตรกรได้เลี้ยงปลากลุ่มนี้มากว่า 10 ปี เพิ่งเจอปัญหา ที่เคยเจอแค่ปลาติดเชื้อโรคสามารถรักษาได้ แต่มาครั้งนี้ ไม่ทราบเกิดอะไรขึ้นปลากระชังในอ่าวทั้งหมดตายทุกกระชัง ไม่สามารถช่วยหรือนำขึ้นมาแปรรูปได้เลย จนปลาเกิดเน่าเริ่มส่งกลิ่นเหม็นแล้ว ยังไม่มีหน่วยงานภาครัฐเข้าไปช่วยดูแลแต่อย่างใด และปลาทั้งอยู่ในกระชังจะเก็บขึ้นจากน้ำได้คาดว่าอีกเป็นอาทิตย์จึงจะหมด และที่เก็บขึ้นมาแล้วหลายสิบตัน เสียหายครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาท ทุกคนสิ้นเนื้อประดาตัวไปตามๆ กัน รายใหญ่กระทบมาก รายเล็กกระทบน้อย แต่สุดท้ายโดนทุกรายหมดทั้งอ่าว บอกว่าวันนี้คงเหลือเพียง (หำกับหอยและชีวิตเท่านั้น) วอนภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือเยียวยาบ้างก็ดี เพราะเกษตรกรกลุ่มนี้เดือดร้อนหนักสาหัสจริงๆ เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาแต่ละกระชังได้กล่าวให้กับสื่อด้วยน้ำเสียงจุกๆในหัวอก และกลั่นน้ำตาไม่อยู่เพราะทุกคนฝากความหวังไว้กับปลาเหล่านี้มาทั้งชีวิต หมดไปด้วยพริบตาต้องล้มทั้งยืนกันถ้วนหน้า
สำหรับนางนิ่มนภา ตุมรสุนทร อยู่บ้านเลขที่ 18 / 1 หมู่ที่ 2 ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูม จังหวัดกาญจนบุรี เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชัง ในพื้นที่บริเวณอ่าวพระธาตุโบอ่อง ได้กล่าวพร้อมกับดมยาดมตลอดเวลาว่า ชุดนี้เลี้ยงมา 4 ปี และที่จับไม่ได้เพราะติดโควิด 19 นัดจะมาจับช่วงปีใหม่ ไม่คาดจะเจอแบบนี้ลงเต็มที่หมดทุนไปเกือบ 10 ล้าน กะว่าจับครั้งนี้จะมีเงินเหลือจากใช้หนี้สิ้นแล้วนำไปปลูกบ้าน ทุกวันนี้ยังเช่าเขาอยู่ สุดท้ายปลาตายหมดทั้งอ่าวเลยที่เลี้ยง เกษตรกรเลี้ยงมีประมาณ 30 เจ้า เป็นหมด นับ 100 กระชัง หากขายปลาหน้ากระชังแต่ละช่องไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท กระชังหนึ่งมี 10 ช่อง บางครั้งได้ช่องละเกิน 1 ล้านบาท ทั้งหมดเกิน 10 ล้านบาท โดยของนางนิ่มนภา มีทั้งหมด 30 กระชัง 300 ช่อง บอกตอนนี้ล่มสลายทั้งหมด อยากฝากหน่วยงานเข้ามาเยียวยาบ้าง เพราะเคยไปลงทะเบียนกับทางหน่วยงานรัฐด้วยเช่นกัน วอนขอให้รัฐช่วยมากน้อยบ้างก็ยังดี ถามว่าเกิดเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร นางนิ่มนภา บอกว่าก็คงจะต้องเลี้ยงปลาเช่นเดิมเพราะลงทุนไปเยอะมาก เลี้ยงปลากดคังมาเกือบ 20 ปี และช่วงนี้เลี้ยงมากที่สุดในชีวิต กะจับแล้วมีเงินเหลือไปสร้างบ้านดีๆ อยู่สุดท้ายความฝันพังทลายสิ้นในพริบตา
ลูกเขย นางนิ่มนภา กล่าวว่า ในช่วงเกิดเหตุการณ์ตนเองไม่อยู่ไปรับอาหารมาให้ปลา และทราบว่าเกิดปรากฎการณ์แผ่นดินพลิกแล้วน้ำในอ่างแห่งนี้เกิดขุ่น หลังจากนั้นแรกๆปลาในกระชังก็เริ่มตายลอยเหนือน้ำ อย่างรวดเร็ว จนวันนี้ไม่เหลือแม้แต่ตัวเดียว ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน หากรัฐช่วยบ้างก็ดีเพื่อนำทุนมาดำเนินการกับชีวิตต่อไป
ลูกชาย นางนิ่มนภา บอกว่าอยากจับแต่เจอปัญหาโควิด 19 ทางผู้ซื้อก็เลื่อนมาตลอด จนมาเจอสถานการณ์เช่นนี้ สำหรับกระชังของตนเองก็หมดไปกว่า 5 ล้านบาท หลังจากนี้จะทำอะไรขอเวลาคิดดูก่อนเพราะเวลานี้ก็ไม่เหลืออะไรแล้ว
เกษร เสมจันทร์