กาญจนบุรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก มอบของขวัญปีใหม่ และอ่านสาส์นอวยพรปีใหม่พร้อมให้โอวาทแกกำลังพล กองพลทหารราบที่ 9
ที่บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
พลเอก พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการศูนย์ปฏบัติการกองทัพบกมอบของขวัญปีใหม่ให้กับกำลังพลของกำลังพลกองทหารราบที่ 9 พร้อมทั้ง ให้โอวาทกำบกำลังพล มีใจความว่า ผู้ที่ปฏิบัติงานในกองกำลังสุรสีห์ทุกท่าน ผู้บัญชาการทหารบกได้กรุณามอบหมาย ให้ผมเดินทางมาตรวจเยี่ยมหน่วยในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 เพื่ออำนวยพร ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ประจำปีพุทธศักราช 2564
กองพลทหารราบที่ 9 นับว่าเป็นหน่วยที่มีความสำคัญเนื่องจากเป็นหน่วยพร้อมรบของกองทัพบก โดยเฉพาะปัจจุบันกองทัพบกกำหนดให้กองพลทหารราบที่ จัดกองบังคับการกรมทหารราบและกองพันทหารราบพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว ของกองทัพภาคที่ 1ตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่ต้องการให้มีหน่วยพร้อมรบเคลื่อนที่เร็วอยู่ในทุกกองทัพภาคผมมีความรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เห็นกองกำลังสุรสีห์มีการพัฒนาทุก ๆ ด้านโดยเฉพาะการปฏิบัติตามพันธกิจ 3 ประการของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกได้แก่ การเฝ้าตรวจและป้องกันชายแดนการจัดระเบียบพื้นที่และแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ผู้ชายแดนและการประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ผมขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้กับทุกท่าน ทั้งที่ปฏิบัติงานในกองพลทหารราบที่ 9กองกำลังสุรสีห์ ให้ปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบจากกองทัพบกสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
จากนั้น พลเอกพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ได้อ่านสาส์นอวยพรปีใหม่พุทธศักราช 2564 ของ พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ผู้บัญชาการทหารบก ดังต่อไปนี้
ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2564 ผมขอส่งความปรารถนาดี ความระลึกถึงและความห่วงใยมายังเพื่อนทหารทุกท่านรวมทั้งครอบครัว ด้วยความรักยิ่งในรอบปีที่ผ่านมา การดำเนินภารกิจของกองทัพบกมีบทบาทหน้าที่ ครอบคลุมหลากหลายด้านอันเกี่ยวเนื่องกับงานด้านความมั่นคงการพัฒนาประเทศการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน และเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนตลอดจนเป็นกลไกหลักที่สนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลในการรักษาความสงบเรียบร้อยและแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งการช่วยเหลือดูแลประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างต่อเนื่องซึ่งเพื่อนทหารทุกท่านต่างปฏิบัติหน้าที่ด้วยหัวใจที่ทุ่มเทเสียสละ ร่วมแรงร่วมใจกันเป็นอย่างเต็มกำลังความสามารถ และมีเอกภาพ
โดยยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติเป็นส่วนรวมและประชาชน เป็นเป้าหมาย ทำให้ภารกิจทุกด้านบรรลุผลตามนโยบายอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นรากฐานให้กองทัพบกก้าวไปสู่อนาคตที่มีความเข้มแข็ง มั่นคงยืนหยัดอย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรีดังเช่นวีรชนทหารกล้าได้สร้างไว้ในอดีตผมขอชื่นชมและขอขอบคุณทุกท่านมา ณ โอกาสนี้สำหรับในปีพุทธศักราช 2564 กองทับกจำเป็นต้องปฏิรูปและปรับบทบาทอย่างต่อเนื่อง ให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อมด้านความมั่นคง โดยมีเพื่อนทหารทุกท่านเป็นกำลังหลักที่สำคัญ ในการขับเคลื่อน การดำเนินการทุกมิติให้บรรลุผสัมฤทธิ์ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ ในความรับผิดชอบด้วยจิวิญญาณของความเป็นทหารที่มีความเสียสละ กล้าหาญมีความแน่วแน่ในอุดมการณ์ ปฏิบัติงานโดยการยึดมั่นในแนวความคิด”พิทักษ์ราชัน ปกป้องประชารักษาแผ่นดิน” เพื่อดำรงไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติให้มีความมั่นคงปลอดภัย และประชาชนอยู่เย็นเป็นสุขในขณะเดียวกัน ขอให้บูรณาการการทำงานอย่างประสานสอดคล้องสร้างเสริมความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในหน้าที่ มีการพัฒนางานริเริ่มใหม่ในหน่วยมีศักยภาพ ความทันสมัย พร้อมก้าวทันเทคโนโลยีและความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกประเทศ
รวมทั้งใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างมีสติอย่างรู้เท่าทันสำหรับผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ต้องปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี โดยใช้หลักธรรมและความยุติธรรมในการปกครองบังคับบัญชา ปลูกฝังให้กำลังพลเป็นผู้มีจิตสาธารณะและเป็นทหารอาชีพที่พร้อมทำหน้าที่เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์และเป็นที่พึ่งของประชาชน โดยแท้จริงในวาระอันเป็นศุกมงคลนี้ ขออ่านาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ที่ทุกท่านเคารพนับถือ ดวงพระวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ ตลอดจนเดชะพระบารมีอันแผ่ไพศาล ของพระบาทสมเด็พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้โปรดดลบันดาลพระราชทานพร ให้เพื่อนทหารทุกท่าน พร้อมทั้งครอบครัวประสบแต่สรรพสิ่งอั่นเป็นมิ่งมงคล มีพลังกาย พลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ให้บังเกิดผลดีแก่ประเทศชาติ เป็นส่วนรวมต่อไป
จากนั้น พลเอก พรศักดิ์ได้เดินทางไปที่พิพิธภัณฑ์ทหารผ่านศึกเวียดนาม ที่ตั้งอยู่ภายในกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ทหารผ่านศึกเวียตนามมีประวัติการรบของกองพลทหารราบที่ 9 (กองพลเสือดำในขณะนั่น) รัฐบาลไทยได้ส่งกำลังทหารอาสาสมัคร ไปช่วยรบในสงครามเวียดนามตั้งแต่ปี พ.ศ. 2507-2515 ทหารไทยเสียชีวิตในสงครามเวียดนามจำนวน 539 นาย ทางกองทัพบกโดยกองพลทหารราบที่ 9 จึงได้จัสร้างพิพิธภัณฑ์ทหารผ่านศึกเวียดนาม เพื่อเป็นที่ศึกษาของทหาร และประชาชนทั่วไป ได้ชมและรำลึกถึง ความเสียสละกล้าหาญ และเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย
จากนั้น พลเอก พรศักดิ์ ได้เดินทางไปตรวจเยียมโรงเลี้ยงที่ร.19 พัน 1 เพื่อตรวจการประกอบเลี้ยงอาหารกลางวันแก่ทหาร ซึ่ง พลเอก พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ได้กล่าวว่า การจัดเลี้ยงอาหารแก่ทหาร ที่เข้าประจำการ ให้ทหารรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ทั้ง 3 มื้อ
คณิตา สิงห์คำ กาญจนบุรี