ปทุมธานี “ปวีณา”เร่งหารือเด็กนักเรียนแนวโน้มป่วยซึมเศร้าสูงเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต
สืบเนื่องจากเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 ต.ค.63 มีผู้ปกครองท่านหนึ่งแจ้งมายังมูลนิธิปวีณาฯ ว่า ลูกของตนเองซึ่งเป็นนักเรียนระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.ปทุมธานี ระยะหลังมีอาการซึมเศร้าหลังพ่อเสียชีวิต ส่วนแม่ก็ต้องทำงานดิ้นรนหาเงินเลี้ยงลูกไม่ค่อยมีเวลา ล่าสุดลูกได้หายออกจากบ้านไป ต่อมาวันศุกร์ที่ 16 ต.ค. ทางโรงเรียนได้แจ้งมายังมูลนิธิปวีณาฯ ว่าเด็กคนดังกล่าวได้ไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ซึ่งถือเป็นเรื่องเศร้าสลดอย่างยิ่ง ด้านนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ จึงได้มอบเงินช่วยเหลือค่าทำศพ จำนวน 5,000 บาท และแสดงความเสียใจกับครอบครัว ขณะที่ทางโรงเรียนได้ช่วยเหลือเงินสมทบอีก 10,000 บาท หลังเกิดเหตุดังกล่าวทางโรงเรียนได้ประสานกับมูลนิธิปวีณาฯ ด้วยความเป็นห่วง เนื่องจากตรวจสอบพบว่าเด็กนักเรียนในโรงเรียนขณะนี้มีประมาณ 30 คน ที่มีอัตราความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคซึมเศร้า
วันจันทร์ที่ 19 ต.ค.63 เวลา 15.00 น. ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้เชิญ ดร.ชนะ สุ่มมาตย์ ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน สพฐ. ตัวแทนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาปทุมธานี และผู้ปกครองเด็กที่เสียชีวิต เข้าร่วมประชุมหามาตรการช่วยเหลือเด็กที่มีความเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าสูง มูลนิธิปวีณาฯ จึงได้ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการหามาตรการป้องกันและช่วยเหลือเด็กที่ครอบครัวมีปัญหาอย่างเร่งด่วน เพื่อทำรายงานเสนอไปยัง นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวว่า ขณะนี้เด็กนักเรียนมีความเสี่ยงซึมเศร้าสูง เนื่องจากขาดความอบอุ่นในครอบครัว ความยากจน ครอบครัวแตกแยก ซึ่งโรงเรียนจำเป็นที่จะต้องเป็นเกราะคุ้มครองให้เด็กได้พึ่งพิง จึงขอเสนอให้โรงเรียนได้มีนักจิตวิทยาเพิ่มมากขึ้น และมีสหวิชาชีพร่วมฟื้นฟูสภาพจิตเด็กในแต่ละโรงเรียนให้ลงพื้นที่แต่ละจังหวัดให้ครอบคลุมเพื่อให้เด็กได้มีสภาพจิตที่ดีพร้อมคืนสู่สังคมอย่างปกติได้ เพราะในเมื่อครอบครัวอ่อนแอโรงเรียนจึงจำเป็นต้องเป็นเสาหลักให้กับนักเรียนทุกคน
และในวันนี้นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯได้นัด นายสุรพจน์ สุขขะ อายุ 31 ปี นางสาวรุ่งทิพย์ ทองพูน อายุ 31 ปี สองสามีภรรยา พ่อแม่ของ “น้องครีม” เด็กหญิง อริสรา สุขขะ อายุ 11 ปี นักเรียนชั้นป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.พระนครศรีอยุธยา ที่เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเคยร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาฯ เนื่องจากพ่อแม่กับญาติสงสัยสาเหตุการเสียชีวิตอาจเกิดจากการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกหรือไม่ และสงสัยก่อนการฉีดวัคซีนทำไมไม่ได้รับแจ้งหรือได้รับหนังสือแจ้งจากทางโรงเรียนมาก่อน เพื่อเข้าประชุมร่วมกับนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ และดร.ชนะ สุ่มมาตย์ ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน สพฐ.และผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เพื่อขอให้พิจารณาเรื่องการสื่อสารระหว่างโรงเรียนกับผู้ปกครอง เพราะไม่อยากให้เกิดปัญหากับเด็กคนอื่นๆ เหมือนกับลูกของตัวเอง