กาญจนบุรี บิ๊กท็อป สราวุธ รมว.ทส.ควงปลัด และอธิบดีกรมอุทยานฯ เยือนอุทยานแห่งชาติไทรโยค พร้อมทุ่งงบ สร้างแหล่งน้ำ-อาหาร ป้องช้างออกนอกพื้นที่ทั่วประเทศ
ที่อาคารศูนย์ควบคุมมาตรฐานการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ ชั้น 2 อุทยานแห่งชาติไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายวราวุธ ศิลปะอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เดินทางมาที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปภาพรวมการดำเนินการ พร้อมมอบนโยบายและแนวทางการดำเนินงาน และตรวจเยี่ยมและให้ขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค
โดยมีนายธัญญา เนติ ธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายดำรัส โพธิ์ประสิทธิ์ ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายสินธพ โมรีรัตน์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี นายสมเจตน์ จันทนา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค พร้อมคณะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค ให้การต้อนรับ จากนั้นร่วมประชุมที่อาคารศูนย์ควบคุมมาตรฐานการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ ชั้น 2 อุทยานแห่งชาติไทรโยค โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ
จากนั้นนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส.ได้ไปสักการะอนุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่อยู่ริมลำธารน้ำตกไทรโยคใหญ่ ต่อมาคณะทั้งหมดได้ไปที่สะพานแขวนข้ามแม่น้ำแควน้อย เพื่อสำรวจสภาพของน้ำตกไทรโยคใหญ่ ใช้เวลาไม่นานนักก็แล้วเสร็จ
ทั้งนี้นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส.เปิดเผยว่า อุทยานแห่งชาติไทรโยค ถือว่าเป็นหนึ่งในอุทยานที่มีความเก่าแก่และมีความสำคัญกับพี่น้องคนไทย ผมเองได้ยินชื่อเสียงความสวยงามของอุทยานแห่งชาติแห่งนี้มาตั้งแต่เด็กๆ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสเดินทางมาเยี่ยมชม ระหว่างการประชุม ก็ได้ฝากการบ้านให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค และท่านอธิบดีกรมอุทยานฯ ในการที่จะดูแลอุทยานแห่งชาติแห่งนี้ รวมทั้งให้ดูแลพี่น้องประชาชนที่เข้ามาท่องเที่ยว การจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวตามมาตรการณ์การป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะต้องมีการวางมาตรการที่จะหยุดพักอุทยานฯ ตามนโยบายที่ได้มอบให้กับกรมอุทยานฯเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ว่าปี 64 นั้นจะต้องมีช่วงหยุดพักอุทยานฯเพื่อปรับปรุงอุทยานแห่งชาติทุกๆแห่งว่าจะปิดกันในช่วงไหนและจะดำเนินการกันอย่างไร ที่สำคัญคือการดูแลเรื่องของความสะอาดในอุทยานแห่งชาติ สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาค้างแรมก่อนกลับก็ขอให้ช่วยกันนำขยะที่ท่านก่อขึ้นมากลับไปด้วย และโดยเฉพาะอย่างนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาดื่มในเขตอุทยานฯเพราะมันผิดกฎหมาย และหากมีนเมาขึ้นมาอาจจะไปรบกวนนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นได้ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องดูแลกันให้ดี
ที่สำคัญการที่ได้มาจังหวัดกาญจนบุรีในวันนี้ ซึ่งจังหวัดกหาญจนบุรีเป็นหนึ่งในจังหวัดที่ตัวผมเองในฐานะรัฐมนตรีที่ดูแลสามกลุ่มจังหวัดคือ กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และนครปฐม ตามโครงการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน ของท่านายกรัฐมนตรี วันนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ได้มาตรวจเยี่ยมจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อมาดูถึงปัญหาต่างๆวันนี้มาที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค จากนั้นจะไปที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม โดยเฉพาะการไปให้กำลังใจกับผู้ปฎิบัติหน้าที่ เพราะพื้นที่อุทยานแห่งชาติไทรโยคของเรามีพื้นที่เกือบ 6 แสนไร่ แต่จำนวนเจ้าหน้าที่ของเรามีอยู่น้อยมาก ดังนั้นการขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนไม่ว่าจะเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ หรือหมู่บ้านใดก็แล้วแต่ ชาวบ้านเหล่านี้จะช่วยกันรักษาผืนป่าและอุทยานแห่งชาติของเราต่อไป
ส่วนประเด็นต่อมาคือปัญหาเรื่องช้างป่า ซึ่งเราก็เข้าใจไม่ว่าจะเป็นพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวตะเข็บป่า บางครั้งอาจจะมีช้างออกมามากถึง 20-40 ตัว และทำความเสียหายให้ประชาชน เราเห็นใจพี่น้องประชาชนเป็นอย่างยิ่ง จึงเป็นสาเหตุที่กรมอุทยานแห่งชาติขออนุมัติงบกลาง ซึ่งขณะนี้ได้งบมาแล้วในการใช้สำหรับสร้างแหล่งน้ำและแหล่งอาหารให้กับช้างป่า ถ้าเรามองในมุมกลับกัน หากพี่น้องประชาชนทุกไม่มีอาหารดำรงชีพแล้วเราจะไปไหน เราก็ต้องเข้าป่าไปหาอาหาร ในทางกลับกันช้างก็เป็นสิ่งมีชีวิตเช่นกันเมื่อช้างไม่มีอาหารกินในป่า ช้างก็ออกมาหากินนอกป่า การป้องกันด้วยการไปสร้างรั้วไฟฟ้า ไปสร้างคูน้ำ หรืออะไรก็แล้วแต่ต้องเรียนว่าช้างนั้นเป็นสัตว์ที่มีสติปัญญาสูง ช้างจะหาวิธีแก้ไขแล้วก็ออกมาหากินนอกป่าจนได้
สิ่งที่ดีที่สุดคือจะทำอย่างไรให้ช้างกลับเข้าบ้าน โดยที่บ้านของช้างจะต้องมีความอุดมสมบูรณ์ทั้งอาหารและน้ำ ซึ่งขณะนี้กรมอุทยานกำลังเร่งสร้างแหล่งน้ำแหล่งอาหารให้กับช้างป่า ไม่ใช่เพียงแคผืนป่าตะวันตกเท่านั้น แต่จะทำในทุกผืนป่า เพื่อไม่ให้ช้างป่าออกมารบกนประชาชนได้ในอนาคต./
เกษร เสมจันทร์