พอช.ร่วมจว.ปทุมธานี จัดกิจกรรม ‘รื้อบ้านเดิม สร้างบ้านใหม่ คืนน้ำใสให้คลองเปรมประชากร’
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 กันยายน 2563 ดร.พินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายไมตรี อินทุสุต ประธานกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) หรือพอช.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พันเอก ณัฐพล บุญกระพือ ผู้แทนผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ปลัดจังหวัดปทุมธานี นายอาวุธ วิเชียรฉาย นายอำเภอเมืองปทุมธานีนางสาวบุษนี แพร่วิศวกิจ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดปทุมธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกัน จัดกิจกรรม “รื้อบ้านเดิม สร้างบ้านใหม่ คืนน้ำใสให้คลองเปรมประชากร” ณ หมู่ที่ 7 ตำบลหลักหก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี โดยมีผู้แทนกรมทหารม้าที่ 5 กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ผู้แทนกรมธนารักษ์ ผู้แทนสหกรณ์จังหวัดปทุมธานี ชาวชุมชนริมคลองเปรมประชากร และภาคีเครือข่ายพัฒนาชุมชนริมคลองเข้าร่วมงานประมาณ 200 คน
นายไมตรี อินทุสุต ประธานกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน)กล่าวว่า การพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองเปรมประชากร เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาตามแผนแม่บทโครงสร้างพื้นฐานระบบคลอง และการพัฒนาชุมชนริมคลองเปรมประชากร ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2562 โดยมีกรอบแนวคิดในการดำเนินงาน 4 ด้าน คือ 1) ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งแวดล้อมของเมือง อาทิเช่น การสร้างเขื่อนริมคลองและระบบรวบรวมน้ำเสีย 2) ด้านการพัฒนาชุมชนริมคลอง ซึ่งมีเป้าหมายที่การพัฒนาที่อยู่อาศัยของทุกครัวเรือนที่อยู่ริมคลอง 3) ด้านการสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน และ 4) ด้านกฏหมายและการขับเคลื่อนงาน โดยในด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองเปรมประชากรมีกลุ่มเป้าหมายในเขตกรุงเทพมหานคร 3 เขต คือ ดอนเมือง หลักสี่ และจตุจักร จำนวน 32 ชุมชน และพื้นที่เทศบาลตำบลหลักหก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี 6 หมู่บ้าน ระยะความยาวคลองประมาณ 17 กิโลเมตร จากความยาวทั้งหมด 50.8 กิโลเมตร จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งสิ้น 6,386 ครัวเรือน
พอช. ได้กำหนดแผนดำเนินการ 3 ปี ตั้งแต่ปี 2562 – 2564 โดยใช้รูปแบบการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวทางโครงการบ้านมั่นคง ลักษณะเดียวกันกับการดำเนินโครงการที่คลองลาดพร้าว ซึ่งให้ชุมชนเป็นแกนหลักในการดำเนินโครงการ เริ่มจากการจัดตั้งเป็นกลุ่มออมทรัพย์และจดทะเบียนเป็นสหกรณ์เพื่อเช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์ มีการออกแบบและวางผังร่วมกันทั้งชุมชนเพื่อขออนุญาตปลูกสร้างบ้านใหม่จากกรมธนารักษ์และท้องถิ่น เพื่อให้บ้านใหม่ที่จะสร้างขึ้นมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการอยู่อาศัย เปลี่ยนแปลงจากผู้บุกรุกมาเป็นผู้อยู่อาศัยที่ถูกต้องตามกฎหมาย และช่วยให้การดูแลรักษาสภาพแวดล้อมของคลองเปรมประชากรคลองเป็นไปได้อย่างยั่งยืน ซึ่งได้เริ่มดำเนินการแล้วที่เขตจตุจักร ที่ชุมชนประชาร่วมใจ 2 โดยรื้อย้ายบ้านเดิมในเดือนธันวาคม 2562 ซึ่งนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เป็นประธานในการยกเสาเอกเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ได้มอบทะเบียนบ้านให้กับบ้านที่ก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่อาศัย จำนวน 20 หลังในเดือนกรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา ในส่วนที่เหลือ 173 หลังคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณเดือนตุลาคม 2563
ด้านดร.พินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า การรื้อย้ายบ้านชุมชนหมู่ 7 ตำบลหลักหก อำเภอเมือง ในวันนี้เป็นชุมชนที่ 2 ของการพัฒนาคลองเปรมประชากร โดยชุมชนได้เช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์แล้วในนามสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงชุมชนวัดรังสิตจำกัด ระยะเวลาการเช่า 30 ปี ขนาดเนื้อที่ 22 ไร่ 3 งาน 36 ตารางวา อัตราค่าเช่าตารางวาละ 2.25 บาท/เดือน โดยจะดำเนินการรื้อย้ายบ้านเดิมทั้งหมด 98 หลัง ระยะทางตามแนวคลอง 628 เมตร ซึ่งจะสามารถก่อสร้างบ้านใหม่ให้กับสมาชิกได้ 211 หลัง โดยแผนการรื้อย้ายจะดำเนินการในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม 2563 และคาดว่าจะเริ่มปลูกสร้างบ้านใหม่ได้ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2563 พร้อมกับการก่อสร้างเขื่อนของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ระยะเวลาในการก่อสร้างบ้านประมาณ 8 เดือน โดยรูปแบบบ้านจะมี 2 แบบตามความสามารถในการรับภาระของแต่ละครัวเรือน คือ บ้านแถวสองชั้นขนาด 4×7 เมตร จำนวน 200 หลัง ผ่อนเดือนละ 2,579 บาท และบ้านแถวชั้นเดียวขนาด 4×7 เมตร จำนวน 11 หลัง ผ่อนเดือนละ 1,493 บาท ระยะเวลา 20 ปี โดยที่ผ่านมาจังหวัดปทุมธานี และพอช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เปิดเวทีชี้แจงสร้างความเข้าใจการพัฒนาที่อยู่อาศัยริมคลองเปรมประชากรกับประชาชนมาโดยตลอดเพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น ตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ด้วยทรงมุ่งหวังให้ พสกนิกรทุกหมู่เหล่ามีความป็นอยู่ที่ดีขึ้น
นายไมตรี อินทุสุต กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการดำเนินการพัฒนาชุมชนริมคลองระยะต่อไป ในช่วงเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2563 จะเริ่มต้นรื้อย้ายบ้านเดิมและก่อสร้างบ้านใหม่ไปพร้อมกับการก่อสร้างเขื่อนของสำนักการระบายน้ำ กทม. ใน 2 เขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร คือ เขตหลักสี่ ชุมชนศิษย์หลวงปู่ขาวและชุมชนตลาดบางเขน และเขตจตุจักร ชุมชนสามัคคีเทวสุนทร และชุมชนประชาร่วมใจ 1 ระยะทางรื้อย้ายรวมประมาณ 1.8 กิโลเมตร บ้านรุกล้ำประมาณ 288 หลัง ซึ่งจะก่อสร้างบ้านใหม่ได้ประมาณ 181 หลัง และจะดำเนินการต่อเนื่องจนครบทุกพื้นที่ภายในปี 2565 โดยในอนาคตหากการดำเนินงานเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ตามแผนแม่บทฯ ชาวชุมชนริมคลองมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถเข้าถึงการบริการสาธารณะ เช่น การเชื่อมต่อระบบรถ ราง เรือ ในพื้นที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้า เชื่อมต่อกับทางจักรยานริมคลอง รวมถึงมีความมั่นคงในที่อยู่อาศัย มีบ้านที่สวยงาม และมีคลองที่สามารถระบายน้ำได้เต็มประสิทธิภาพ สิ่งแวดล้อมดีเหมาะกับการอยู่อาศัย มีชุมชนเข้มแข็ง ประชาชนมีความสุข มีสังคมที่น่าอยู่ต่อไป