เมื่อวันนี้ 14 กันยายน 2563 ร.ต.อ.วิรุฬห์กิจ ต้นตระกูล พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งพบรถจักรยานยนต์จอด อยู่กลางสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ถนน 356 ม.3 ต.บ้านรุน อ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดตรวจสอบพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์
ที่เกิดเหตุบริเวณกลางสะพาน พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า คลิก สีดำแดง หมายเลขทะเบียน อปธ 592 กรุงเทพมหานคร เสียบกุญแจรถ คาอยู่ ไม่พบเจ้าของหรือผู้ขับขี่ ตรวจสอบพบกระเป๋าสะพายลายทหาร 1 ใบ วางอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ ภายในกระเป๋า พบซองปืน สีน้ำตาล 1 อัน ภายใต้เบาะรถตรวจสอบพบกระเป๋าสตางค์ สีดำ 1 ใบ บัตรประจำตัวเจ้าหน้าทีอาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์ ภายในกระเป๋าสตางค์พบบัตรประจำตัวประชาชน ระบุชื่อนาย ธนาดุล ภากรโชติ อายุ 42 ปี เป็นชาว ม.3 ต.ลำตาเสา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และยังพบเอกสารใบอนุญาต ให้มีและใช้อาวุธปืน ( ป.4 ) ยี่ห้อ CZ ขนาด 9 มม.และยังพบจดหมาย 3 ฉบับ
ฉบับที่ 1.ถึง เจ้าหน้าที่ ต.ร. ข้อความว่า “ ผมยิงตัวตายเองไม่มีใครบังคับ ปัญหาส่วนตัว ศพผมไม่ต้องสงผ่าไม่ชันสูตร ไม่มีประกันอะไรสักอย่าง ส่งกลับวังน้อยอย่างเดียว ขอบคุณครับ ธนาดุล ภารโชติ
ฉบับที่ 2.ถึง ป๋าเก๋ ข้อความว่า “ กราบเท้า..ป๋าเก๋ที่เคารพอย่างสูง ขอบคุณป๋าเก๋ที่ให้ผมอาศัยบ้านเลขที่ให้อยู่จนมีครบทุกอย่าง แต่ด้วยอะไรหลายๆ อย่างผมต้องก้าวออกมาเองผมรู้ว่าป๋าไม่ชอบผมผมมันตัวซวยและมีหลายคนที่ไม่ชอบผม สุดท้ายนี้ ป๋าจัดการเรื่องศพให้ด้วยครับ รักและเคารพป๋าเก๋เสมอ
และฉบับที่ 3.ถึง พี่โอ๊ต หงส์หยก “ กราบเรียนพี่โอ๊ต พี่โอ๊ตคงเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นนะคับผมเลยไม่เข้าไปที่ศูนย์เพราะคำพูดผู้ใหญ่บางคนใช้คำพูดที่แรงไปสำหรับผมผมอายุ 42 ปีไม่ใช่เด็กที่นึกจะด่าก็ด่าผมรู้พี่โอ๊ตเข้าใจเพราะตั้งแต่ผมมาอยู่กับกิตติไม่เคยเห็นว่าใครสักคนแต่กลับตรงข้ามพี่โอ๊ตคือผู้ให้มาตลอดให้ผมมาตลอด ผมฝากจัดการเรื่องศพด้วยคับ ไม่ต้องชันสูตร ไม่ผ่า เอากลับมาเผาที่วังน้อย รักและเคารพอย่างสูง ธนาดุล ภากรโชติ ผมมีอะไรจะเล่าให้ศักดิ์ฟังเสมอ
ใกล้กับที่รถจักรยานยนต์จอดอยู่ ที่ราวสะพานพบคราบเลือดจุดเล็กๆ บริเวณราวสะพานกับสายไฟที่อยู่ติดอยู่กับราวสะพาน เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกระจายกำลังตรวจสอบก็ไม่พบชายคนดังกล่าวพร้อมกับประสานเรือและกำลังเจ้าหน้าที่ประดาน้ำอาสาสมัครสมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา ออกต้นหาภายในน้ำแต่ยังไม่พบ
เบื้องต้นสอบถาม ป๋าเก๋ หรือนายกิตติพงษ์ ใจธรรมดี ประธานสภาเทศบาลตำบลลำตาเสา ที่ผู้สูญหายระบุในจดหมาย เล่าว่าผู้สูญหายเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์และเป็นอส.อยู่อำเภอวังน้อย รู้จักกันมานับ 10 ปี โดยมาอาศัยอยู่ในทะเบียนบ้านของตน ซึ่งตนก็รักเอ็นดูเหมือนน้อง เหมือนลูกเหมือนหลาน ช่วงหลักพึ่งเลิกกับแฟน บ่นเขาเรื่องผู้หญิง บ่นเมื่อเดือนที่แล้ว และก็ไปติดผู้หญิงใหม่เราก็ไม่รู้ว่าคือใคร อาจจะมีปัญญาน้อยใจกับผู้หญิงใหม่หรือเปล่าเราก็ไม่รู้ เพราะเจอกันล่าสุดก็ทำงานปกติ จะมีนิสัยผู้ตายเป็นคนขี้น้อยใจแค่เท่านั้นเอง ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุหรือคิดสั้นแบบนี้
ต่อมาเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำ สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา ใช้เวลาค้นหาอยู่ 2 ชั่วโมงบริเวณกลางแม่น้ำ จึงพบโทรศัพท์ ยี่ห้อ Samsung a5 ของผู้ตาย ตกจมอยู่ใต้แม่น้ำเจ้าพระยา จึงทำการค้นหาอยู่บริเวณโดยรอบ ก็พบอาวุธปืน มีเชือกผูกอยู่เจ้าหน้าที่จึงได้ดึงอาวุธปืนก่อนไปพบว่าผูกติดอยู่กับมือขวาของผู้เสียชีวิต จากนั้นจึงได้นำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาตรวจสอบ พบว่าผู้เสียชีวิตนั้นใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่ขมับขวาตุงอยู่ขมับซ้าย สภาพสวมใส่เสื้อเสื้อยีนส์สีน้ำเงินแขนยาว ใส่เสื้อคอกลมสีแดง สวมใส่กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน และสวมใส่รองเท้าผ้าใบ สีดำ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์เวรโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาชันสูตรเบื้องต้นก่อนให้เจ้าหน้าที่อาสานำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติจังหวัดปทุมธานีต่อไป