พ่อเมืองปทุมธานีนำข้าราชการ ประชาชน บวงสรวงสักการะศาลหลักเมืองครบรอบ42ปีและสักการะพระปทุมธรรมราชครบรอบ 121 ปี ประจำปี 2563
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 24 ส.ค.63 ที่ บริเวณศาลหลักเมืองจังหวัดปทุมธานี ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ดร.พินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ประธานพิธีกราบสักการะพระปทุมธรรมราช ครบรอบ 121 ปี และพิธีบวงสรวงสักการะเสาหลักเมืองจังหวัดปทุมธานีครบรอบ 42 ปี ประจำปี 2563
โดยมี นายกิตติพงศ์ ทองปุย ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดปทุมธานี นายสุชิต โต๊ะวิเศษกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดธัญบุรี นางดลวสา บุญเลิศ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดปทุมธานี นายชาธิป รุจนเสรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายจรูญศักดิ์ สิงหเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ปลัดจังหวัดปทุมธานี นายอาวุธ วิเชียรฉาย นายอำเภอเมืองปทุมธานี นางสาวธนียา นัยพินิจหัวหน้าสำนักงานจังหวัดปทุมธานี นางสาวฐิต์ณัฐ สมบัติศิริ วัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานี พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ประชาชน ชาวจังหวัดปทุมธานี ร่วมกันประกอบพิธี ที่บริเวณศาลหลักเมืองปทุมธานีและในโอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีได้ทำพิธีผูกผ้าแพรสามสีและคล้องมาลัยหลักเมืองด้วย ซึ่งพิธีบวงสรวงศาลหลักเมืองปทุมธานีครั้งนี้เป็นโอกาสครบรอบ 205 ปีของการพระราชทานนามเมืองปทุมธานีและครบรอบ 42 ปีศาลหลักเมืองอีกด้วย การบูชาหลักเมืองถือเป็นประเพณีปฏิบัติที่สืบทอดต่อเนื่องมาเป็นประจำทุกปี เพื่อความเป็นสิริมงคลของบ้านเมืองและเป็นการอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีอันเก่าแก่และดีงามของชาวปทุมธานี ให้สืบทอดแก่อนุชนรุ่นหลัง เป็นมรดกทางวัฒนธรรมสืบไป
ดร.พินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่าวันนี้นับเป็นวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ อีกวันหนึ่งของ จังหวัดปทุมธานี สืบเนื่องจากเมื่อครั้งท่านสุธี โอบอ้อม ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ในปี พ.ศ.2519 ได้พิจารณาเห็นว่าจังหวัดปทุมธานี มีความเป็นถิ่นฐานบ้านเมือง มาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน แต่ยังไม่มีหลักเมือง ที่เป็นปูชนียสถาน อันมั่นคง เป็นที่สักการะบูชา และเป็นที่รวมใจ ของชาวปทุมธานีมาก่อน จึงได้ร่วมกับข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนชาวจังหวัดปทุมธานี บริจาคทรัพย์ เพื่อทำการสร้างศาลหลักเมือง และเสาหลักเมืองตามรูปแบบของกรมศิลปากร โดยสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (วาสน์ วาสโน)ทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ และเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2520 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อม ทรงพระสุหร่าย และทรงเจิมยอดหลักเมือง เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2521 ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐานพระราชวังดุสิต และพระราชทาน ให้นำมาประดิษฐาน ณ ศาลหลักเมืองจังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2521 โดย ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบรุษ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กรุณา เป็นประธานในพิธีบวงสรวงศาลหลักเมือง จังหวัดปทุมธานี
ศาลหลักเมืองจังหวัดปทุมธานี เป็นศาลาแบบจัตุรมุขยอดปรางค์ ประดิษฐานเสาหลักเมือง ซึ่งมีลักษณะเป็นเสากลม ทำจากไม้ชัยพฤกษ์ ฐานแกะสลักเป็นดอกบัวรองรับ หัวเสาแกะเป็นลูกบัวแก้ว ด้านในศาลตั้งรูปเคารพตรงกลางเป็นรูปหล่อโลหะ “พระกาฬไชยศรี” ประทับบนหลังนกแสกกระหนาบด้วย “พระเสื้อเมือง” ด้านขวาเป็นรูปเทวดาสวมมงกุฎ พระหัตถ์ซ้ายถือคฑา พระหัตถ์ขวาชูขึ้นระดับพระเศียร เครื่องทรงมีชายไหว ชายแครงประทับบนแท่น ด้านซ้าย “พระทรงเมือง” เป็นรูปเทวดาสวมมงกุฎถือพระขรรค์ด้วยพระหัตถ์ซ้าย พระหัตถ์ขวายกขึ้นในระดับเศียรประทับยืนบนแท่น
โดยวันนี้ที่ชาวจังหวัดปทุมธานี ได้พร้อมใจกันสืบสานประเพณีปฏิบัติที่ดีงาม ประกอบพิธีบวงสรวงสักการะหลักเมืองจังหวัดปทุมธานี อันเป็นศูนย์รวมน้ำใจของชาวปทุมธานี เพื่อความเป็นสิริมงคล ความร่มเย็นเป็นสุข และความรุ่งเรืองสถาพร อีกทั้งเป็นการ ประกาศความสมานฉันท์ ให้เห็นถึงความรัก ความสามัคคี โดยได้ร่วมกันน้อมถวายดอกไม้ ธูป เทียน บายศรี เครื่องตั้งสังเวย เพื่อเป็นการสักการะวันทา พระหลักเมือง และเทพเทวาทั้งหลายเพื่อความเป็นสิริมงคล ของพี่น้องชาวจังหวัดปทุมธานี ปัจจุบันศาลหลักเมืองตั้งอยู่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดปทุมธานี เป็นที่เคารพสักการะของชาวจังหวัดปทุมธานี มีผู้คนมากราบไหว้บูชากันอยู่มิได้ขาด นับว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นศูนย์รวมน้ำใจของชาวปทุมธานี ให้มีความรักสมัครสมานสามัคคีกันให้แข็งแกร่ง เพื่อปกป้องคุ้มครองสถาบัน ชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์ อันเป็นที่เคารพรักของชาวไทย