เชียงใหม่ ลงนาม (MOU) “น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

เชียงใหม่ จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่แผนปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร” ระยะที่ 2 สร้างวัฒนธรรมปลูกพืชผักประจำครัวเรือน

วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม 2563 เวลา 09.30 น.

นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ให้เกียรติเป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่แผนปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร” ระยะที่ 2 สร้างวัฒนธรรมปลูกพืชผักประจำครัวเรือน ระหว่าง 7 หน่วยงาน โดยมี นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์วรัญญู จำนงประสาทพร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ นายวิษณุ วิทยวราวัฒน์ ท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ นางเขมวรรณ ดวงจันทร์ เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ นายไพรัช ใหม่ชมภู รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ รศ.ดร.วีรพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ นายวิทยา ชุมภูคำ ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน รักษาราชการแทน พัฒนาการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เข้าร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงฯ ณ ห้องประชุม 3 อาคารอำนวยการ (ชั้น 3) ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

ในการนี้ นายวิทยา ชุมภูคำ ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน รักษาราชการแทน พัฒนาการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เป็นผู้กล่าวรายงานฯ สืบเนื่องจากกรมการพัฒนาชุมชน ได้ดำเนินการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่แผนปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งเป็นการลดรายจ่ายของประชาชน ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และเป็นแหล่งอาหารในครัวเรือน โดยเน้นการพึ่งตนเอง และความสามัคคีของคนในชุมชน เริ่มตั้งแต่ เดือนเมษายน 2563 จนถึง เดือนมิถุนายน 2563 โดยจังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินการภายใต้ชื่อ “1 ครัวเรือน 1 แปลงผัก 1 เสวียน เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร และลดหมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่” ปัจจุบันมีประชาชนในพื้นที่ 25 อำเภอ เข้าร่วมกิจกรรมแล้ว จำนวน 370,185 ครัวเรือน

เพื่อสร้างความต่อเนื่องให้เป็นพลัง จังหวัดเชียงใหม่ โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงใหม่ ได้กำหนดแผนขับเคลื่อน “น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่แผนปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร” ระยะที่ 2 การสร้างวัฒนธรรมปลูกพืชผักประจำครัวเรือน โดยมีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ 2 ยุติความหิวโหย บรรลุความมั่นคงทางอาหาร ยกระดับโภชนาการ ส่งเสริมการเกษตรกรรมที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ และสร้างความมั่นคงทางอาหาร (2) เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในชนบท และพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน (3) เพื่อสร้างรายได้ และสร้างเสริมความรัก ความสามัคคี และการเกื้อกูลของคนในชุมชน/หมู่บ้าน โดยจะดำเนินการ จำนวน 5 กิจกรรม ประกอบด้วย

(1) กิจกรรมความต่อเนื่องคือพลัง (หน่วยงานหลัก : สนง.พัฒนาชุมชนจังหวัด / มหาวิทยาลัยแม่โจ้
(2) กิจกรรมทำเป็นบ้าน สานเป็นกลุ่ม (หน่วยงานหลัก : สนง.เกษตรจังหวัด / สนง.พัฒนาชุมชนจังหวัด)
(3) กิจกรรมชุมชนสีเขียว เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (หน่วยงานหลัก : สนง.ส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัด / องค์การบริหารส่วนจังหวัด)
(4) กิจกรรมจากวัฒนธรรมสู่นวัตกรรม (หน่วยงานหลัก : สนง.ส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัด / สนง.สาธารณสุขจังหวัด)
(5) กิจกรรมชุมชนเกื้อกูล เพิ่มพูนสามัคคี วิถีพอเพียง (หน่วยงานหลัก : สนง.ส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัด / ที่ทำการปกครองจังหวัด / มหาวิทยาลัยแม่โจ้)

และในวันนี้ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ให้เกียรติเป็นประธานพิธีมอบเกียรติบัตร จำนวน 2 กิจกรรม ประกอบด้วย

1) อำเภอต้นแบบในการบูรณาการทำงาน “น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่แผนปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร” และขยายผลปลูกผักสวนครัวจากวัดสู่ชุมชน ตามหลัก “บวร” จนเกิดผลเป็นรูปธรรม จำนวน 1 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ โดยมี นายสราวุฒิ วรพงษ์ นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ รับมอบเกียรติบัตรฯ
2) รางวัลการประกวดร้านการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตามโครงการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มอาชีพสมาชิกสตรีกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี จำนวน 3 รางวัล คือ รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ อำเภอสันทราย รางวัลรองชนะเลิศลำดับ 1 ได้แก่ อำเภอพร้าว และ รางวัลรองชนะเลิศลำดับ 2 ได้แก่ อำเภอสันป่าตอง

//////////////////////////
วิญญู บุญสุวรรณ//ถ่ายภาพ : รายงาน
กลุ่มงานสารสนเทศฯ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงใหม่