สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาตรัง นำผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่สำรวจเส้นทางท่องเที่ยวระหว่างจังหวัดตรังและจังหวัดสตูล ซึ่งอยู่ในกลุ่มภาคใต้ฝั่งอันดา เพื่อเป็นการกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด -19 เริ่มดีขึ้น
นายสมัย โชติสกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่จังหวัดตรัง เพื่อสำรวจแนวเส้นทางการเดินเรือท่องเที่ยวฝั่งทะเลอันดามัน จากท่าเทียบเรือปากเมง อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ไปยังท่าเรือเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล พร้อมตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างท่าเทียบหาดปากเมง อ.สิเกา จ.ตรังซึ่งใช้งบประมาณของกรมเจ้าท่ากว่า 144 ล้านบาท และกำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 30 ธันวาคมนี้ ซึ่งจะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 1,000 คนต่อวัน แต่ขณะนี้การก่อสร้างแล้วเสร็จไปประมาณ 44% ส่วนตัวโครงการสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว คาดจะสามารถเปิดใช้ได้ทันเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ จากนั้น คณะผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนายลือลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นายพิเชษฐ์ สุดเดือน ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาตรังและผู้ประกอบการสมาคมท่องเที่ยวจ.ตรังพร้อมคณะ ลงเรือที่หาดปากเมง เพื่อเดินทางต่อไปยังเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที เมื่อไปเกาะหลีเป๊ะ มีนายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วยผู้ประกอบการสมาคมท่องเที่ยวจ.สตูลให้การต้อนรับ
ร่วมพูดคุยถึงประเด็นการเชื่อมโยงแนวเส้นทางการท่องเที่ยวฝั่งทะเลอันดามัน ในพื้นที่จังหวัดตรังและสตูล ทั้งทางบกและทางทะเล ซึ่งหากมองจากศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่มีอยู่เดิมของทั้ง 2 จังหวัด หากจะพัฒนาความเชื่อมโยงการท่องเที่ยวให้เพิ่มขึ้น กระทรวงคมนาคมจะต้องเติมเต็มเรื่องของโครงข่ายการคมนาคมให้เกิดขึ้นให้ได้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยยอมรับว่าจ.สตูลมีห้องพักชายทะเลที่หรูหราและมีราคาถูกกว่าที่จ.ตรัง แต่ความสวยงามและทรัพยากรทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์นั้นไม่ต่างกัน หากทั้งสองจังหวัดเชื่อมโยงกันได้ จะทำให้เกิดรายได้ในชุมชนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจ.ตรังได้รับงบประมาณในการขยายท่าอากาศยานตรังในปี 2564 และกำลังก่อสร้างท่าเทียบเรือชายหาดปากเมง อ.สิเกาเพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยว จึงต้องทำ MOU กับจ.สตูลเพื่อขยายการตลาดด้านการท่องเที่ยวและการประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น โดยผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งสองจังหวัด ได้ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเห็นด้วยในการทำ MOU เชื่อมโยงการท่องเที่ยวทั้งทางบกและทางทะเลกับจ.สตูลอย่างเป็นรูปธรรมในต้นปีหน้า
ด้านนายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า ได้แลกเปลี่ยนกันหลายมิติ นี่คือโอกาสภายใต้สถานการณ์หลังโควิดซึ่งต้องรีบทำ ซึ่งตนได้ข้อมูลไปก็จะนำไปผลักดันเข้าแผนปรับแผน ซึ่งตอนนี้กำลังปรับแผนปี 65 อยู่ ซึ่งได้เสนอที่ประชุมให้ทำเป็นเฟส อะไรที่ทำได้ให้ทำเลย ซึ่งตรังได้งบประมาณจากกรมเจ้าท่ามาสร้างท่าเรือหาดปากเมง 100 กว่าล้าน ตรงนี้ควรใช้ให้คุ้มค่าจึงมีการสำรวจเส้นทางร่วมกับจ.สตูล ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคมและตรัง และยืนยันว่ามรดกของฝั่งอันดามันโดยเฉพาะตรังและสตูลมีมากมาย ทั้งทางบกและทางทะเล โดยที่หลีเป๊ะที่เรายืนอยู่เชื่อว่าทุกคนอยากมา มาแล้วก็ต้องมาดูว่ายังขาดเหลืออะไร เช่นท่าเทียบเรือที่อำนวยความสะดวกยังไม่มี เราจะมีการผลักดันอย่างไรให้ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ขัดแย้งกับคนในพื้นที่ อันนี้เป็นเรื่องสำคัญ ในส่วนของการท่องเที่ยวกลุ่มอันดามันมี 6 จังหวัด แต่ภูเก็ต พังงา และกระบี่ ไปอีกส่วนหนึ่งแล้ว แต่ในส่วนของลูปอีกอันที่ควรทำการท่องเที่ยวร่วมมือกันคือสตูลและตรัง
มนต์เจริญ ศรีมงคล จ.ตรัง