ราชบุรี สาวเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวสุดช้ำโพสต์คลิปโจรขโมยหลวงปู่หลิวพระบูชาประจำร้าน
สาวเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเมืองราชบุรีสุดช้ำ ถูกโจรแสบสวมหมวกกันน๊อคอำพรางใบหน้าเย้ยกล้องวงจรปิดที่คอยจับพฤติกรรมเดินเข้ามาขโมย “หลวงปู่หลิวประทับพญาเต่าเรือน วัดไร่แตงทอง นครปฐม” พระบูชาประจำร้านเก่าแก่หนีหายไปอย่างลอยนวล นำคลิปโพสต์เตือนภัยผ่านโซเชียล และเตือนผู้ที่รับซื้อของโจรขอให้ไม่เจริญ
(20 มิ.ย. 63) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเจ้าของ facebook ชื่อ Chanidapha Pamornsuphakul ซึ่งเป็นเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวในอำเภอเมืองราชบุรี ได้นำคลิปภาพวินาที่ที่จับพฤติกรรมของคนร้ายไว้ได้อย่างชัดเจนที่เข้ามาก่อเหตุชิงทรัพย์ในช่วงยามวิกาล โดยเข้ามาขโมย พระบูชาประจำร้านที่มีอายุเก่าแก่ คือ “หลวงปู่หลิวประทับพญาเต่าเรือน วัดไร่แตงทอง นครปฐม” ไปจากหลังตู้ก๋วยเตี๋ยวในร้าน และหนีหายไปอย่างลอยนวล ได้นำโพสต์ผ่านหน้าฟีดของตนเองในรูปแบบสาธารณะ พร้อมระบุข้อความว่า “โจรใจบาป ขโมยแม้กระทั้งพระ (หลวงปู่หลิวกับพญาเต่า) ของทำมาหากิน ชั่วช้ามาก ขอให้มันตกนรกหมกไหม้ ตั้งใจเดินมาขโมยเลย เหมือนดูราดราวมาแล้ว พอหยิบได้ปุ๊บ มันวิ่งใส่เกียร์หมาเลย 5555 ไอ้โจรชั่ว ช่วงนี้ต้องระวังให้ดี โจรเยอะ”
ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปสอบถามเรื่องราวของพฤติกรรมของคนร้ายและความคืบหน้าเหตุการณ์ดังกล่าว พบว่าร้านดังกล่าวชื่อ “ร้านตู้ก๋วยเตี๋ยว” ตั้งอยู่บริเวณริมถนนสายราชบุรี – ผาปรก หมู่ 15 ต.เกาะพลับพลา อ.เมือง จ.ราชบุรี อยู่ฝั่งตรงข้ามกับค่ายบูรฉัตร ราชบุรี มี น.ส.ชนิดาภา ภมรศุภกุล วัย 30 ปี เจ้าของร้าน และเป็นเจ้าของ facebook ชื่อ Chanidapha Pamornsuphakul ผู้นำเสนอเรื่องราว
คุณชนิดาภา เจ้าของร้าน เล่าให้ฟังว่า เหตุเกิดเมื่อช่วงประมาณ 04.00 น. (ตี 4) ของวันที่ 19 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยพระบูชาที่คนร้ายขโมยไปนั้นคือ หลวงปู่หลิวประทับพญาเต่าเรือน วัดไร่แตงทอง นครปฐม ซึ่งเป็นของเก่าแก่ของครอบครัวที่ได้บูชามาตลอด โดยจะตั้งบูชาไว้ที่หลังตู้ก๋วยเตี๋ยวเป็นประจำตั้งแต่ที่มาเปิดร้านที่เช่าตรงนี้ ประมาณ 1 ปีเศษแล้ว ไม่เคยหาย แต่มาครั้งนี้กลับถูกคนร้ายมาขโมยเอาไป โดยที่ตนเองมาทราบจากคุณแม่ ซึ่งมาเปิดร้านช่วงสายๆ ประมาณ 09.00 น. ซึ่งจะต้องจุดธูปบูชา ขณะนั้นคุณยายกำลังจะนำเครื่องดื่มชูกำลัง (ลิโพ) เปิดฝาแล้วเดินมาที่หน้าตู้ก๋วยเตี๋ยวเพื่อที่จะนำถวายหลวงปู่หลิว ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ในคลิปวีดีโอเลย ซึ่งตอนแรกตนและสามีก็แอบขำกันไม่หยุด เพราะตอนที่ทุกคนกำลังไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ประจำร้าน ตั้งแต่หิ้งพระ เจ้าที่ สัมปเวสี และ หลวงปู่หลิว ตามความเชื่อของพ่อค้าแม่ค้า และไม่มีใครรู้เลยว่าหลวงปู่หลิวท่านหายไป จนวินาทีที่คุณยายนำเครื่องดื่มชูกำลังจะขึ้นถวายที่หลังตู้ ปรากฏว่าหลวงปู่หลิวหายไปคุณยายถึงกำสะดุ้ง และชักมือนำเครื่องดื่มชูกำลังกลับมาแล้วเดินไปส่องหาในบ้านพร้อมทั้งสอบถามลูกสาว ว่าหลวงปู่หลิวไม่อยู่แล้วสงสัยท่านจะกลับวัด จากนั้นคุณแม่ก็ได้โทรศัพท์มาบอกตนเอง ว่าหลวงปู่หลิวที่ตั้งหลังตู้หายไป ตนจึงได้เปิดกล้องวงจรปิดย้อนหลังดูว่าหายไปได้อย่างไร จึงมาพบภาพเหตุการณ์ที่คนร้ายเข้ามาขโมยไป
โดยภาพจากกล้องวงจรปิดจะเห็นว่า เวลาประมาณ 04.39 น. ของวันที่ 19 มิ.ย.63 คนร้ายสวมหมวกกันน๊อคสีน้ำเงินปิดบังใบหน้าอย่างมิดชิด สวมเสือเชิดแขนยาวลายพรางขาวสลับดำ สวมกางเกงยีนขายาว ขับขี่รถจักรยานยนต์มาคนเดียวและมาจอดบนถนนด้านข้างของร้าน เพื่อหลบมุมกล้องวงจรปิด จากนั้นได้เดินอย่างสบายใจพุ่งตรงเข้ามายังตู้ก๋วยเตี๋ยวและหยิบขโมยเอา “หลวงปู่หลิวประทับพญาเต่าเรือน วัดไร่แตงทอง นครปฐม” เนื้อทองเหลือง หรือ เนื้อโลหะผสมสภาพเก่า แต่ไม่เอาฐานรองไป และรีบวิ่งไปที่รถจักรยานยนต์ที่จอดหลบมุมกล้องอยู่และรีบขับขี่ออกไปทันที โดยใช้เส้นทางมุ่งหน้าไปยังวัดเขากรวดหลบหนีไปอย่างรอบนวล โดยไม่เกรงกลัวว่ากล้องวงจรปิดที่ติดไว้จะจับภาพได้อย่างชัดเจน
ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นลักษณะหัวขโมย คาดว่าน่าจะมีการมาดูลาดราวไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เพราะเวลาที่ก่อเหตุเป็นเวลา 04.30 น. ซึ่งเป็นเวลาอีกไม่กี่นาทีที่แม่ของตนเองจะมาเปิดร้านเพื่อเตรียมตั้งร้าน ประมาณ 05.00 น. คนร้ายจะเห็นว่าที่ร้านมีกล้องวงจรปิด คอยจับภาพอยู่จึงได้สวมหมวกกันน๊อคและอำพรางใบหน้าไว้ ซึ่งตนคิดว่าไม่น่าจะเกิดเหตุได้เพราะที่ร้านมีกล้องถึง 9 ตัว จับไว้ทุกซอกทุกมุม แต่คนร้ายก็พยายามที่จะเข้ามาก่อเหตุได้ ทั้งนำรถไปจอดหลบมุมกล้อง และ อำพรางใบหน้า เดินเข้ามาก่อเหตุอย่างสบายใจ ตนก็คิดว่ากล้องจับขนาดนี้คงจับคนร้ายอยาก จึงได้นำคลิปภาพโพสต์ผ่านโซเชียล เพื่อเป็นการประณามและเตือนภัยถึงหลายๆร้านที่วางสิ่งของไว้ด้านหน้าร้าน แม้เราจะมีกล้องคอบจับ แต่คนร้ายก็ไม่เกรงกลัวเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ไปจนได้ นี่ยังโชคดีที่คนร้ายมุ่งเป้ามาที่เข้ามาขโมย หลวงปูหลิวไปอย่างเดียว แต่ตนก็เข้าใจว่า “หลวงปู่หลิวประทับพญาเต่าเรือน วัดไร่แตงทอง นครปฐม” องค์นี้มีราคาตอนที่ตนเองไปเปลี่ยนมาก็ 5,000 – 6,000 บาทแล้ว ถ้าคนร้ายนำไปขายตามแผงพระก็น่าจะได้ราคาหลายพันบาทอยู่ ทั้งนี้ตนอยากเตือนภัยผ่านโซเชียล พร้อมทั้งขอประณามคนร้ายรายนี้ และฝากเตือนผู้ที่รับซื้อของโจรขอให้ไม่เจริญ ตกนรกไปตามๆกัน อยู่ไม่เป็นสุขชีวิตมีแต่ความร้อนลุ่ม เป็นไปได้ขอให้นำมาวางคืนไว้ที่เดิม หลังจากนี้ตนจะไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองราชบุรี เพื่อติดตามว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร เพื่อจะได้ติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ประวิทย์ ลิ้มเจริญ จ.ราชบุรี