ประจวบคีรีขันธ์ คืบหน้าช้างป่ากุยบุรีตายในบ่อน้ำหน้าหุบมะกรูดตรวจพบกระสุนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 4 เม็ด

คืบหน้าช้างป่ากุยบุรีตายในบ่อน้ำหน้าหุบมะกรูดตรวจพบกระสุนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 4 เม็ด คาดถูกยิงมานานเกือบเดือนจนแผลติดเชื้อ ล้มลงขณะกินน้ำในบ่อ

วันที่​ 12​ มิ.ย.​63​ จากกรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ลาดตระเวนพบช้างป่านอนตายในบ่อ 5 บริเวณแปลงหญ้าหน้าหุบมะกรูด อุทยานแห่งชาติกุยบุรี บ้านรวมไทย ม.7 ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐาน สัตวแพทย์จากกรมอุทยานฯ ตำรวจ สภ.บ้านยางชุม และฝ่ายปกครองอำเภอกุยบุรี ได้ร่วมตรวจสอบ ช้างนอนตายอยู่ในน้ำจึงต้องใช้รถแบ็คโฮ นำซากช้างขึ้นมาจากบ่อน้ำ จากนั้นใช้เครื่องสแกนโลหะ พบว่าที่บั้นท้ายมีเสียงของโลหะฝังอยู่จำนวน 3 แห่ง และที่ชายโครงหลังขาหน้าข้างขวา อีก 1 แห่ง ทางสัตว์แพทย์จึงได้ลงมือผ่าผิวหนังออกมาพบหัวกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 (ขนาด 9 เม็ด) จำนวน 4 เม็ด ซึ่งจากการตรวจของสัตวแพทย์พบว่ากระสุนเม็ดที่ 4 เป็นนัดที่อันตรายที่สุดเนื่องจาก เป็นกระสุนที่เข้าจากกลางหลัง มาทะลุซี่โครง เข้าไปถึงอวัยวะภายใน และ บริเวณหลังขาหน้าข้างขวา
จากการผ่าพิสูจน์ของสัตวแพทย์พบว่าอวัยวะภายในเริ่มเน่า จนไม่สามารถนำชิ้นเนื้อไปตรวจได้ และพบว่ามีน้ำอยู่ในปอดจำนวนมาก คาดว่าช้างเกิดติดเชื้อมานานนับเดือน ส่งผลทำให้อวัยวะภายในเริ่มเน่า และเมื่อช้างลงมากินน้ำทำให้เกิดน้ำท่วมปอดและล้มลงดังกล่าว


ด้านนายศรีสวัสดิ์ บุญมา กำนันตำบลหาดขาม กล่าวว่า น่าจะเป็นฝีมือชาวบ้านที่มาเฝ้าไร่ แต่ยังไม่ทราบว่า ถูกยิงมาจากที่ไหน เนื่องจากเส้นทางเดินของช้างชุดนี้สามารถเดินไปถึงอำเภอปราณบุรี สามร้อยยอด และกุยบุรี จึงไม่สามารถระบุได้ว่าช้างตัวนี้ถูกยิงมาจากที่ใด ในเบื้องต้น จะให้ทางอำเภอเรียกชาวบ้านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมปรึกษาหารือเกี่ยวกับการเฝ้าระวังช้างป่า ในส่วนชาวบ้านหาดขามในพื้นที่ต้องมาตราการห้ามให้นำอาวุธปืนมาใช้เฝ้าไร่

กำนันตำบลหาดขามกล่าวต่อว่า ช้างตัวนี้น่าจะโดนยิงจากคนที่อยู่ในที่สูง แต่ไม่ได้ตั้งใจยิงให้ตายเพียงเพื่อยิงไล่ช้างให้ออกไปจากไร่เท่านั้น แต่กระสุนที่ยิงเข้าไปในตัวช้างทำให้ช้างเกิดเป็นแผลและอักเสบจนติดเชื้อ ส่วนวิถีกระสุนทั้งหมดยิงลงมาเข้าทางด้านสันหลังและบั้นท้ายของช้าง
พ.ต.อ.ไชยกร ศรีหล้าเดโช ผกก.สภ.บ้านยางชุม กล่าวว่า หลังจากที่ผ่าพบกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 ขนาด 9 เม็ด ที่ตัวช้าง จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนออกหาข่าว และประสานไปยังที่ว่าการอำเภอกุยบุรี เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่ครอบครองอาวุธปืนลูกซองทั้งหมดมาตรวจสอบ อีกทั้งให้ค้นหาผู้ที่เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับการล่าสัตว์มาสอบสวนต่อไป

ณัฐธภพ​ พันสาย​ / จ.ประจวบคีรีขันธ์​ รายงาน
////////////////////////////////////