สุพรรณบุรี. เจอพิษโควิดแล้วยังถูกโจรฝ่าเคอร์ฟิวลักตัดกล้วยในสวนร่วม50เครือ

สุพรรณบุรี.  เจอพิษโควิดแล้วยังถูกโจรฝ่าเคอร์ฟิวลักตัดกล้วยในสวนร่วม50เครือ
ที่ จ.สุพรรณบุรี ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายธนชิต เจ้าท้าว อายุ 38 ปีชาวบ้านหมู่ 12 ต.บ้านโข้ง อ.อู่ทอง จ.พรรณบุรี ว่าถูกโจรใจร้ายลักตัดกล้วยที่ปลูกไว้ในสวนไปเกือบ 50 เครือ


หลังรับแจ้งผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบพบนายธนชิต เจ้าท้าว อายุ 38 ปีชาวบ้านหมู่ 12 ต.บ้านโข้ง เจ้าของสวนยืนรอด้วยใบหน้าที่สุดเซ็งพร้อมกับพาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ดูวามเสียหายที่เจ้าโจรใจร้ายได้ทำไว้ พร้อมกับเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าตนและภรรยาประกอบอาชีพการเกษตรพอเพียงตามรอยพ่อในหลวงรัชกาลที่ 9 ทำนาสวนผสมโดยแบ่งทำนาประมาณ 10 ไร่ทำสวนปลูกผักสวนครัว ปลูกกล้วยน้ำว้า ปลูกไม้ยืนต้น และค้าขายเพื่อหารายได้เสริมช่วงนี้กล้วยที่ปลูกไว้กำลังออกผลิตกำลังจะตัดไปขายแต่แล้วกลับถูกโจรใจร้ายมาลักตัดไปก่อนรวมแล้วเกือบ 50 เครือ แต่ละเครือจะมีกล้วยโดยเฉลี่ยประมาณ 10 หวีคิดราคาขายปลีกหวีละ 30 บาท รวมค่าเสียหายประมาณ 15,000 บาท


นายธนชิต เจ้าท้าว เจ้าของสวนกล้วยผู้เสียหายกล่าวว่ารู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นแต่ก็คิดในทางที่ดีเพื่อความสบายใจว่าเป็นการทำบุญไปคนที่มาลักตัดกล้วยของตนเขาคงไม่มีกินจริงๆเพราะไม่รู้จะทำยังไงคงต้องหาทางแก้ไขก็คือต้องมาเฝ้าเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้นกว่าเดิมเนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบเกิดขึ้นครั้งนี้เป็นครั้งแรกคนร้ายขโมยเอาไปซะเยอะเลย ก่อนหน้านี้ก็เคยมีเหตุการณ์คนร้ายขโมยของแต่เป็นทรัพย์สินอย่างอื่นเช่นเครื่องมือการเกษตร สายไฟ ท่อแป๊บน้ำประปา แต่ก็จับคนร้ายไม่ได้เนื่องจากคนร้ายมักจะเข้ามาก่อเหตุช่วงที่เจ้าของไม่อยู่ ตนอยากฝากถึงคนร้ายที่มาก่อเหตุและกำลังคิดจะก่อเหตุว่าถ้าไม่มีกินจริงๆก็มาขอตนได้ถ้าขอดีๆตนก็ให้ตนก็ไม่ใจร้ายแบ่งปันกันแต่ไม่น่ามาลักขโมยกันขนาดนี้ต้นกล้วยกว่าจะปลูกโตและออกผลมาได้ขนาดนี้ต้องใช้เวลาเป็นปีสิ่งสำคัญต้องใช้ใจเราดูแลรักษาด้วยแต่คนร้ายกลับมาเอาไปแบบนี้ก็รู้สึกเสียใจ


นายธนชิต เจ้าท้า ผู้เสียหายยังกล่าวอีกว่าทำไมต้องมาซ้ำเติมกันแบบนี้คนทั่วโลกรวมทั้งพี่น้องคนไทยเราต่างเจอปัญหาพิษโรคไวรัวโควิด 19 ระบาดก็ได้รับความลำบากและได้รับผลกระทบเดือดร้อนกันพอแรงอยู่แล้วเราทำมาหากินอย่างสุจริตที่ผ่านมาหลังจากไวรัสโควิด 19 ระบาดทางจังหวัดสุพรรณบุรี ได้มีนโยบายออกมาตรการประกาศปิดตลาดนัดในพื้นที่ อ.อู่ทอง ประมาณ 1 เดือนเนื่องจากพบผู้ติดเชื้อในพื้นเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ที่ทำให้ไม่สามารถค้าขายได้ทำให้เราไม่มีรายได้เข้ามาตนพยายามเดินทางไปหาขายอำเภออื่นซึ่งช่วงนั้นการแพร่ระบาดและมีคนติดเชื้อในเขต อ.อู่ทอง กำลังดังพอคนจัดตลาดนัดรู้ว่าตนเป็นคนอู่ทอง เข้าก็ไม่ให้เข้าไปขายเพราะเขากลัวเราจะไปแพร่เชื้อเขาก็ป้องกัน ตนก็ทำใจไม่ให้ขายก็ไม่เป็นไร กลับเข้ามาอยู่ในไร่ในสวนรอจนกว่าตลาดนัดจะเปิดกระทั่งมีการปลดล็อกก็เริ่มขายกันแต่ยังขายไม่ดีเนื่องจากลูกค้าที่เคยซื้อประจำที่เคยซื้อเราเมื่อมาไม่เจอก็ไปซื้อร้านอื่นทำให้เสียลูกค้าไปเลยจึงต้องมาเริ่มต้นใหม่ทำให้ได้รับผลกระทบอย่างเช่นกล้วยน้ำว้าในสวนที่เคยขายได้ราคาก็ต้องลดราคาลงเพื่อให้ขายได้พอเลี้ยงตัวรอดไปก่อน ซึ่งก่อนหน้าที่โควิดจะระบาดเราขายกล้วยได้เฉลี่ยวันละ 5 เครือ ตกเดือนละ 150 เครือทำให้มีรายได้ดีพอสมควรโดยตนจะปลูกกล้วยสลับรุ่นเพื่อให้มีกล้วยขายได้ตลอดกล้วยจะไม่ล้นตลาดราคาก็จะไม่ตก นอกจากตนจะปลูกกล้วยขายผล แล้วยังขายหน่อกล้วยด้วยซึ่งก็ขายดีมีพ่อค้าตลาดสีเขียวที่ขายพันธุ์พืชต่างๆจะมาติดต่อซื้อของเราไปขายต่อยอดสั่งเยอะมากแทบไม่มีเวลาขุดถือว่าประสบความสำเร็จแต่กลับมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็รู้สึกเสียใจและเซ็งต่อจากนี้สิ่งที่ทำได้คือต้องเฝ้าระวังและหาทางป้องกันเครือกล้วยที่เหลือเนื่องจากบางส่วนใกล้จะตัดได้แล้ว
ภัทรพล พรมพัก/สุพรรณบุรี