ประกาศจังหวัดนครปฐม ฉบับที่ 31 มาตรการผ่อนคลายห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้ มอลล์ ให้เปิดดำเนินการเพิ่มเติมได้
ขอความร่วมมือห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้ มอลล์ ให้เปิดดำเนินการเพิ่มเติมได้ ในส่วนที่เป็นการจำหน่ายสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภค และการให้บริการ รวมทั้งร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม ร้านเสริมสวย แต่งผม ตัดผม หรือทำเล็บ ยกเว้นส่วนที่เป็นโรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง ตูเกมส์ เครื่องเล่นหยอดเหรียญ สถานที่เล่นสเก็ตหรือโรลเลอร์เบรด หรือการละเล่นอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน คาราโอเกะ สวนสนุก สวนน้ำ สวนสัตว์ สนุกเกอร์ บิลเลียด ร้านเกมส์ สถานที่ออกำลังกายฟิตเนส สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สถานประกอบการนวดแผนไทย สถาบันกวดวิชา สนามพระเครื่อง ศูนย์ประชุม ทั้งนี้พื้นที่และกิจกรรมที่เปิดดำเนินการได้ ให้งดเว้นการจัดการแข่งขัน กิจกรรมส่งเสริมการขาย หรือการดำเนินการอื่นใดที่เปิดโอกาสให้ผู้คนมาชุมนุมกันหนาแน่น และให้เปิดดำเนินการได้จนถึงเวลา 20.00 นาฬิกา
– ขอให้ทำความสะอาดพื้น พื้นผิวสัมผัสบ่อยๆ ทั้งก่อนและหลังการให้บริการ และให้กำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน ให้ผู้ประกอบการ พนักงานบริการ ผู้ใช้บริการสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค เว้นระยะนั่งหรือยืนห่างกัน และเว้นระยะห่างในการเลือกสินค้าและชำระสินค้าอย่างน้อย 1 เมตร ให้ควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการมิให้แออัดและรวมกลุ่มกัน หรือลดเวลาในการทำกิจกรรมเท่าที่จำเป็น โดยถือหลักหลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสระหว่างกัน และเพิ่มมาตรการใช้แอพพลิเคชั่นติดตามตัวทางโทรศัพท์เคลื่อนที่มาใช้ได้ตามความเหมาะสม หรือใช้มาตรการควบคุมด้วยการบันทึกข้อมูลและรายงาน ทดแทนได้
– ให้โรงเรียนสอนดนตรี ภาษา เต้น สถาบันลีลาศหรือสอนลีลาศ สอนวาดภาพสอนศิลปะ สอนขับรถยนต์ โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ (ยิม) โรงเรียนสอนทำอาหาร หรือสถานที่เพื่อการจัดการเรียน การสอน การสอบ หรือการฝึกอบรมยังคงปิดกิจการต่อไป เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558
(ฉบับที่ 5) ข้อ 2 (1)
– ร้านเสริมสวย แต่งผม หรือตัดผม สำหรับบุรุษหรือสตรี ให้เปิดได้เฉพาะกิจกรรมสระ ตัด ซอยผม แต่งผม และต้องไม่มีผู้นั่งรอในร้าน เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 (ฉบับที่ 6) ข้อ 1(1) ง.
ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมหลัก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ทั้งนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจและให้คำแนะนำ หรือตักเตือนห้ามปรามได้ตลอดเวลา หากพบว่ามีการฝ่าฝืนมาตรการที่กำหนด ให้เสนอผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครปฐมสั่งปิดสถานที่นั้นเฉพาะราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป