สภากาชาดไทยส่งมอบอาหารจากครัวพระราชทานสู่ประชาชนในสมุทรสาครโดยไม่แบ่งแยกสัญชาติทั้งคนไทยและแรงงานข้ามชาติ
ด้วยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ทรงห่วงใยและทรงตระหนักถึงความเดือดร้อนของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคไวรัส โคโรน่า 2019 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้ง ครัวพระราชทาน อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ณ สำนักงานเหล่ากาชาดสมุทรสาคร เป็นแห่งแรกของประเทศ โดยได้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นมา เพื่อประกอบอาหารปรุงสุกใหม่สำหรับนำไปแจกประชาชนในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยไม่แบ่งแยกสัญชาติว่าเป็นคนไทย หรือแรงงานข้ามชาติ
สำหรับวันนี้ (14 พฤษภาคม 2563) ได้มีการจัดทำอาหารจากครัวพระราชทานทั้งหมด 1,700 กล่อง โดยจัดทำอาหาร 2 แบบ คือ ข้าวสวยกับผัดพริกแกงเป็ด พร้อมด้วยโบโลน่าทอดและไข่ต้ม จำนวน 1,500 กล่อง กับ ข้าวสวยผัดกะเพราลูกชิ้นปลาและไข่เค็มอีก 200 กล่อง โดยในเวลาประมาณ 10.30 น. ที่บริเวณหน้าสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นางชุติพร วิจิตร์แสงศรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร ผู้แทนจากสภากาชาดไทย คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร และผู้แทนจากหลายภาคส่วน ได้ร่วมกันมอบอาหารจากครัวพระราชทานให้แก่ประชาชนที่มารอรับจำนวน 400 กล่องเป็นจำนวนมากกว่าทุกวันที่ผ่านมาเพราะมีประชาชนมารอรับกันอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีผู้ใจบุญมอบผลไม้เป็นเงาะจากสวนในจังหวัดจันทบุรี เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรบ้านใกล้เรือนเคียงที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 อีกทางหนึ่ง และยังมีเครื่องดื่มช๊อกโกแลตสำหรับเด็ก กับน้ำดื่มร่วมด้วย โดยอาหารจากครัวพระราชทานนี้ นอกจากจะมอบให้กับประชาชนที่มารอรับที่หน้าสำนักงานกาชาดจังหวัดสมุทรสาครไปจนถึงวันที่ 17 พฤษภาคมนี้แล้ว ยังได้จัดส่งไปยังพื้นที่อำเภอทั้ง 3 อำเภอของจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อมอบให้กับประชาชนผู้ยากไร้ถึงบ้านอย่างทั่วถึงทุกพื้นที่
จากนั้นในเวลาประมาณ 11.00 น. นางชุติพร วิจิตร์แสงศรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย ผู้แทนสภากาชาดไทย ได้นำคณะเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยอาหารจากครัวพระราชทาน ลงไปมอบให้กับผู้ใช้แรงงานข้ามชาติที่ทำงานและพักอาศัยอยู่ในตลาดกุ้งสมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยพื้นที่ตลาดกุ้งนี้มีขนาดใหญ่ บริเวณภายในโดยรอบแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนแรกเป็นพื้นที่เพื่อการค้าขายส่งอาหารทะเลสดที่รับมาจากแปลงเกษตรกรโดยตรง เช่น กุ้ง กับปลาน้ำจืด เป็นต้น ลูกจ้างส่วนใหญ่เป็นแรงงานข้ามชาติสัญชาติเมียนมา และส่วนที่ 2 คือ พื้นที่เพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งมีแรงงานต่างด้าวพักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ถือเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ของกลุ่มแรงงานข้ามชาติ ขณะที่รูปแบบการจัดการทั้งเรื่องของการทำงานและพักอาศัยอยู่ในหอพักของกลุ่มแรงงานข้ามชาติที่มีสภาพค่อนข้างแออัด เพื่อให้ปลอดภัยจากไวรัสโคโรน่า 2019 นั้น ถ้าเป็นพื้นที่ทำงานก็จะมีทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าทำงาน การบังคับให้คนงานทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย มีเจลแอลกอฮอล์ตั้งไว้ให้ล้างมือ และมีการล้างพื้นที่โดยรอบพร้อมกันทุกสัปดาห์ ส่วนบริเวณที่พักอาศัย ก็มีการรณรงค์ให้แรงงานข้ามชาติทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกมาจากห้อง หรือหากใครไม่สวมหน้ากากอนามัยมาติดต่องาน ทางผู้ประกอบการทุกรายก็จะไม่รับติดต่อประสานงานในทุกๆ เรื่อง รวมถึงยังควบคุมไม่ให้มีการรวมตัวมั่วสุมกันเป็นกลุ่มใหญ่อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ อาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว หรือ อสต. เข้ามารณรงค์ให้ความรู้เรื่องการป้องกันและดูแลตนเองให้ห่างไกลจากไวรัสโควิด-19 ตลอดจนการสุ่มตรวจตัวอย่างเพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกอีกด้วย
สำหรับอาหารปรุงสุกจากครัวพระราชทาน อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ที่แจกจ่ายไปยังประชาชนในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครนั้น ได้คำนึงถึงการเป็นต้นแบบที่ดีด้านการจัดการครัวที่เน้นความสะอาด มีการจัดการสุขาภิบาลที่ได้มาตรฐาน มีเมนูอาหารที่สด สะอาด บุคลากรที่เตรียมเครื่องปรุงจะแต่งกายตามมาตรฐานคือ สวมหมวกคลุมผม ใส่ผ้ากันเปื้อน สวมหน้ากากอนามัย และสวมถุงมือ รวมถึงการแจกจ่ายก็ดำเนินการจัดระเบียบการรักษาระยะห่างทางสังคม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ด้วย
ทั้งนี้ สภากาชาดไทย ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินเพื่อสมทบทุน จัดซื้อชุดธารน้ำใจกู้ชีวิต ฯ และหน้ากากอนามัยแบบผ้า โดยโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาสำนักสีลม ชื่อบัญชี “สภากาชาดไทย เพื่อภัยพิบัติ” ประเภทบัญชี “กระแสรายวัน” เลขที่ 001-1-34567-0 โดยสามารถขอรับใบเสร็จรับเงินเพื่อนำไปลดหย่อนภาษีได้ที่ donation@redcross.or.th พร้อมแจ้งชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ในการจัดส่งใบเสร็จ และเบอร์โทรศัพท์ แนบหลักฐานการโอนเงิน พร้อมระบุ “เพื่อช่วยเหลือสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศไทย” ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ เฟซบุ๊ก The Thai Red Cross Society