สมุทรสาคร ไฟไหม้บ้านพักคาดไฟฟ้าลัดวงจร

สมุทรสาคร   ไฟไหม้บ้านพักคาดไฟฟ้าลัดวงจร
เมื่อเวลาประมาณ21.30น.ของวันที่ 26 เมษายน 2563 พ.ต.ต.สุชาติ สมบูรณ์ สารวัตรเวรสภ.บางโทรัด รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่บ้านเลขที่ 39/4 ม.6 ต.นาโคก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมประสานรถน้ำดับเพลิงจากอบต.นาโคกและอบต.กาหลง และรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยนายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ที่เกิดเหตุเป็นเป็นบ้านไม้เก่าเจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดน้ำประมาณ30นาทีเพลิงจึงสงบ จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าบ้านดังกล่าวมีผู้อาศัยซึ่งเป็นผู้พิการทางสมองอาศัยอยู่ แต่ระหว่างเกิดเหตุยังไม่มีใครพบเห็นตัวผู้อาศัย โดยคาดว่า อาจจะออกมาช่วงไฟไหม้ โดยสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าไฟฟ้าลัดวงจร ค่าเสียหายประมาณ 2 แสนบาท โดยจะประสานเจ้าหน้าที่จากกองวิทยาการมาตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงต่อไป ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ09.00น.ของวันที่ 27 เมษายน 2563 ร.อ. ทรัพย์ตพล เอี่ยมเจริญ รองปลัดองค์การส่วนตำบลนาโคก และเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.นาโคกได้เดินทางมาดูความเสียหายของบ้านที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เพื่อดูแลและให้กำลังใจนางอ้อย นิลเลี่ยม อายุ 60 ปี เจ้าของบ้านและนาง ลินดา นาคทอง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/ 3 หมู่ที่ 6 ตำบลนาโคก อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาครซึ่งมีบ้านปลูกติดกันกันกับบ้านที่เกิดเหตุเพลิงไหม้และเป็นน้องสาวของบ้านหลังดังกล่าว และจากการสอบสอบถามนางลินดา ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุตนและสามีได้นั่งอยู่ในบ้านของตนแล้วจู่ๆก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนเดินหยียบสังกระสีตนจึงได้เปิดหน้าต่างดูจึงพบว่ามีไฟไหม้มาจากบริเวณหลังบ้านและลุกลามอย่างเร็ว

 

ตนจึงรีบโทรขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่อย่างเร่งด่วนและรีบตะโกนเรียกหลานชายที่อยู่ในบ้านซึ่งมีอาการป่วยฯแต่ก็ไม่มีเสียงตอบจากนั้นตนกับสามีจึงตัดสินใจลงไปในน้ำข้างบ้านเพื่อช่วยกันเอาน้ำสาดบ้านของตนเพื่อไม่ให้ไฟลุกลามมาถึงบ้านตน นางลินดา ยังกล่าวอีกว่าในขนาดนั้นในคูน้ำข้างบ้านนั้นน้ำก็ร้อนมากแต่ก็ต้องทนและก็ไม่ได้นึกถึงกระแสไฟฟ้าว่าจะรั่วหรือไม่นึกอย่างเดียวเพื่อไม่ให้ไฟลุกลามมาที่บ้านของตน นางลินดา ยังเล่าอีกว่าภายในที่ถูกเพลิงไหม้มีเครื่องลายครามและของเก่าที่เก็บมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่และที่หลานชายได้หามาสะสมไว้เป็นจำนวนมากเสียหายทั้งหมดตนรู้สึกเสียดายส่วนหลานที่ป่วยฯนั้นเจอตัวแล้วในช่วงเช้าโดยสอบถามได้ความว่าได้วิ่งหนีข้ามฝั่งถนนไปหลบอยู่ในกองเกลือแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างไรตนก็รู้สึกโล่งใจที่หลานชายปลอดภัยส่วนค่าทรัพย์ที่ได้รับความเสียหายที่รายงานทีแรกว่าประมาณ 200000 บาทนั้นจากการตรวจสอบอีกครั้งน่าจะอยู่ประมาณ 300000 บาทเพราะเครื่องลายครามและของเก่าที่เก็บไว้ล้วนแต่มีราคา
ส่วนทาง ร.อ. ทรัพย์ตพล เอี่ยมเจริญ รองปลัดองค์การส่วนตำบลนาโคกได้เข้ามาสำรวจถึงความเสียเพื่อจะได้มีการช่วยเหลือเยียวยาต่อเหตุการที่เกิดขึ้นและจะได้ประสานไปยังสำนักพัฒนาสังคม ให้เข้ามาดูแลเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าของบ้านอีกต่อไป
ชูชาต แดพยนต์ ทีมข่าวสมุทรสาคร