สุพรรณบุรี ผู้บริหารบีทีเอสผู้บริหารเนชั่นสาธารณสุขมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวอสม.เสียชีวิต
ที่ จ.สุพรรณบุรี เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 26 เมษายน นายคีรี กาญจนพาสน์. ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮดิ้งส์ จำกัด นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นายแพทย์ชัยวัฒน์ เตชะไพบูลย์ ผู้อำนวยการศูนย์นักรบเสื้อขาวสู้ภัยโควิด 19 นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ประธานบริษัทเนชั่นทีวี 22 นายฉัตรชัย ภู่โคกหวาย กรรมการผู้จัดการ เนชั่นทีวี พร้อมคณะเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 80 หมู่ 6 ต.ยางนอน อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี เยี่ยมให้กำลังใจและมอบเงินจำนวน 500,000 บาทให้กับครอบครัวของนายบุญส่ง มะนาวหวาน อายุ 72 ปี เจ้าหน้าที่ อสม.ที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตขณะขี่รถจักรยานยนต์นำหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือไปแจกให้กับคนในชุมชนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด 19
มีนางประเสริฐ มะนาวหวาน ภรรยา ผู้เสียชีวิตและครอบครัวมะนาวหวานเป็นผู้รับ มีนายพุฒิพัฒน์ ชวรัฐเลิศสกุล สาธารณสุขอำเภอเดิมบางนางบวช ผอ.รพสต.ยางนอน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข จ.สุพรรณบุรี น.ส.นิสา มะนาวหวาน อายุ 43 ปีลูกสาวผู้เสียชีวิต กำนันผู้ใหญ่บ้าน และญาติๆให้การต้อนรับ โดยนางประเสริฐ มะนาวหวาน ภรรยา ผู้เสียชีวิตและครอบครัวมะนาวหวาน รับมอบพร้อมกล่าวว่าขอขอบคุณผู้ใหญ่ในบ้านเมืองรวมทั้งผู้บริหารเนชั่นทีวี ผู้บริหารบริษัท บีทีเอส ที่ให้ความสำคัญกับผู้เสียชีวิตที่เป็น อสม.รับใช้ดูแลประชาชนช่วยเหลือหน่วยงานราชการและสังคมครอบครัว มะนาวหวานรู้สึกซาบซึ้งและภูมิใจที่แม้จะสูญเสียบุคคลที่สำคัญยิ่งของครอบครัว นอกจากนี้ทางครอบครัวมะนาวหวานได้มอบผลกระเจี๊ยบออแกนิค ที่นายบุญส่ง มะนาวหวาน ผู้เสียชีวิตปลูกไว้ด้วยตัวให้คณะเป็นการขอบคุณ
นายคีรี กาญจนพาสน์. ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัทบีทีเอสกล่าวว่าขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต ตนได้รับการแนะนำจากกระทรวงว่าถ้าเป็นไปได้อยากให้ตั้งกองทุนให้กับ อสม.ซึ่งมีเกินล้านคนให้มีขวัญกำลังใจในออกมาทำงานให้กับพี่น้องประชาชนวันนี้เป็นรายแรกที่ต้องใช้เงินก้อนนี้ซึ่งได้มอบให้กับครอบครัวไป 500,000 บาทกับการเสียชีวิตคราวนี้ที่มาวันนี้มาในฐานะมาดูเรื่องโครงการนี้ว่าจะเป็นอย่างไรซึ่งคุณหมอทุกท่านได้ทำถูกต้องและได้มอบเงินให้กับญาติของลุงบุญส่ง แล้วการตั้งกองทุนนี้ตนคิดว่าในหลายๆอย่างก็มีคนช่วยแล้วเช่นอุปกรณ์ทางการแพทย์และด้านอาหารก็มีคนช่วยเยอะแล้วจริงๆแล้วเงินก้อนนี้ที่ทำทั้งหมดเกือบจะเรียกว่าครอบคลุมทั้งหมดไปถึงทั้งประเทศทั้งนักรบเสื้อขาว แพทย์พยาบาล และพยาบาลที่เป็นผู้ช่วยแพทย์เทคนิคก็ครอบคลุมทั้งหมดเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ทุกท่านที่ทำงานเพื่อประเทศชาติประชาชน แม้ว่ารัฐบาลทำดีอยู่แล้วครั้งนี้ท่านนายกรัฐมนตรีก็เต็มที่ในการทำงานเพื่อประชาชนเกี่ยวกับเรื่องโควิด 19 แต่ว่าเอกชนก็ควรจะสละเวลาและทำเติมได้ทุกอย่างเพื่อจะช่วยกันทั้งประเทศตนก็เป็นบริษัทเล็กๆอันหนึ่งที่เข้ามาช่วยในด้านนี้หวังว่าจะขวัญกำลังใจให้กับทุกท่านที่อยู่ในแนวหน้าที่ทำงานให้กับประชาชนเพื่อภาวะอันนี้จะได้ไปจากเราให้เร็วที่สุดหวังว่าประเทศไทยของเราจะกลับมาสู่ภาวะปกติเพื่อเศรษฐกิจและทุกอย่างสู้ๆครับ
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่าต้องขอบคุณคีรี และหมอชัยวัฒน์ ที่ช่วยกันตั้งกองทุนให้กับ อสม.ที่เสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่เป็นขวัญและกำลังใจอย่างยิ่งขอเรียนว่า อสม.ทั้งประเทศจำนวน 1,050,000 คนที่เป็นนักรบอยู่แนวหน้าอยู่ในพื้นราบยินดีที่จะทำงานตรงนี้เพื่อให้โรคโควิด 19 ไม่เป็นปัญหาของประเทศไทยเพราะฉะนั้นอันนี้ก็เป็นขวัญและกำลังใจตนคิดว่าโดยเฉพาะวันนี้ทางครอบครัวของคุณลุงบุญส่ง ได้รับการดูแลและเป็นประโยชน์คิดว่า อสม.ทั้งประเทศรับทราบเรื่องนี้แล้วคงจะเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงานต่อไป
นายแพทย์ชัยวัฒน์ เตชะไพบูลย์ ผู้อำนวยการศูนย์นักรบเสื้อขาวสู้ภัยโควิด 19 กล่าวว่าเราจะต้องไม่ทำให้การเสียชีวิตของลุงบุญส่ง สูญเปล่า อสม.ทั้งประเทศทั้ง 1,050,000 คนอย่างที่เราทราบกันว่า อสม.กระจายอยู่ทั่วประเทศมีส่วนสำคัญในการคัดกรองผู้ป่วยในการที่ให้คำแนะนำแม้กระทั่งการนำเอาวัสดุอุปกรณ์ไปเพื่อป้องกันโรคเหมือนลุงบุญส่ง ที่เสียชีวิตไปทำนเจลและหน้ากากไปแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชน เพราะฉะนั้นประเทศเรา อสม.นั้นมีบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะเรื่องโควิด 19 อย่างที่ท่านนายกได้ทวิตไว้ว่าอาลัยอย่างยิ่งกับการจากไปของลุงบุญส่ง มะนาวหวาน ทางคุณคีรี และท่านอธิบดีธเรศ ได้เห็นความสำคัญครั้งนี้จึงเป็นการผนึกกำลังระหว่างภาครัฐเบอร์หนึ่งของประเทศคือท่านนายกรัฐมนตรีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ภาคเอกชน บีทีเอส โดยคุณคีรี กระทรวงสาธารณสุขโดยท่านอธิบดี เราจะผนึกกำลังกัน การเสียชีวิตของลุงบุญส่ง ต้องไม่เสียเปล่าจะต้องเป็นจุดเริ่มต้นของการดูแลซึ่งกันและกันเพราะฉะนั้นประเทศไทยเราจะต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วนเราต้องร่วมมือกันโดยให้ทางด่านหน้าคือแพทย์พยาบาลผู้ช่วยพยาบาล และ อสม.จะต้องจัดการเรื่องโควิดให้ได้โดยเร็ว
ภัทรพล พรมพัก/สุพรรณบุรี