สระบุรี ไทยช่วยไทย ไม่ทิ้งกัน จิตอาสารวมพลังแจกข้าวให้กับประชาชนที่โดนผลกระทบจากโควิด19 วันละ 1,000 ชุด

สระบุรี   ไทยช่วยไทย ไม่ทิ้งกัน จิตอาสารวมพลังแจกข้าวให้กับประชาชนที่โดนผลกระทบจากโควิด19 วันละ 1,000 ชุด
ที่ จ.สระบุรี น.ส. ปวรีวรรณ นันทปัญญา , . นาย วิรัช คูวิจิตรสุวรรณ ,.นาย ชัยทัต คูวิจิตรสุวรรณ ได้มีการรวมตัวและเพื่อนๆจิตอาสา ร่วมกันลงเงินจัดตั้งโรงครัวที่บ้าน นาย วิรัช คูวิจิตรสุวรรณ ซื้อวัตถุดิบมาช่วยกันทำกับข้าวเป็นการใหญ่ ทำผัดกะเพราหมู 1 ถุง พร้อมข้าว 1 กล่อง น้ำ 1 ขวด และกะหล่ำปี 1 หัวใหญ่ ออกมาตั้งโต๊ะช่วงเวลา 16.00 น. แจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด19 จำนวนทั้งหมด 1000 ชุด จนกว่าของจะหมด ที่บริเวณสี่แยกหนองหมู อ.วิหารแดง จ.สระบุรี  โดยฉะเพราะผู้ยากจนที่ไม่มีเงินซื้อข้าวกิน ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด19 เมื่อได้รู้ข่าวว่ามีการแจกอาหารปรุง สุก จึงได้มาเข้าแถวห่างกันคนละ 1-2 เมตรยาวเหยียด และก่อนเข้ารับของแจก ได้มีการล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ โดยมี ประชาชนและเด็กมาต่อคิวร่วมหลายร้อยคน การแจกข้าวในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะประชาชนให้ความร่วมมือดี ต่างดีอกดีใจที่ได้ข้าวไปกินกัน ชาวบ้านอยากให้ผู้ใจบุญที่มีจิตอาสา มาแจกข้าวเพื่อประทังชีวิตให้กับคนที่ไม่มีเงินซื้อข้าวกินและที่ได้รับผลกระทบจากโควิด19 ได้กินกันต่อไป


ทางด้าน นาย วิรัช คูวิจิตรสุวรรณ ได้กล่าวว่า โครงการไทยช่วยไทย ไม่ทิ้งกัน สู้ภัยโควิด19 ที่จังหวัดมีการล็อกดาวน์ ทำให้ชาวบ้านไม่มีงานทำ อดอยาก ตนเองเห็นวัดมาแจกอยู่แค่ 1 วันและก็หายไป ตนคิดว่าชาวบ้านยังยากจนอยู่ และไม่มีกินบางมื้อ ตนเองเลยฉวยโอกาสทำมาตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน จนถึงสิ้นเดือนเมษานี้ ชาวบ้านที่ได้รับข้าวไปกิน แต่ก็ยังยากจนอยู่ ตนก็อยากให้คนที่มีฐานะร่ำรวย ช่วยกันแจกบ้าง ใน อ.วิหารแดงตนเองก็จะยืนยัดสู้ไปจนถึงสิ้นเดือน วันนึงทำ 600-700 กล่อง บางวันก็มากถึง 1000 กล่อง ทำ 2 เวลา แค่ 2 วัน นอกนั้นทำแค่มื้อเย็นมื้อเดียว ส่วนมากประชาชนจะทำงานเป็นแบบรายวัน ทำวันกินวัน และแม่ค้าที่ขายของก็ขายไม่ได้ ทำให้รายได้ไม่มีพาให้อดอยาก บางบ้านไม่มีข้าวจะกิน ประชาชนก็หวังพึ่งรัฐบาลที่จะช่วยเงิน 5 พันบาท ส่วนมากคนที่จนจริงๆก็ไม่ได้ คนที่ได้กลับเป็นเจ้าของร้านทอง คนรวยๆได้เงินไปเพราะเล่นโทรศัพท์เป็น ชาวบ้านที่เล่นไม่เป็นก็ไม่ได้ มาบอกตนเอง ตนก็ไม่รู้จะช่วยยังไง ในเมื่อประชาชนไม่มีจะกิน ตนก็เลยจัดอาหารมื้อเย็นให้กิน ประชาชนก็เห็นดีเห็นชอบ อยากให้แจกตลอด ตนเองจึงคิดว่ามีแรงทำเท่าไหร่ก็จะทำเท่านั้น ตอนนี้ใช้เงินส่วนตัวออกค่าวัตถุดิบ งบวันละ 1 หมื่นบาท แต่ถ้าทางรัฐมีส่วนช่วยมาและประชาชนไม่เดือดร้อนก็จะหยุด แต่ถ้ายังเดือดร้อนอยู่ ขอมาก็จะช่วยต่อไป


ส่วน น.ส. ปวรีวรรณ นันทปัญญา ได้บอกว่า ตั้งแต่เริ่มโรคระบาดโควิด19 ก็จะเห็นถึงความเดือดร้อนที่แตกต่างกันของแต่ละจังหวัด บางบ้านไม่มีแม้กระทั่งข้าวสาร และหน้ากากอนามัยที่จะช่วย ทางเทศบาลหรืออบต.ที่รับผิดชอบไป บางทีก็เว้นไม่ไปแจก ซึ่งสามารถกำหนดจุดได้เลยว่า จุดไหนที่ได้หรือไม่ได้ ยิ่งชุมชนแออัดจะไม่มีเลย แม้กระทั่งข้าวจะกินยังไม่มี จึงอยากให้รัฐบาลส่งคนมาดูแลเรื่องนี้ บางทีคนในพื้นที่ช่วยกันดูแลเองมันก็เกินกำลัง เราจะแจกทุกๆอำเภอ เพราะตอนนี้เราไปเกือบจะทุกอำเภอแล้ว ตอนนี้ที่ยังไม่ได้มีการแจกก็คือ อ.บ้านหมอ และ อ.ดอนพุด ในการซื้อวัตถุดิบมีทั้งเงินส่วนตัวและเงินที่มีคนมาบริจาคมาด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งเราก็นำมาทำตามวัตถุประสงค์ที่เขาได้บริจาคมา ด้วยตัวเลขที่ชัดเจน ว่าใครให้มาเท่าไหร่ ซึ่งเราก็เปิดเผย แต่ตอนนี้เริ่มเป็นเงินส่วนตัวแล้วเพราะควักออกมากันเรื่อยๆตลอด ก็จะสู้ต่อไป ในเมื่อชาวบ้านไม่มีข้าวจะกิน/// วันชัย รายงาน