สุพรรณบุรี อสม.วัย72ปีขี่มอเตอร์ไซค์ไปแจกแมสป้องกันโควิดถูกชนเสียชีวิต
ที่ จ.สุพรรณบุรี เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 23 เมษายน นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอเดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี นายพุฒิพัฒน์ ชวรัฐเลิศสกุล สาธารณสุขอำเภอเดิมบางนางบวช พร้อมคณะเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 80 หมู่ 6 ต.ยางนอน อ.เดิมบางนางบวช เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจนางประเสริฐ มะนาวหวาน อายุ 66 ปีครอบครัวที่สูญเสียนายบุญส่ง มะนาวหวาน อายุ 72 ปีสามีอันเป็นสุดที่รักของครอบครัวซึ่งเป็น อสม.ของหมู่บ้านประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตที่บนถนนหน้าบ้านขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์นำหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือไปแจกชาวบ้านเหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 22 เมษายน ที่ผ่านมา
นางประเสริฐ มะนาวหวาน อายุ 66 ปีภรรยาผู้เสียชีวิตเล่าว่าตนมีลูกสี่คนต่างมีครอบครัวแยกย้ายกันอยู่คนละบ้านส่วนที่บ้านประกอบอาชีพเกษตรกรรมทำไร่กระเจี๊ยบขายเลี้ยงครอบครัวโดยสามีเป็นเสาหลักของครอบครัวร่วมกับลูกสาวคนที่สองช่วยกันทำหาเลี้ยงครอบครัว สามีเป็นคนดีโอบอ้อมอารีย์ชอบช่วยเหลือคนช่วยงานราชการจึงสมัครใจเป็น อสม.เมื่อปี 2529 เรื่อยมารวมแล้วกว่า 30 ปีทำงานไม่เคยขาดกระทั่งก่อนเกิดเหตุได้รับมอบหายจากประธาน อสม.ให้นำหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านในพื้นที่รับผิดชอบเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโควิด 19 ก่อนหน้านี้ได้แจกไปแล้วเกือบครบเหลืออีก 1 คนเช้าจึงรีบนำหน้ากากไปให้ชาวบ้านที่เหลือเพราะต้องทำเรื่องส่งอำเภอจากนั้นได้หยิบหน้ากากอนามัยและเจลไปห้อยที่แฮนด์รถแล้วรีบเร่งเครื่องออกจากบ้านเมื่อรถจักรยานยนต์ขึ้นไปบนถนนข้ามไปถึงเลนซ้ายแล้วทันใดนั้นมีเสียงแตรรถยนต์ดังขึ้นจากนั้นก็มีรถหกล้อบรรทุกน้ำแข็งซึ่งขับมาด้วยความเร็วชนรถจักรยานยนต์ของสามีล้มลงต่อหน้าต่อตาตน ทางด้านนายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอเดิมบางนางบวช กล่าวว่าการเสียชีวิตของ อสม.ครั้งนี้เป็นการเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ออกไปช่วยเหลือประชาชนในภาวะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เน้นย้ำให้ทางอำเภอเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งมี พรบ.ว่าด้วยการสงเคราะห์ผู้ประสบภัยจากการช่วยเหลือของราชการ ทางอำเภอได้เข้ามาดูแลและช่วยประสานกับทางสาธารณสุข ทางอสม.เพื่อรับเงินสงเคราะห์
นายพุฒิพัฒน์ ชวรัฐเลิศสกุล สาธารณสุขอำเภอเดิมบางนางบวช กล่าวว่าเสียชีวิตของนายบุญส่ง มะนาวหวาน อายุ 72 ปี อสม.นั้นเป็นการช่วยเหลืองานโควิด19 ตามนโยบายของนายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ขั้นแรกเราได้รับเงินส่วนตัวจากนายแพทย์วรงค์ รุ่งเรือง สาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี จำนวน 5,000 บาทในนามของสาธารณสุขเดิมบางฯสมทบ 5,000 บาท ชมรม อสม.ของ อ.เดิมบางนางบวช สมทบ 5,000 บาทโดยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฯจะทำหนังสือประสานไปทุกจังหวัดเพื่อขอความอนุเคราะห์ในการช่วยเหลือเรื่องเงินเพราะว่าเราทำงานด้านโควิดเพื่อป้องกันควบคุมโรค ส่วนน.ส.นิสา มะนาวหวาน อายุ 43 ปีลูกสาวผู้เสียชีวิตกล่าวทั้งน้ำตาว่าพ่อเป็นคนดีเป็นคนรักเมียรักครอบครัวรักลูกทุกคนเท่ากันสอนให้ลูกรู้จักทำมาหากินรู้จักอดทนประหยัดอดออมให้น้อมนำแนวพระราชดำรัสปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาใช้นอกจากจะสอนลูกแล้วพ่อยังช่วยลูกทำงานทุกอย่างทุกเช้าพ่อจะใส่บาตรพระก่อนทำงานเมื่อวานนี้พ่อยังช่วยลูกรดน้ำกระเจี๊ยบในไร่ไม่คิดว่าพ่อซึ่งเป็นที่รักของเมียและลูกทุกคนจะด่วนจากไปโดยไม่ทันตั้งตัวก่อนหน้านี้ตนเคยห้ามไม่ให้พ่อทำงานบอกว่าพ่อไม่ต้องทำพักผ่อนได้แล้วแต่คำพูดของที่ตอบกลับมาเหมือนลางสังหรณ์ด้วยคำพูดที่ว่าเดี๋ยวพ่อก็ได้พักแล้ว และพ่อก็ได้พักจริงๆตอนนี้สิ่งที่เหลือคือรอยเท้าของพ่อที่เดินย่ำดินช่วยลูกรดน้ำถอนหญ้าในไร่เท่านั้น
ทางด้านนายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่าได้สั่งการให้ผู้ใหญ่ทางจังหวัดไปร่วมงานให้ทางนายแพทย์ สสจ.บอกบุญไปยังพี่น้อง อสม.ในจังหวัดให้มาช่วยกันในส่วนของจังหวัดถือว่าผู้เสียชีวิตได้เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนเราจะขอค่าตอบแทนในฐานะที่ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติซึ่งจะมีหลักเกณฑ์การขอเงินช่วยเหลือครอบครัวอยู่ซึ่งได้สั่งให้นายอำเภอท้องที่ทำเรื่องเสนอขึ้นไปซึ่งเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นนอกจากนี้ยังขอเงินจากกระทรวงการคลังในส่วนที่ผู้เสียชีวิตทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติซึ่งก็จะมีเงินช่วยเหลืออีกจำนวนหนึ่ง สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้พวกเราทุกคนรู้สึกเสียใจที่ต้องสูญเสีย อสม.ซึ่งเป็นผู้ที่ทุ่มเททำงานเพื่อประเทศชาติประชาชนและสังคมจึงขอชื่นชมการทำงานและแสดงความเสียใจกับการจากไปของคุณตาบุญส่ง มะนาวหวาน อสม.ที่ทุ่มเททำงานเพื่อสังคมอย่างแท้จริง
ภัทรพล พรมพัก/สุพรรณบุรี