บุกจับโรงงานย่านปทุมธานี ตุนหน้ากากอนามัย เครื่องมือแพทย์และผลิตเจลล้างมือปลอมไม่มี อย.มูลค่ารวมกว่า10 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 23 เม.ย.2563 พล.ต.ต. ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบช.ก. พล.ต.ต. ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ภ.จว. ปทุมธานี พ.ต.อ. วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.ตร.มหด.904 สนธิกำลังตำรวจ บก.ปคบ.บก.ตร.มหด.904 ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี กรมการค้าภายใน และสำนักงานอาหารและยา นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลอาญาเลขที่ค64/2563 ลงวันที่ 23 เม.ย. เข้าตรวจค้นโกดังไม่มีเลขที่ ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนรังสิต-ปทุมธานี ต.บางพูน อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี หลังสืบทราบว่าโกดังดังกล่าวเป็นแหล่งพักสินค้าจำพวกหน้ากากอนามัย และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่เกิดเหตุเป็นโกดังขนาดใหญ่ เนื้อที่กว่า 5 ไร่ ตั้งอยู่ริมถนน ติดปั้มน้ำมันเอสโซ่ เจ้าหน้าที่นำหมายค้น เข้าตรวจค้นโกดังกล่าว โดยมีนายเอก (นามสมมุติ) อายุประมาณ 30 ปี ให้การรับเป็นผู้ดูแล จากการตรวจค้นพบหน้ากากอนามัย ไส้กรองหน้ากากอนามัย ชุดพีพีอี(ppe) เจลแอลกอฮอล์ ชุดตรวจเทอร์โมมิเตอร์วัดไข้ รวมของกลางมากกว่าแสนชิ้น นอกจากนี้ยังพบแกลลอนเจลแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ ภายในบรรจุเจลแอลกอฮอล์กว่า 600 ลิตร จำนวน 3 แกลลอน อุปกรณ์การผลิต และบรรจุภัณฑ์ จำนวนมาก มูลค่าของกลางรวมกว่า10 ล้านบาท
พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นโกดังแห่งนี้ สืบเนื่องจากชุดสืบสวนได้ทำการแกะรอยจากเว็บไซต์ที่มีการลักลอบจำหน่ายสินค้าในลักษณะดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีการใช้โกดังแห่งนี้เป็นสถานที่พักของ ก่อนที่จะกระจายไปยังผู้ค้ารายย่อย ซึ่งจากการสอบสวนผู้ดูแล เบื้องต้นให้การรับสารภาพสอดรับการแนวทางสืบสวนว่า เจ้าของบริษัทซิปปิ้งเป็นชาวจีน มีหน้าที่รับสินค้าที่สั่งมาจากประเทศจีนมาเก็บไว้ที่โกดังแห่งนี้ ก่อนจะทำการกระจายสินค้า อย่างไรก็ตามขั้นตอนจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ของกรมการค้าภายใน และทางสำนักงาน อย. จะเข้ามาทำการคัดแยกของกลางว่าจัดอยู่ในประเภทที่ได้คุณภาพหรือไม่ได้คุณภาพ รวมทั้งอยู่ในการกำกับดูแลในส่วนของกรมการค้าภายในหรือไม่ จากนั้นในส่วนของการสืบสวนขยายผลทางบก.ภ.จว.ปทุมธานี ได้ตั้งชุดพนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำที่มาที่ไป พร้อมดำเนินคดีในทุกความผิดที่พบ หากเข้าความผิดในส่วนใดก็จะเร่งดำเนินการ โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาตามความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ และ พ.ร.บ.เครื่องสำอาง
ในส่วนของกลางที่ทำการตรวจยึดนั้นทางพนักงานสอบสวนจะทำการสอบสวนหาที่มาที่ไป พร้อมระบุในสำนวนว่าของกลางทั้งหมดทางผู้ถูกกล่าวหายินยอมให้ตกเป็นของแผ่นดินหรือไม่ หากมีความประสงค์ยินยอมก็จะทำการบันทึกไว้ หลังจากที่นำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องศาลและศาลพิพากษาลงโทษ ทางพนักงานอัยการก็จะทำเรื่องมายังชุดพนักงานสอบสวนว่าให้คืนของกลางให้กับทางผู้ต้องหาซึ่งหากความประสงค์ของทางผู้ต้องหายินยอมที่จะให้ของกลางตกเป็นของแผ่นดินก็สามารถที่จะนำไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 85 ซึ่งในส่วนนี้เป็นนโยบายของทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ต้องการเร่งรัดการดำเนินคดีโดยประสานกับทางพนักงานอัยการและศาลเพื่อที่จะนำของกลางนั้นมาแจกจ่ายให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และพี่น้องประชาชนที่ยังมีความต้องการโดยเร็ว ซึ่งอุปกรณ์ของกลางที่ตรวจยึดได้หากเป็นอุปกรณ์ที่ผ่านการคัดกรองว่าได้คุณภาพ มีความจำเป็นและใช้ในทางการแพทย์ก็จะทำการส่งมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ในส่วนของหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ที่ผ่านการคัดกรองว่าได้คุณภาพ ก็จะทำการแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนที่มีความต้องการนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป