จังหวัดนครปฐม ประกาศปิดพื้นที่หรือบริเวณจำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งปลีกและส่งทุกประเภท สินค้าประเภทอื่นขายได้ตามปกติ และห้ามจำหน่ายหรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในสวนสาธารณะ สถานที่พักผ่อน ทั้งของรัฐและเอกชน ตลอดจนบนทางและบนรถ ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก โทษปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ
วันที่ 15 เมษายน 2563 นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดนครปฐม ได้ออกคำสั่งจังหวัดนครปฐม ที่ 896/2563 เรื่อง ปิดสถานที่จำหน่ายสุราหรือเรื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยที่สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ได้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและกว้างขวางไปหลายประเทศทั่วโลก โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 กำหนดให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 เป็นโรคติดต่ออันตราย ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีจึงได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ฉบับลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 เกี่ยวกับโรคดังกล่าว และจังหวัดนครปฐมมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นและพบผู้สัมผัสที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดโรคดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 35 (1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ประกอบกับข้อ 2 ข้อ 7 (1) ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครปฐม จึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ปิดสถานที่จำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งปลีกและส่ง ในส่วนพื้นที่หรือบริเวณที่มีการขายสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท สำหรับสินค้าประเภทอื่นให้สามารถขายได้ตามปกติ ทั้งนี้ มิให้บังคับกับการจำหน่ายของผู้ผลิตเพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักรไทย
ข้อ 2 ห้ามผู้ใดขาย หรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสวนสาธารณะของรัฐ เอกชน หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ที่จัดไว้เพื่อการพักผ่อนของประชาชนทั่วไป
ข้อ 3 ห้ามผู้ใดขาย หรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บนทางและบนรถตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก พ.ศ. 2522
ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ มีโทษตามนัยมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรืออาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 – 30 เมษายน พ.ศ. 2563
**************************************************************
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม – ภาพ/ข่าว