ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งการเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังการลักลอบเดินทางเข้ามากับเรือประมง เน้นย้ำตรวจเข้มเรือประมงทุกลำ หากมีการลักลอบขนคนให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และมีโทษปรับสูงสุดถึง 4 แสนบาท
ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการาตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดตรังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการประมง โดยมี พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง นายโกวิทย์ เก้าเอี้ยน ประมงจังหวัดตรัง ,ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกันตัง ,ศูนย์แจ้งเข้าออกเรือประมงกันตัง เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรกันตัง เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกจังหวัดที่มีพื้นที่ติดชายทะเล คุมเข้มเฝ้าระวังในการลักลอบเดินทางเข้ามาเข้ามาในพื้นที่ ในส่วนของจังหวัดตรังนั้น ขณะนี้มีลูกเรือประมงที่เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย ผ่านมาทางจังหวัดสงขลาและจังหวัดสตูล จำนวน 112 คน เป็นผู้ที่เดินทางมาอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งจังหวัดตรังเป็นจังหวัดแรกที่เดินทางมากำชับและเน้นย้ำให้มีการเฝ้าระวังการลักลอบเดินทางเข้ามาในพื้นที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่
พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการาตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้มีการเน้นย้ำในที่ประชุมว่าให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดในการออกตรวจ พร้อมทั้งลาดตระเวน หากเจ้าหน้าที่พบเรือประมง ให้ตรวจค้นทุกลำไม่มีข้อยกเว้นโดยเด็ดขาด เนื่องจากยังมีแรงงานที่ต้องการเดินทางกลับประเทศอาจมีการลักลอบเข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมาย และให้เจ้าหน้าที่กำชับเน้นย้ำเจ้าของเรือประมงพาณิชย์ทุกลำ รวมถึงเรือประมงพื้นบ้าน ห้ามรับคนเข้ามาในพื้นที่โดยเด็ดขาด เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด -19) ส่วนผู้ที่เดินทางเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย ขอให้กักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ผู้ที่ฝ่าฝืนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้ที่ลักลอบนำคนเข้ามาในพื้นที่จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดและมีโทษปรับถึง 4 แสนบาท ส่วนการตรวจนักท่องเที่ยวที่อยู่ตามเกาะต่างๆนั้นให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มงวด
มนต์เจริญ ศรีมงคล จ.ตรัง