พ่อเมืองปทุมธานี สั่งตั้งด่านเคอร์ฟิวเข้ม ระดมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตั้งด่านกระจายทั่วจังหวัดป้องกันโควิด-19

พ่อเมืองปทุมธานี สั่งตั้งด่านเคอร์ฟิวเข้ม ระดมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตั้งด่านกระจายทั่วจังหวัดป้องกันโควิด-19
เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 9 เม.ย.63 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ปลัดจังหวัดปทุมธานีพร้อมด้วย นายสมชาย ตรีณาวงษ์ นายอำเภอหนองเสือ พ.ต.อ.จักรกริศน์ โฉสูงเนิน ผกก.สภ.หนองเสือ นายเสริมวิทย์ สมบัติ ป้องกันจังหวัดปทุมธานี ร่วมปล่อยแถว เจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ในการปฏิบัติหน้าที่ ตั้งจุดตรวจตรักษาความสงบเรียบร้อยตามคำสั่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กรณีห้ามออกนอกเคหสถาน และประกาศของจังหวัดปทุมธานี ณ ที่ว่าการอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมานี และ เดินทางออกเยี่ยมและเป็นขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อสม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจต่างๆในพื้นที่ อำเภอหนองเสือ และอำเภอคลองหลวง ตามประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกนอกเคหะสถานระหว่างเวลา 22.00-04.00 น.และตรวจจุดคัดกรองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 บริเวณถนนพหลโยธินขาออกกม.46+400 ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ซึ่งมีด่านตรวจเข้ม 3จุดใหญ่ และด่านตรวจเคอร์ฟิวที่กระจายอยู่ตามตำบล และชุมชนต่างๆทั่วจังหวัดปทุมธานี
บรรยากาศโดยรวมของจังหวัดปทุมธานี เป็นไปด้วยความเงียบสงบบนถนนพหลโยธิน ซึ่งเป็นถนนสายหลัก และบริเวณหน้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ก็ถนนโล่งว่าง มีรถวิ่งบนถนนน้อยมากจะมีก็แต่พนักงานที่เพิ่งเลิกงานในพลัดดึกและรถบรรทุกส่งของที่มีความจำเป็นเร่งด่วน โดยรถทุกคันต้องมีหนังสือขออนุญาติให้เดินทางออกนอกเคหสถาน เท่านั้น


นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ปลัดจังหวัดปทุมธานี กล่าว่า ดร.พินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี สั่งการให้มีความเข้มของการตั้งด่าน กำชับให้ทุกพื้นที่ ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดทุกคนโดยไม่มีข้อยกเว้น และส่งฟ้องศาลให้พิจารณาคดีโดยเร็ว สำหรับการตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ได้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกนายปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดในการสกัดกั้นการเดินทางออกนอกเคหะสถานตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น.ของเช้าวันใหม่ตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน (ฉบับที่2 )เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ได้สั่งการให้ผู้นำชุมชนจัดทำทะเบียนผู้ที่เดินทางเข้าออกและสอบประวัติการเข้าพื้นที่รับผิดชอบเพื่อคัดกรองโรคติดเชื้อโควิด-19จากผู้เดินทางมาจากจังหวัดกลุ่มเสี่ยงเป็นหลัก สำหรับผลการตรวจปรากฏว่าไม่มีผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวและจำนวนการจับกุมผู้ฝ่าฝืนน้อยลงจากวันที่ผ่านมา เนื่องชาวบ้านเข้าใจและรับผู้ข่าวสารการประกาศของทางจังหวัดปทุมธานี เป็นอย่างดี พร้อมทั้งฝากความห่วงใยให้เจ้าหน้าที่ทุกนายดูแลสุขภาพตนเองและ “เราจะสู้ไปด้วยกันด้วย”ปทุมธานี ต้องดีขึ้น
ทั้งนี้ ยังฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนหากไม่มีเหตุจำเป็นให้กลับเข้าที่พักตามเวลาที่กำหนดไว้ คือก่อน 22.00 น. และจะออกมาได้อีกครั้งในเวลาหลัง 04.00 น. หากผู้ใดฝ่าฝืนทางเจ้าหน้าที่จำเป็นจะต้องจับกุมตัวส่งดำเนินคดี โดยมีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ จึงขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยกันเพื่อเป็นการสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วย
โดย ดร.พินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เชื่อว่าการใช้มาตรการอย่างเข้มข้น จะช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้อย่างต่อเนื่องและกล่าวขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ขอประชาชนต้องอดทนเพื่อผ่านพ้นวิกฤติโรคโควิด-19 นี้ไปให้ได้