นครปฐม หลวงพี่น้ำฝน วัดไผ่ล้อม ลั่นต้องช่วยโยม พร้อมอนุเคราะห์เผาศพ ผู้ป่วยไวรัสโควิด-19

นครปฐม   หลวงพี่น้ำฝน วัดไผ่ล้อม ลั่นต้องช่วยโยม พร้อมอนุเคราะห์เผาศพ ผู้ป่วยไวรัสโควิด-19
หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ประกาศไม่กลัวโควิด-19 วัดไหนไม่รับประกอบพิธีทางศาสนากับศพติดเชื้อ วัดไผ่ล้อมยินดีดำเนินการ หากเป็นศพอนาถาพร้อมจัดงานให้ฟรี เผยหากญาติผู้เสียชีวิตที่หนักใจไม่มีที่ไปให้ติดต่อมาได้เลย ด้านแพทย์นิติเวช แจงศพติดเชื้อจะถูกบรรจุแน่นหนาแต่ต้องพิธีการให้กระชับรวดเร็วไม่เปิดแพ๊คที่บรรจุมา และไม่จัดให้คนหมู่มากมารวมตัวกันในศาลาประกอบพิธีหลายวันลดการแพร่เชื่อจากคนสู่คนเป็นหลัก
วันนี้ 24 มี.ค. 63

 

จากรณีผู้ใช้เฟสบุ๊ก รายหนึ่งได้ระบุว่าบิดาซึ่งเป็นคนไทยรายที่ 2 ที่เสียชีวิตจาการติดเชื้อไวรัสโควิด -19 เมื่อวานนี้เวลา 20.09 น. โดยมีข้อความว่า “ พ่อจากไปแล้วเมื่อเวลา 18.10 น. ผลสืบเนื่องจากโควิดที่ ทำลาย ปอด เชื้อหายแต่อวัยวะไม่สามารถฟื้นกลับมา พ่อสู้ ไอ้โรคบ้านี้มาเกือบ 2 เดือน # ไม่ต้องห่วงลูกๆนะ รักที่สุด” ซึ่งพบว่าชายคนดังกล่าวเป็นชาวสมุทรปราการ อายุ 70 ปี อาชีพขับรถทัวร์ให้นักท่องเที่ยวชาวจีน รักษาตัวนาน 50 วัน โดยเสียชีวิตที่สถาบันบำราศนราดูร จากนั้นได้มีกระแสของลูกชายผู้เสียชีวิตได้ออกมาแสดงความเสียใจและวิตกเนื่องจากได้ประสานที่จะมีการจัดให้มีการประกอบพิธีทางศาสนาและทำการฌาปนกิจ หลายวัดแต่ได้รับการปฎิเสธ และคิดว่าน่าจะมีมาตรการมารองรับสำหรับเรื่องดังกล่าว
โดย พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม เผยว่า เมื่อเช้าได้มีลูกศิษย์มาสอบถามเรื่องดังกล่าวว่า หากเป็นวัดไผ่ล้อมจะพร้อมในการจัดพิธีเผาศพให้ผู้เสียชีวิตหรือไม่ ซึ่งจากทีได้อ่านจากข่าวก็ตกใจที่ไม่มีวัดกล้ารับศพ ซึ่งเรื่องนี้ อาตมาบอกได้เลยว่า หากโยมที่เป็นลูกชายหรือญาติคนที่เสียชีวิตไม่มีที่จะประกอบพิธีทางศาสนา หรือเผาศพบิดา ทางวัดไผ่ล้อมยินดีที่จะรับไว้ดำเนินการให้ เพราะไม่ได้วิตกกับเรื่องนี้ โดยที่ผ่านมาวัดไผ่ล้อมได้มีการจัดการกับอนาถา หรือศพที่ป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ และโรควัณโรคมาแล้วมากมาย ผ่านโครงการที่ใช้ชื่อว่า “กองทุน เผา สวด ฟรี วัดไผ่ล้อม” ซึ่งดำเนินการมาไม่น้อยกว่า 15 ปีแล้ว และสานต่อมาตั้งแต่ครั้งที่ หลวงพ่อพูล ท่านยังคงมีชีวิตอยู่
“ อาตมาทำโครงการสวดเผาศพนี้มาตั้งแต่ 15 ปีที่แล้วและทำเกี่ยวกับการเผาศพติดเชื้อมาโดยตลอด โดยมีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม เข้ามาเป็นพี่เลี้ยงโดยตลอด ซึ่งรู้ว่าเราควรจะปฏิบัติอย่างไร ซึ่งขอให้ท่านมีสำเนาบัตรประชาชน และมรณะบัตร ของผู้เสียชีวิตและบัตรประชาชนของญาติ ก็สามารถมาดำเนินการได้เลย ซึ่งวัดทุกวัดเป็นกิจที่จะต้องทำแบบนี้อยู่แล้ว แต่ต้องไปปรึกษากับสาธารณสุขให้ชัดเจน ซึ่งไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด โดยโยมที่มีปัญหาบิดาเพิ่มเสียชีวิตขอให้มาติดต่อได้เลยเราจัดการให้ ซึ่งหากเป็นศพอนาถา ก็มาฟรีได้เลย ซึ่งฟรีทั้งหมด ตั้งแต่โลงศพ ดอกไม้หน้าโลงศพ เครื่องไทยธรรม น้ำมันจุดเผาศพ ศาลา ซึ่งขอบอกว่าหากเตาว่างวัดไผ่ล้อมยินดีสงเคราะห์ให้กับประชาชนอยู่แล้ว แต่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎที่หน่วยงานรัฐออกมาแจ้งทั้งการรวมตัวการเข้าร่วมในพิธีการที่ต้องลดกระบวนการเพื่อความเหมาะสมกับสถานการณ์ด้วย” หลวงพี่น้ำฝนกล่าว
ด้าน นายแพทย์นิติ แตงตาด แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลนครปฐม เผยว่าสำหรับกรณีที่วัด หรือเจ้าหน้าที่วัดวิตกเกี่ยวกับการจัดงานประกอบพิธีทางศาสนา สำหรับผู้ที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ซึ่งถ้ามีการรักษาที่โรงพยาบาล แล้วเสียชีวิตก็จะต้องมีการถูกบรรจุศพในถุงมาอย่างถูกต้อง ซึ่งสามารถไปดำเนินการ แต่ต้องไม่เปิดออกแล้วนำมารดน้ำศพก่อนจะมีการนำไปฌาปนกิจ ซึ่งทางโรงพยาบาลมีการบรรจุมาแล้วก็ถือว่าแน่นหนา และหากผ่านกระบวนการเผาไปแล้วส่วนกระดูกก็จะไม่มีเชื้อต่อไปเพราะผ่านอุณหภูมิที่มากจนเชื้อนั้นได้สลายไปแล้ว โดยในส่วนหลักการที่เหมาะสมคือ นำมาศพมาแล้วไม่แกะออกมาจากที่บรรจุศพ และไม่รดน้ำศพเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสทางอากาศ โดยควรลดจำนวนวันในการสวดพระอภิธรรม โดยที่สำคัญคือการไม่พยายามจะให้มีการมารวมตัวของคนหมู่มากที่จะมานั่งฟังการสวดในที่ปิดใกล้ชิดกัน เนื่องจากจะเป็นการเพิ่มช่องทางของการแพร่กระจายเชื้อของคนสู่คนด้วยกันเอง ซึ่งย้ำว่าวัดต่างๆสามารถดำเนินการได้โดยปกติแต่ต้องมีมาตรการที่บอกมาก็จะปลอดภัยกับประชาชนมากที่สุด