คณะเยาวชนไทย ต่อยอดความรู้แก่เยาวชนตรัง หลังเข้าร่วมโครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ ครั้งที่ 46
คณะผู้แทนเยาวชนไทยจำนวน 29 คน จัดกิจกรรม One School, One Project (OSOP) : KID นอกกรอบ ตอบโจทย์ชุมชน เพื่อเสริมสร้างทักษะการเป็นผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ให้กับชุมชนท้องถิ่น (Youth Entrepreneurship) หลังจากการเข้าร่วมโครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ ครั้งที่ 46 ณ โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดกะพังสุรินทร์) จังหวัดตรัง ระหว่างวันที่ 29 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม 2563
โครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ (Ship for Southeast Asian and Japanese Youth Program: SSEAYP) เป็นโครงการตามข้อตกลงร่วมกันระหว่างรัฐบาลญี่ปุ่นกับรัฐบาลในประเทศแถบเอเชียอาคเนย์ 5 ประเทศ คือ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย สหพันธรัฐมาเลเซีย สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ สาธารณรัฐสิงคโปร์ และราชอาณาจักรไทย จัดทำขึ้นเมื่อเดือนมกราคม 2517 ในสมัยที่นายคาคุยอิ ทานากะ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศญี่ปุ่น และ นายสัญญา ธรรมศักดิ์ ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย โดยประเทศญี่ปุ่นเป็นเจ้าของโครงการและออกค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ สำหรับประเทศที่เข้าร่วมโครงการจะออกค่าใช้จ่ายบางส่วนในการคัดเลือกตัวแทนผู้นำเยาวชนการฝึกอบรมและการต้อนรับคณะเยาวชนของแต่ละประเทศ ในปี 2527 และ 2538 บรูไนดารุสซาลาม และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมโครงการเมื่อเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนตามลำดับ และต่อมาในปี 2540 ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ได้ส่งผู้แทนเยาวชนเข้าร่วมโครงการเมื่อเข้าเป็นสมาชิกอาเซียน
นางสาวแก้วขวัญ เรืองเดชา ผู้นำเยาวชนไทย กล่าวว่า “ในปี 2562 เรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์มีกำหนดนำเยาวชนจากกลุ่มประเทศอาเซียน ประเทศละ 28 คน และหัวหน้าคณะเยาวชน ประเทศละ 1 คน รวมทั้งเยาวชนจากประเทศญี่ปุ่น จำนวน 40 คน รวม 330 คน ระหว่างวันที่ 24 ตุลาคม – 13 ธันวาคม 2562 รวมเป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 51 วัน โดยมีจุดเริ่มต้นของการเดินทาง ณ ประเทศญี่ปุ่น ต่อจากนั้นออกเดินทางไปกับเรือนิปปอนมารูซึ่งจะแวะเยือนประเทศต่างๆ อีก 4 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สาธารณรัฐสิงคโปร์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และสหพันธรัฐมาเลเซีย ตลอดการเข้าร่วมโครงการจะมีกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ทั้งกิจกรรมบนเรือและกิจกรรมในประเทศที่เรือแวะเยือน อาทิ การอภิปรายทางวิชาการในหัวข้อที่กำหนด กิจกรรมกีฬาและนันทนาการ กิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมเพื่อสร้างความเข้าใจอันดีในหมู่เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ การเข้าเยี่ยมคารวะบุคคลสำคัญระดับประเทศ การพำนักกับครอบครัวเจ้าภาพและการทัศนศึกษาไปยังสถานที่สำคัญในประเทศนั้นๆ”
“และหลังจากการเข้าร่วมโครงการคณะผู้แทนเยาวชนร่วมกันออกแบบกิจกรรมภายหลังจากจบโครงการ (Post-Program Activity) โดยให้มีการเลือกรูปแบบการจัดกิจกรรมจากความรู้และประสบการณ์ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมอภิปรายกลุ่ม (Discussion Group) ก่อนการนำเสนอต่อเจ้าหน้าที่สำนักนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น โดยปีนี้เยาวชนไทยผู้เข้าร่วมได้ออกแบบกิจกรรมที่มีชื่อว่า One School, One Project โครงการหนึ่งโรงเรียนหนึ่งโครงการ มีจุดประสงค์เพื่อเสริมสร้างทักษะการเป็นผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ให้กับชุมชนท้องถิ่น โดยได้เลือกจังหวัดตรังเป็นสถานที่จัดกิจกรรมครั้งนี้ ซึ่งได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของเยาวชนที่มีอายุระหว่าง 15-18 ปี และทรัพยากรท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์ของจังหวัดตรังได้แก่ หมูย่าง ผ้าทอนาหมื่นศรี อาหารทะเล ไม้เทพทาโร และโรงแรมที่พัก เป็นหัวข้อที่สามารถต่อยอดให้เกิดธุรกิจใหม่ที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้ โดยรูปแบบกิจกรรมดังกล่าวเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนกลุ่มเป้าหมายเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพยากรในท้องถิ่น โดยใช้ทักษะการเป็นผู้ประกอบการต่างๆ เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์ ทักษะการนำเสนอ การทำการตลาดในสื่อออนไลน์ (online marketing) รวมไปถึงการจัดการการเงินเบื้องต้น กิจกรรมครั้งนี้มีเยาวชนเข้าร่วมกว่า 60 คน จาก 4 โรงเรียน ประกอบด้วย โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดกะพังสุรินทร์) โรงเรียนเทศบาล 6 (วัดตันตยาภิรม) โรงเรียนสภาราชินี และโรงเรียนสภาราชินี 2”
“ทั้งนี้ กิจกรรมหลังจบโครงการฯ ใช้เวลาประมาณ 3 เดือนในการเก็บข้อมูล วิจัย ระดมทุน และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน และการจัดกิจกรรมจะใช้เวลาทั้งหมด 2 วันโดยใช้กิจกรรมสันทนาการควบคู่กับการประชุมเชิงปฏิบัติการ (workshop) ในการอบรมทักษะการเป็นผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ ภายหลังกิจกรรมดังกล่าวจะเป็นการสร้างระบบเพื่อติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้เป็นโครงการที่ยั่งยืนต่อไป” ผู้นำเยาวชนไทย กล่าวเพิ่มเติม
นางสาวลดาวัลย์ ช่วยชาติ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตรัง กล่าวว่า “หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมคณะเยาวชนไทยได้ท่องเที่ยวสัมผัสความสวยงามของท้องทะเลตรังกับกิจกรรมชมถ้ำ ดำน้ำดูปะการัง สุข สนุก วันเดียวเที่ยว 3 เกาะ 4 จุดเที่ยว บอกต่อ #อากาศดีดีมีที่ตรัง ตอกย้ำตรัง 1 ใน 5 เมืองไร้ฝุ่นในเอเชีย เชิญชวนนักท่องเที่ยวสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ ค้นหาความมหัศจรรย์ถ้ำมรกต ดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น และพักผ่อนเดินเล่นบนหาดทรายขาวละเอียดของเกาะกระดาน และเกาะเชือกกับการดำน้ำชมปะการังแข็ง ปะการังอ่อนหลากสี และฝูงปลาสวยงาม และเรียนรู้วิถีชุมชนสัมผัสบรรยากาศวิถีประมงพื้นบ้าน กินอาหารทะเลสดใหม่ ณ บ่อหินฟาร์มสเตย์ ตามที่ ททท. ตรัง ได้ส่งเสริมการเกิดการเดินทางท่องเที่ยวด้วยการนำเสนอความโดดเด่นของอาหารการกินผ่านวิถีชุมชนในแหล่งท่องเที่ยวชุมชนสีเขียว เที่ยวได้ทั้งปี @ตรัง” มนต์เจริญ ศรีมงคล จ.ตรัง