นักศึกษาวิทยาลัยเทคโนโลยีชัยนาท ศูนย์บ้านไร่ จ.ราชบุรี รวมตัวกันนำเอกสารหลักฐานยื่นขอคำปรึกษาด้านกฎหมาย ที่ยุติธรรมจังหวัดราชบุรี เพื่อเตรียมดำเนินคดีกับครูและผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง ฐานฉ้อโกงหลอกให้เข้าศึกษากับทางสถาบันกลับไม่ได้วุฒิการศึกษาแถมสูญเงินรวมกันนับล้านบาท ทำให้ต้องเสียโอกาสทางการศึกษา หลังผู้บริหารร่อนหนังสือแจงปิดสถาบัน อ้างว่าประสบภาวะขาดทุน เมื่อนักศึกษาสอบถามกลับบ่ายเบี่ยงและจะไม่รับผิดชอบ
(28 ก.พ.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้นักศึกษาจากวิทยาลัยเทคโนโลยีชัยนาท ศูนย์บ้านไร่ จังหวัดราชบุรี ได้รวมตัวกันนำเอกสารการสมัครเรียน เอกสารประกอบการศึกษา พร้อมด้วยหลักฐานส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับการศึกษา เดินทางเข้าพบนิติกร พร้อมด้วยทนายความ สำนักงานยุติธรรมจังหวัดราชบุรี ภายในศาลากลางจังหวัดราชบุรี ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เพื่อปรึกษาทางด้านข้อกฎหมาย และ ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านกฎหมาย หลังจากที่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มผู้เข้ามาหวังผลประโยชน์ เข้าค่ายหลอกลวง ชวนเชื่อให้สมัคร จนทำให้เสียเงินเกือบ 1 แสนบาทต่อราย รวมมูลค่านับล้านบาท
สืบเนื่องจากกรณีที่มีข่าวการร้องเรียนจากกลุ่มนักศึกษากว่า 200 คน ที่ออกมาร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนจากการที่สถาบันปิดตัวของสถาบันเทคโนโลยีชัยนาท จังหวัดชัยนาท และมีการออกมาประกาศว่าศูนย์ที่เกิดตามจังหวัด อาทิ ศูนย์ทั้งในจังหวัดชัยนาท ศูนย์นครปฐม ศูนย์ราชบุรี และศูนย์สมุทรสาคร ซึ่งผู้บริหารกลับร่อนหนังสือแจ้งปิดสถาบันทั้งที่ยังไม่จบและบอกจะให้ใบ รบ.ไปสมัครเรียนต่อ รวมถึงจ่ายเงินชดเชย 1 หมื่นบาท จนมีการออกเปิดเผยของนายณรงค์ แผ้วพลสง เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ว่า ตามที่วิทยาลัยเทคโนโลยีชัยนาท จังหวัดชัยนาท ประกาศเลิกกิจการ เหตุผลว่าประสบภาวะขาดทุน ไม่สามารถเปิดโรงเรียนต่อได้ จะชดเชยเงินค่าเรียนให้นักเรียนภาคบ่าย ที่ยังไม่จบการศึกษา เป็นจำนวนเงิน 10,000 บาทในเดือนพฤษภาคม 2563 และใบระเบียนแสดงผลการเรียนหรือใบ รบ. จะได้รับในวันที่ 30 เมษายน นั้น ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ตรวจสอบพบว่า มีการเปิดสอนนอกสถานที่ตั้งไม่ถูกต้อง ทั้งเปิดสอนตามห้างสรรพสินค้า หรือตามองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จึงงดให้เงินอุดหนุนรายหัวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 รวมถึงไม่รับรองการออกใบรบ.ให้ และขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง ทำให้กลุ่มนักเรียนดังกล่าวเกิดความกังวลใจว่าจะถูกลอยแพ ทั้งๆที่ เรียนมาจนครบหลักสูตรของทางวิทยาลัยอีกทั้งตลอด 1 ปี มีการเสียเงินค่าเล่าเรียนที่ถูกอาจารย์เรียกเก็บ โดยกล่าวว่าต้องจ่ายให้กับทางสถาบันและมีการออกใบเสร็จรับเงิน รวมตลอดทั้งปีเสียเงินรวมรายละเกือบ 1 แสนบาท เมื่อพวกตนพยายามสอบถามกับอาจารย์ผู้สอน กลับถูกบ่ายเบี่ยงและถูกต่อว่า อีกทั้งยังปัดความรับผิดชอบ โยนให้ไปตามที่สถาบัน
เบื้องต้นทางฝ่ายนิติกร สำนักงานยุติธรรมจังหวัดราชบุรี ได้รับหนังสือ จากทางกล่มนักศึกษาที่ได้รับความเดือดร้อนได้มายื่น พร้อมทั้งให้คำแนะนำด้านกฎหมาย รวมไปถึงประสานกับทางสำนักบริหารการอาชีวศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อหาทางเยียวยาพร้อมทั้งแกไขปัญหาในเบื้องต้น ส่วนการจะออกวุฒิการศึกษา หรือ ใบ รบ. จะต้องมีการตรวจสอบเป็นรายๆไป ส่วนผู้ที่ประสงค์จะศึกษาต่อเพื่อให้จบหลักสูตร 2 ปี จะเข้าสู่กระบวนการเทียบความรู้โดยจะหาที่เรียนให้ในรายที่ต้องการศึกษาต่อ แต่ในกรณีการกระทบของบุคคลซึ่งนักศึกษาเกรงว่าจะตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงเพื่อประสงค์ทรัพย์ สามารถรวมตัวกันเข้าแจ้งความดำเนินคดีทั้งทางอาญาและทางแพ่ง กับบุคคลที่เกี่ยวข้องได้โดยตรง ซึ่งจะเป็นคนละประเด็นกับทางสำนักบริหารการอาชีวศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการ เพราะหากมีหลักฐานการโอนเงิน หรือ หลักฐานที่เชื่อได้ว่าหลอกลวง โฆษณาชวนเชื่อ หรือ ทำให้หลงเชื่อจนตนเองต้องเสียทรัพย์ซึ่งเป็นความผิดอย่างชัดเจน ทางสำนักงานยุติธรรมจังหวัดมีทนายความอาสาให้บริการปรึกษาด้านกฎหมายฟรี โดยที่กลุ่มนักศึกษาผู้เสียทั้งหมดได้จะเดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อสำนักบริหารการอาชีวศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการ พร้อมทั้งจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง ที่ สภ.เมืองราชบุรี ต่อไป
หนึ่งในนักศึกษาผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเองและเพื่อนจำนวนกว่า 40 คน ซึ่งเป็นนักศึกษาที่เรียบจบจนครบ 1 ปี ได้สมัครเรียนที่วิทยาลัยเทคโนโลยีชัยนาท เมื่อเดือนตุลาคม 2561 ในหลักสูตร ปวส.มีสาขาวิชา บัญชี, การไฟฟ้า ,การจัดการ และคอมพิวเตอร์ ตามที่มีการประชาสัมพันธ์ผ่านทางหน้า facebook ชื่อ เรียน ปวช. ปวส. และปริญญาตรี ซึ่งใช้หนังสือมีตราครุฑ อ้างประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาชีวะศึกษาเปิดรับสมัครนักศึกษา ระดับปวช.และปวส. หลักสูตร 1 ปี ซึ่งเร็วกว่าหลักสูตรปกติที่ต้องเรียน 2 ปี ทำให้หลงเชื่อสมัครเรียนกัน โดยมีผู้ติดต่อและประสานงาน อีกทั้งยังเป็นอาจารย์สอน คือ “อาจารย์ตูน” โดยจะต้องชำระค่าแรกรับ จำนวนเงิน 2,000 บาท หลังจากได้ชำระเงินดังกล่าวแล้ว อาจารย์ตูน ได้นัดให้นักศึกษาใหม่ไปปฐมนิเทศที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านไร่ จังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2561 พร้อมทั้งขอเก็บค่าบำรุงอีกเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท ค่าปฐมนิเทศเป็นจำนวนเงิน 500 บาท และค่าเครื่องแบบนักศึกษาเป็นจำนวนเงิน 850 บาท รวมเป็นเงิน 5,350 บาท
หลังจากนั้น อาจารย์ตูน อาจารย์ประจำศูนย์ฯ นัดให้พวกตนซึ่งเป็นนักศึกษาเข้าเรียนอาทิตย์ละ 1 ครั้ง โดยที่ 1 เดือน จะเรียนทั้งสิ้น 3 วิชา และเริ่มชำระเงินค่าเทอมงวดแรกเดือนมกราคมเป็น จำนวน 2,000 บาท นักศึกษาทุกคนจะต้อง ชำระในอาทิตย์แรกของเดือน รวมทั้งสิ้น 12 เดือน รวมเป็นเงิน 24,000 บาท
จากนั้นเดือนพฤษภาคม ทางวิทยาลัยเทคโนโลยีชัยนาท ได้จัดกิจกรรมสัมมนาโดยให้นักศึกษาไปค้างคืนจัดกิจกรรมที่โรงแรม ยูแรเซีย ชะอำ ลากูน อำเภอ ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี โดยมีศูนย์การเรียนอื่นๆของวิทยาลัยเทคโนโลยีชัยนาทร่วมด้วย โดยนักศึกษาจะต้องเสียค่าใช้จ่ายค่าสัมมนาทั้งสิ้น 3,500 บาท (ซึ่งท่านใดที่ไม่ได้ไปก็ต้องชำระเงิน)
ตนเองชและเพื่อนๆได้เข้าวิทยาลัยเทคโนโลยีชัยนาทครั้งแรกในวันที่ 16 มิถุนายน 2562 ในกิจกรรมปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ โดยทางอาจารย์ประจำศูนย์จัดหารถบัสเพื่อไปเข้าร่วมกิจกรรมปฐมนิเทศ และในเดือนกรกฎาคม 2562 และได้เข้าไปลงทะเบียนนักศึกษา ในระหว่างนั้นได้มีการทำกิจกรรมต่างๆกับทางวิทยาลัยเรื่อยมา
จนกระทั่งพวกตนเองเรียนครบ 1 ปีแล้ว อาจารย์ประจำศูนย์คนดังกล่าว ได้เร่งให้พวกตนเองชำระค่าจบการศึกษาเป็นจำนวนเงิน 3,000 บาท และค่าใช้จ่ายต่างๆภายในเดือนมกราคม 2563 ถ้าใครชำระไม่ครบตามกำหนดจะโดนตัดชื่อออกและไม่ได้วุฒิของวิทยาลัยฯ หลังจากที่นักศึกษาได้ชำระเงินทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ทางอาจารย์ประจำศูนย์องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านไร่ จังหวัดราชบุรี ได้บอกให้พวกตนเองรอรับวุฒิการศึกษาประกาศนียบัตรขั้นสูง (ปวส.) ในเดือนพฤษภาคม 2563 โดยอาจารย์มีการขอหลักฐานการขอจบการศึกษา เช่น สำเนาทะเบียนบ้าน,บัตรประชาชนของตัวนักศึกษาและบิดามารดาของนักศึกษาและใบเสร็จรับเงินตัวจริง (กรณีที่นักศึกษาทำใบเสร็จหายจะต้องเสียค่าใบเสร็จ 100 ต่อหนึ่งใบ) เพื่อใช้ประกอบการออกวุฒิให้กับนักศึกษา โดยพวกตนก็เริ่มที่จะเอะใจแล้ว หลังจากที่อาจารย์ขอใบเสร็จรับเงินตัวจริงทั้งๆ ที่อาจารย์ได้เก็บใบสำเนาเอาไว้แล้ว
นักศึกษา กล่าวต่อว่า ในขณะพวกตนเองรอวุฒิการศึกษาอยู่นั้น ได้มีนักศึกษาท่านหนึ่งจากศูนย์สรรพาวุธได้มีการสอบถามเข้ามายังการประกาศการเลิกกิจการของทางวิทยาลัยเทคโนโลยีชัยนาท ทางนักศึกษาศูนย์บ้านไร่ จึงได้พิมพ์ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ เพื่อสอบถามอาจารย์ประจำศูนย์ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจริงไหม อาจารย์ได้บ่ายเบี่ยงการตอบคำถามดังกล่าวและอ้างว่าอาจารย์ต้องรอเข้าร่วมประชุมกับทางวิทยาลัยเทคโนโลยีชัยนาท เพื่อคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นอาจารย์ได้มาแจ้งข้อเสนอที่ทางวิทยาลัยเทคโนโลยีชัยนาทจะเยียวยานักศึกษาคือ ออกใบ รบ.1 ปี เพื่อนำไปเรียนต่อที่อื่นได้และคืนเงินให้บางส่วนให้ (จำนวน 10,000 บาท) หลังจากนั้นมีนักศึกษามากมายที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องการเยียวยาที่ไม่เหมาะสมและจำนวนเงินที่คืนให้นักศึกษา อาจารย์ประจำศูนย์บ้านไร่ จึงได้ให้นักศึกษาที่ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของทางวิทยาลัยเทคโนโลยีชัยนาท ไปฟังคำชี้แจงที่วิทยาลัยฯ ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563 โดยมีนางวัชรี ปานเกลียว มาชี้แจงแทนผู้อำนวยการของวิทยาลัยฯ
หลังจากนั้น มีข่าวออกมานั้นทำให้นักศึกษามีความเคลือบแคลงสงสัยถึงกระบวนการศึกษาดังกล่าวว่าถูกต้องหรือไม่ ทางวิทยาลัยจะสามารถเยียวยาให้พวกตนจริงตามที่ประกาศไว้หรือป่าว เนื่องจากวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 นายณรงค์ แผ้วพลสง เลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษา (กอศ.)ได้มาชี้แจง ทำให้นักศึกษาประจำศูนย์บ้านไร่ มีความสงสัยว่าทางวิทยาลัยเทคโนโลยีชัยนาทอาจจะลักลอบเปิดการศึกษานอกสถานที่ ซึ่งผิดกฎของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และการที่มีการโฆษณาตามเพจต่างๆที่ระบุว่าสามารถเรียนจบภายในหนึ่งปีได้นั้น ไม่เป็นความจริง อาจารย์กับวิทยาลัยเทคโนโลยีชัยนาทนั้น อาจจะร่วมกันจัดฉาก ในการทำกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการเรียนการสอนภายในวิทยาลัยเทคโนโลยีชัยนาท เพื่อฉ้อโกงเงินค่าเทอมและค่ากิจกรรมต่างๆที่เรียกเก็บจากนักศึกษา รวมแล้วเป็นเงินจำนวนมากมูลค่านับล้านบาท ซึ่งพวกตนอยากได้เงินคืน และอยากได้ความเป็นธรรม วันนี้ตนและเพื่อนจึงได้รวมตัวกันมาเดินหน้าเรียกร้องดังกล่าว.
ประวิทย์ ลิ้มเจริญ จ.ราชบุรี