คุมประพฤติประจวบฯ จัดกิจกรรมพัฒนา ทำความสะอาด -ตัดผม นักเรียนโรงเรียนวังมะเดื่อ
วันที่ 19 ก.พ.63 นางพรโพยม นาคน้อย รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบ พร้อมด้วย นายปิยะชาติ ไฮ้คง พนักงานคุมประพฤติชำนาญการ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับ นายนรชาติ อ่วมองอาจ ที่ปรึกษาชมรมจิตอาสาบาร์เบอร์จังหวัดประจวบ นำเจ้าหน้าที่อาสาสมัครคุมประพฤติจังหวัด พร้อมด้วยช่างตัดผมชมรมจิตอาสาบาร์เบอร์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมจัดกิจกรรมพัฒนาทำความสะอาดปรับปรุงภูมิทัศน์โรงเรียนวังมะเดื่อ หมู่ 10 บ้านวังมะเดื่อ ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้เกิดความสะอาดสวยงามน่าอยู่น่ามองแก่ผู้พบเห็น โดยมีนายโอฬาร ศรีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวังมะเดื่อ และนายสุชาติ เย็นนพคุณ สมาชิก อบต.อ่าวน้อย ให้การต้อนรับและนำนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมโดยภายในกิจกรรมประกอบด้วยการตัดแต่งกิ่งต้นไม้ ทาสีกำแพงโรงเรียน ทาสีอุปกรณ์เครื่องเล่นต่างๆให้มีสีสันสดใสสวยงาม พร้อมกับตัดหญ้าบริเวณลานสนามฟุตบอลของโรงเรียน อีกทั้งกิจกรรมบริการตัดผมให้กับนักเรียนหญิง-นักเรียนชาย ตั้งแต่ชั้นอนุบาล ถึงป.6 เพื่อเป็นการลดรายจ่ายเกี่ยวกับค่าครองชีพของผู้ปกครองอีกด้วย
นายโอฬาร ศรีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวังมะเดื่อ เปิดเผยว่า ตนรู้สึกดีใจและขอขอบคุณสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยชมรมจิตอาสาบาร์เบอร์จังหวัดประจวบที่ได้มาร่วมกันจัดกิจกรรมให้กับทางโรงเรียนในวันนี้ ซึ่งทำให้โรงเรียนเกิดความสวยงามเพิ่มมากยิ่งขึ้น รวมถึงกิจกรรมบริการตัดผมให้กับเด็กนักเรียนฟรี เนื่องจากสามารถลดรายจ่ายให้กับผู้ปกครองได้เป็นอย่างมาก โดยที่ผ่านมาผู้ปกครองนักเรียนต้องนำบุตรหลานไปตัดผมตามร้านที่มีบริการตัดผมจะเสียค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้ง ประมาณ 40-60 บาทต่อหัว แต่การที่ชมรมจิตอาสามาออกหน่วยบริการลักษณะเช่นนี้ ก็สามารถช่วยให้ผู้ปกครองลดรายจ่ายลงไปได้บ้างส่วนหนึ่ง
นายโอฬาร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปัจจุบันทางโรงเรียนวังมะเดื่อ มีข้าราชการครูรวมถึงบุคลากรทางการศึกษา ทั้งหมด 12 คน มีนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1 ถึงป.6 รวม 156 คน แต่ยังขาดสื่อการเรียนการสอนประเภทคอมพิวเตอร์สำหรับใช้ฝึกสอนให้นักเรียนสามารถใช้งานคอมพิวเตอร์เป็น มีพื้นฐานคอมพิวเตอร์จนสามารถศึกษาค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมจากในโลกอินเตอร์เน็ตได้ ล่าสุดมีแนวโน้มว่าทางภาครัฐจะมีการจัดสรรเครื่องคอมพิวเตอร์มาให้กับทางโรงเรียน เพื่อเป็นสถานที่รวม แหล่งเรียนรู้ของทางชุมชน จำนวน 10 เครื่อง ทางโรงเรียนจึงถือโอกาสนี้จะได้นำคอมพิวเตอร์มาใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนขั้นพื้นฐานให้กับนักเรียนในโรงเรียนด้วยไปในตัว แต่ก็ยังมีความต้องการเพิ่มเติมอยู่อีกประมาณ 15 เครื่อง จึงจะเพียงพอที่จะให้นักเรียนสามารถแบ่งการเรียนรู้คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง ต่อนักเรียน 2 คนได้ นอกจากนี้ยังขาดคุณครูสำหรับสอนเด็กพิเศษ อีกจำนวน 1คนอีกด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาถูกเกลี่ยไปที่อื่น และทำให้ครูผู้สอนที่มีอยู่ไม่สามารถสอนเด็กปกติได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากต้องแบ่งเวลาไปใส่ใจในการสอนเด็กพิเศษมากขึ้นกว่าเดิม นายโอฬาร กล่าว
///////
ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์ รายงาน