อุบลฯ ต้องมนต์เสน่ห์ผ้าเมืองแสงแรกแห่งสยาม งดงามสุดแสนประทับใจ

อุบลฯ ต้องมนต์เสน่ห์ผ้าเมืองแสงแรกแห่งสยาม งดงามสุดแสนประทับใจ
เสน่ห์ผ้าเมืองแสงแรกแห่งสยาม อุบลราชธานี ถ่ายทอดดีไซน์ความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ สู่ผ้าพื้นถิ่นให้ได้ยล ย่างก้าวแรกแห่งความเป็นสิริมงคลสู่ปี 2563
ที่ เวทีกลาง ลานขวัญเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ในงานประจำปีและงานกาชาดจังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2563 สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี ได้จัดกิจกรรมการเดินแบบผ้ากาบบัว ผ้าไหม ผ้าฝ้าย และผ้าขาวม้า จังหวัดอุบลราชธานี ในงาน “รับแสงแรกแห่งสยาม เพชรงามแห่งอีสาน เที่ยวงานปีใหม่และงานกาชาดจังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2563” ขึ้น โดยมี นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วย นางยุพาภร วิฑูรย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี ,รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ประกอบไปด้วย นายวิรุจ วิชัยบุญ ,นายศุภศิษย์ ก่อเจริญยศ และ นายอุทัย ทองเดช ,นายเกริกชัย ผ่องแผ้ว ปลัดจังหวัดอุบลราชธานี ,นางทรงลักษณ์ วรภัย พัฒนาการจังหวัดอุบลราชธานี ,หัวหน้าส่วนราชการ ,นายอำเภอ ,สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี ,ข้าราชการ คณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัด และอำเภอ ร่วมกันเดินแบบผ้าอันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดอุบลราชธานี ในครั้งนี้


สำหรับ ผ้าไหมกาบบัวถือเป็นเอกลักษณ์ของการทอผ้าไหมของจังหวัดอุบลราชธานี มีความโดดเด่นหลายประการ และการนำเอาวิธีการทอผ้าไหมหลากหลายวิธีเข้ามาประกอบในผ้าผืนเดียว ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งเอกลักษณ์หลายอย่างประกอบเข้าด้วยกัน อาทิ มีเส้นยืนซึ่งย้อมอย่างน้อยสองสีตามลักษณะของผ้าซิ่นทิว ,ทอด้วยเส้นพุ่งโดยการปั่นเกลียวแบบหางกระรอก ,การทอแบบมัดหมี่ ,การทอแบบขิด และการทอแบบจก เป็นต้น


ในส่วนของความโดดเด่น และเอกลักษณ์ของผ้าไหมนั้น จะมีเนื้อผ้าที่มันแวววาวสวยงาม สวม-ใส่สบาย ปรับให้เหมาะกับอากาศร้อนเย็นได้ดี ผู้ใส่จะรู้สึกเย็นเมื่ออากาศร้อน และจะรู้สึกอุ่นเมื่ออากาศหนาว ,ผ้าฝ้าย เป็นผ้าที่ใช้กันมากที่สุดในบรรดาเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เหมาะสมสำหรับการสวมใส่ในช่วงที่มีอากาศร้อนในฤดูร้อน หรือสามารถสวมใส่ได้ทุกวัน เพราะในเนื้อเส้นใยฝ้ายนั้นสามารถซึมซับเหงือและระบายออกได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ,ผ้าขาวม้า เป็นผ้าท้องถิ่นของจังหวัดอุบลราชธานีและประเทศไทยที่มีมายาวนาน ด้วยลวดลายการถักทอที่มีเอกลักษณ์ สวยงาม และใช้สอย เป็นผ้าสารพัดประโยชน์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันมาช้านาน

ธนัชชัย​ จึง​เจริญ​ รายงาน​