อธิบดี พช. น้อมนำพระบรมราโชวาท ร.9 เป็นแนวทางการขับเคลื่อนภารกิจกรมการพัฒนาชุมชน

“อธิบดี พช. น้อมนำพระบรมราโชวาท ร.9 เป็นแนวทางการขับเคลื่อนภารกิจกรมการพัฒนาชุมชน”

อธิบดีพช.น้อมนำพระบรมราโชวาทในหลวง ร.9 เป็นแรงบันดาลใจในการขับเคลื่อนการทำงานของบุคลากรพช.ให้ประสบผลสำเร็จ โดยเฉพาะโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง

เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน(พช.) กระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการสื่อสารทิศทางการพัฒนาชุมชน ประจำปี พ.ศ. 2563 และมอบแนวทางการขับเคลื่อนกิจกรรม/โครงการตามยุทธศาสตร์กรมการพัฒนาชุมชน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 โดยมี รองอธิบดีฯ ผู้ตรวจราชการกรม และผู้อำนวยการสำนัก กอง ศูนย์ ร่วมรับฟังข้อสรุปแนวทางการจัดทำ Cookbook ร่วมกัน ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครนายก ต.สาริกา อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก

 

ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าว มีประเด็นสำคัญที่จะทำให้การดำเนินงานของกรมการพัฒนาชุมชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพกับประชาชนทั่วประเทศ ได้แก่ โครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง โครงการสร้างความมั่นคงด้านอาชีพและรายได้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การบริหารการจัดเก็บข้อมูล จปฐ. ด้วยเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารกองทุนเพื่อเกษตรกรและแหล่งสินเชื่อภาครัฐเพื่อการเข้าถึงแหล่งทุน โครงการพัฒนาอาชีพและคุณภาพชีวิตครัวเรือนผู้มีรายได้น้อยเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เป็นต้น

นายสุทธิพงษ์ ได้ย้ำประเด็นการทำงานขอให้สร้างความร่วมมือกับผู้นำ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องบูรณาการการทำงานในพื้นที่ร่วมกับกรมการปกครอง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการทรัพยากรในพื้นที่ได้อย่างเต็มที่ และสร้างแนวทางการทำงาน ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง ทำงานให้ครบทุกกระบวนการ อันจะนำไปสู่เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนพึ่งตนเองได้ และขอให้การจัดทำ Cookbook ครั้งนี้ประสบผสำเร็จ ให้เป็นคู่มือแนวทางการพัฒนาชุมชนที่จะคงอยู่ต่อไป

“ผมอยากเห็นกรมการพัฒนาชุมชน ขับเคลื่อนภารกิจกรมการพัฒนาชุมชน ภายใต้แนวคิด Change for Good ขับเคลื่อน
โดยเฉพาะโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อประโยชน์สุขให้เกิดขึ้นกับชุมชน สังคม และประเทศ พัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง โดยให้ศึกษาแนวทางตามหลักพระราชา “โคก หนอง นา โมเดล” ซึ่งเป็นต้นแบบแห่งการประยุกต์ทฤษฎีใหม่สู่การปฏิบัติตามภูมิปัญญาท้องถิ่นและภูมิสังคมที่เหมาะสมตามศาสตร์พระราชา และ “โก่งธนูโมเดล” ตำบลเข้มแข็ง ต้นแบบที่เป็นแบบอย่างที่ดีในการดำเนินงานพัฒนาชุมชนในพื้นที่ทั่วประเทศ” อธิบดีพช.กล่าว

นอกจากนั้น นายสุทธิพงษ์ได้น้อมนำ พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรมาให้ที่ประชุมเป็นแนวทางการขับเคลื่อนภารกิจกรมการพัฒนาชุมชนใจความว่า “ขอบใจมาก ที่ต้องเหน็ดเหนื่อยทำงานในหมู่บ้านชนบท และต้องประสบปัญหาต่าง ๆ มากมาย ขอให้ช่วยกันพัฒนาคนให้มีความ ฉลาด สามารถช่วยตัวเองได้ ให้รู้จักใช้และเห็นคุณค่าความเจริญในด้านวัตถุ เช่น รู้จักนำพลังงานไฟฟ้าจากเขื่อนน้ำพุงนี้ใช้ในบ้าน เรือน และการอุตสาหกรรมขนาดย่อม ในการปฏิบัติงาน ชาวบ้านมักมีความหวาดระแวง และเกรงกลัวเจ้าหน้าที่ข้าราชการ ถือว่าเป็นบุคคลภายนอกหมู่บ้าน ไม่ใช่พวกเดียวกัน การเชื่อถือหรือยอมทำตามคำแนะนำส่งเสริมจึงมีน้อย ดังนั้นจะต้องทำให้ชาวบ้านรู้สึกรักและเชื่อถือว่าเราเป็นพวกเดียว กับเขา มีความปรารถนาจะช่วยเขาอย่างแท้จริง เช่น ให้ความรัก ช่วยเหลือเมื่อเดือดร้อน ทำงานให้จริงจัง ซึ่งต้องใช้ความ พยายาม ความอดทน เป็นอย่างมาก ในการแนะนำส่งเสริมอาชีพ หรือให้คำแนะนำเรื่องต่าง ๆ ต้องทำให้บ่อย ๆ ไม่ใช่พูดหรือทำหนเดียว เพราะชาวบ้านมีประเพณีความเคยชินมานาน และเมื่อแนะนำให้ทำอะไรได้แล้ว ต้องช่วยให้เขาขายได้ด้วย มิฉะนั้นเขาจะเสื่อมศรัทธา ไม่เชื่อถือทำต่อไป ขอให้ช่วยกันแนะนำชาวบ้านราษฎรให้ขยันขันแข็ง มีความฉลาด สร้างความมั่นคงให้แก่ครอบครัว ทำงานหารายได้ และเก็บออม ไว้เมื่อถึงคราวจำเป็น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประกันสังคม การสร้างความมั่นคงเป็นปึกแผ่นแก่ครอบครัวชนบทเป็นการป้องกัน ประเทศชาติด้านหนึ่ง อย่าเข้าใจว่าการป้องกันประเทศชาติเป็นหน้าที่ของทหารเช่นสมัยก่อน ความมั่นคงของประชาชนชนบท เป็นส่วนที่จะสร้างชาติและป้องกันประเทศอย่างดี ขอบใจ ขอให้สบายดี โชคดีทุกคน และมีความสำเร็จในการงาน”