กรมวิชาการเกษตรผนึกกำลังดีเอสไอดาวกระจาย5จุดบุกตัดตอนแหล่งผลิต-ขายสารชีวภัณฑ์ปลอม 

ดาวกระจาย 5 จุดบุกตัดตอน  แหล่งผลิต ขาย สารชีวภัณฑ์ปลอมเสียหายกว่า 25 ล้านบาท

 กรมวิชาการเกษตร  ผนึกกำลัง ดีเอสไอ ดาวกระจายลงพื้นที่ 5 จุดบุกสถานที่ผลิตและจำหน่ายสารชีวภัณฑ์อวดอ้างสรรพคุณกำจัดวัชพืชได้ผล  เบื้องต้นพบผสม 2 สารเคมีชื่อดังพาราควอทและไกลโฟเซต  ปิดฉากค่าเสียหายรวมกว่า 25 ล้านบาท เตรียมลากผู้กระทำผิดรับโทษตามกฎหมาย

นางสาวเสริมสุข  สลักเพ็ชร์  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า  ตามที่กรมวิชาการเกษตรได้รับเรื่องร้องเรียนจากเกษตรกรว่ามีการขายสารชีวภัณฑ์สำหรับกำจัดวัชพืช  และศัตรูพืช ขายทางสื่อออนไลน์ต่างๆ เป็นจำนวนมาก  จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำการล่อซื้อสินค้าดังกล่าวเพื่อนำมาตรวจวิเคราะห์   เบื้องต้นพบฉลากที่ระบุเป็นสารชีวภัณฑ์กำจัดวัชพืชไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร   และยังพบหลายยี่ห้อมีส่วนผสมของสารเคมีกำจัดวัชพืชพาราควอทและไกลโฟเซต จึงได้สั่งการให้สารวัตรเกษตร  กรมวิชาการเกษตรทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคร่วมปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ  เข้าตรวจค้นแหล่งผลิตและจำหน่ายปุ๋ยและวัตถุอันตรายทางการเกษตรจำนวน 5 จุด ตามที่สืบทราบ   โดยแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจค้นกระจายไปตามจุดต่างๆ ได้แก่ อ.สามโคก  จ.ปทุมธานี  อ.จอหอ  จ.นครราชสีมา  อ.พิมาย จ.นครราชสีมา  และ อ.บางบัวทอง  จ.นนทบุรี จำนวน 2 จุด   จากการตรวจค้นพบของกลางที่กระทำผิดกฎหมายพบเป็นวัตถุอันตรายจำนวน 18 รายการ  และปุ๋ยจำนวน 36 รายการ  ปริมาณรวมทั้งสิ้น 58.5 ตัน  คิดเป็นมูลค่าความเสียหายในครั้งนี้จำนวนกว่า 25 ล้านบาท

ประเด็นความผิดในครั้งนี้ตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535  คือ ผลิตและจำหน่ายวัตถุอันตรายไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ   ผลิตและจำหน่ายวัตถุอันตรายไม่ขึ้นทะเบียน  มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ   ผลิตและจำหน่ายปุ๋ยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี   ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท   หรือทั้งจำทั้งปรับ  ผลิตและจำหน่ายปุ๋ยไม่ขึ้นทะเบียนโทษมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี   และปรับตั้งแต่ 4 หมื่น–2 แสนบาท   โดยเจ้าหน้าที่ได้อายัดของกลางไว้ทั้งหมดและรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป

“สารชีวภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช  จะต้องขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตรโดยต้องผ่านการประเมินข้อมูลพิษวิทยา การขอนำเข้าหรือผลิตตัวอย่างเพื่อวิเคราะห์คุณภาพของผลิตภัณฑ์  และทำการทดลองประสิทธิภาพ   ซึ่งการกำหนดหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนดังกล่าวเพื่อให้เกษตรกรได้ใช้สารที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการกำจัดศัตรูพืช  ป้องกันไม่ให้ผลผลิตเสียหาย  และที่สำคัญต้องเป็นสารที่มีความปลอดภัยต่อผู้ใช้ ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม  จึงขอเตือนเกษตรกรอย่าได้หลงเชื่อคำกล่าวอวดอ้างสรรพคุณต่างๆ   โดยก่อนที่จะซื้อสารชนิดใดมาใช้ก็ตามขอให้สังเกตุที่ฉลากต้องได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องจากกรมวิชาการเกษตร   หากสงสัยหรือทราบเบาะแสแหล่งผลิตและจำหน่ายปุ๋ย  หรือวัตถุอันตรายทางเกษตรที่ผิดกฎหมายขอให้แจ้งได้ที่กลุ่มสารวัตรเกษตร  กรมวิชาการเกษตร  โทร.0-2 940-5434” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  กล่าว

************************************

พนารัตน์   เสรีทวีกุล  : ข่าว  กลุ่มประชาสัมพันธ์ฯ