ฟาร์มจิ้งหรีด ผุด!ไอเดียทำกระทงน้ำแข็งใส่จิ้งหรีดแห้งเป็นอาหารปลา
เทศกาลลอยกระทงในปี 2562 นี้ ตรงกับคืนวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ปีกุล เป็นวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 ตามปฏิทินจันทรคติไทยซึ่งกำหนดให้เป็น “วันลอยกระทง” อันเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง และเป็นช่วงที่น้ำหลากเต็มตลิ่ง โดยปกติแล้วประชาชนส่วนใหญ่ก็จะนำดอกไม้ ธูป-เทียน หรือสิ่งของใส่ลงในสิ่งประดิษฐ์รูปต่างๆ ที่ไม่จมน้ำ เช่น กระทง เรือ แพ ดอกบัว ฯลฯ แล้วนำไปลอยตามลำน้ำ โดยมีวัตถุประสงค์และความเชื่อต่างๆ กัน แต่สิ่งที่ตามมาคือ ขยะ หลังจากเทศกาลลอยกระทงจบลง กลับสร้างมลภาวะทางน้ำอย่างมากมายมหาศาล โดยหน่วยงานภาครัฐต่างรณรงค์ให้ใช้กระทงที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ หรือวัสดุที่ย่อยสลายได้ง่าย เพื่อจะได้ไม่ก่อมลภาวะต่อแม่น้ำและลำคลอง
น.ส.นันทนา ขำจันทร์ หรือ อ้วน อายุ 42 ปี เป็นเจ้าของฟาร์มจิ้งหรีดชื่อ “คุณนายฟาร์มจิ้งหรีด ค่ายบางระจัน” ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 83 หมู่ที่ 10 ต.บางระจัน อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี ได้เล่าว่า ตนมีร้านขายจิ้งหรีดแช่แข็งอยู่ในตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน วัดโพธิ์เก้าต้น และในวันลอยกระทงที่จะถึงนี้ ทางวัดโพธิ์เก้าต้นได้มีกำหนดจัดงานลอยกระทงย้อนยุค ชื่องาน “ทีปะวารี ณ บ้านระจันวันเพ็ญ” โดยตนได้มีความตั้งใจที่จะทำกระทงน้ำแข็งไปถวายให้กับ พระครูวิชิตวุฒิคุณ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์เก้าต้น เจ้าคณะอำเภอค่ายบางระจัน เพื่อให้หลวงพ่อนำกระทงไปให้ทางคณะกรรมการตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจันนำไปจำหน่ายให้ประชาชนที่มาเที่ยวในงานได้ทำบุญให้กับทางวัด
ตนมีความคิดที่จะทำ “กระทงรักษ์โลกและรักปลา” โดยทำเป็นกระทงน้ำแข็ง ใส่ดอกไม้สวยงาม และใส่จิ้งหรีดแห้งที่ตนมีลงไปด้วย เพราะนอกจากเราจะได้ลอยกระทงขอขมาพระแม่คงคาแล้ว เรายังจะได้บุญจากการทำทานเพราะจิ้งหรีดเป็นอาหารชั้นดีของปลาอีกด้วย อีกทั้งกระทงน้ำแข็งนั้นสามารถช่วยลดขยะในแม่น้ำ ส่งผลกระทบกับน้ำน้อยมาก หากแต่มีเพียงธูปเทียนที่ย่อยสลายยาก แต่ก็กระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
โสภิดา เผือกพันธ์ ผู้สื่อข่าวสิงห์บุรี