อธิบดี สถ. เปิดการฝึกอบรมหลักคิดจิตอาสาให้กับบุคลากรท้องถิ่น
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2562 เวลา 09.00 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมบุคลากรท้องถิ่นเกี่ยวกับหลักคิดจิตอาสาและการปลูกฝังความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งจัดขึ้นโดยสถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น โดยมี ดร.ภูริดา ภู่ศิริ หัวหน้างานฝึกอบรมโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ในฐานะจิตอาสาหลักสูตรประจำรุ่น 3 รหัส 3B016 ร่วมเป็นวิทยากร และมีผู้เข้ารับการอบรมจำนวนกว่า 300 คน ณ สถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
สำหรับการฝึกอบรมดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อร่วมขับเคลื่อนหลักคิดจิตอาสาและการปลูกฝังความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ให้กับข้าราชการกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และบุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งฝ่ายการเมืองและฝ่ายประจำ ในหลักสูตรจะมีการบรรจุวิชาต่างๆ ไว้ เช่น วิชาความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ต่อการดำรงอยู่ของชาติไทย , วิชาแนวคิดการปฏิบัติราชการตามหลักการทรงงานในรัชกาลที่ 9 ,วิชาแนวคิดจิตอาสาเพื่อการพัฒนาตามหลักคิดในรัชกาลที่ 10 และวิชาแนวคิดการดำเนินงานโครงการเฉลิมพระเกียรติ ที่จะนำไปสู่การส่งเสริมให้เกิดความรัก ความเทิดทูนในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย
อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวในพิธีเปิด โดยย้ำว่า มีความภาคภูมิใจ ที่หน่วยงานในสังกัด ได้มีความตระหนัก และให้ความสำคัญต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ให้มีการนำหลักคิดต่างๆ และขยายผลเผยแพร่พระเกียรติคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ที่มีคุณูปการต่อการดำรงอยู่ของประเทศไทยตลอดมา เราต้องตระหนักอยู่เสมอว่า ประเทศไทยสามารถดำรงความเป็นประเทศอยู่ได้ตั้งแต่แรกเริ่มจนมีความเป็นปึกแผ่นเป็นประเทศที่มั่นคงและมีเอกราชจวบจนปัจจุบัน ล้วนก่อกำเนิดมาจากสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งสิ้น ดังนั้น เราคนไทยทุกคนต้องมีจิตสำนึกถึงคุณูปการอันใหญ่หลวงที่สถาบันพระมหากษัตริย์มีต่อการดำรงความเป็นประเทศไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
สำหรับหลักคิดจิตอาสา อยากจะถือโอกาสเล่าถึงเรื่องนี้ในฐานะที่เป็นจิตอาสา 904 หลักสูตรพื้นฐาน รุ่นที่ 1/62 เริ่มแรกก็คืออยากชวนคนไทยทุกคนจินตนาการว่า ถ้าชุมชนที่เราอาศัยอยู่ เกิดสภาพต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างทำตามใจชอบของตัวเอง ไม่ช่วยกันดูแลชุมชนของตัวเอง ชุมชนของเราจะมีสภาพเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้น จึงจะเป็นอย่างยิ่งที่พวกเราทุกคนจะต้องร่วมกันปฏิบัติตามพระบรมราโชบายเรื่องจิตอาสา ซึ่งเป็นแนวคิดที่เปิดกว้างให้คนไทย ได้บำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ในเรื่องใดก็ได้ ที่จะสร้างผลดีให้เกิดกับชุมชน และยิ่งชวนหลายๆ คนมาร่วมกันทำ ก็จะยิ่งสร้างผลดีให้เกิดแก่สังคมได้มาก
“ขอให้เพื่อนข้าราชการทุกท่าน นำแนวคิดจิตอาสา กลับไปปฏิบัติและกลับไปขยายผลให้เกิดขึ้นจริงในพื้นที่ของตัวเอง โดยเริ่มกับตัวเอง ดูแลคนในครอบครัวให้รักสามัคคี อบอุ่น ปลูกฝังให้คนในครอบครัวเอาใจเขามาใส่ใจเรา เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม มาก่อนประโยชน์ส่วนตน ดูแลหน้าบ้านของเราให้สะอาด เป็นหน้าบ้านที่น่ามอง ถ้าบ้านของเราสะอาด ชุมชนของเราก็จะสะอาด แล้วยกระดับสู่ที่ทำงานของเราต่อไป ทำเช่นนี้ได้สิ่งที่ดีงามก็จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา
ถึงเวลาแล้วที่เราต้องช่วยกัน ปลูกฝังสิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นในสังคมของเรา อย่าปล่อยให้สังคมไทย เป็นสังคมของคนเห็นแก่ตัว เป็นสังคมของคนที่ไม่คิดจะทำความดีให้สังคม ขอให้ทุกคนเอาใจกำกับกายให้ลุกขึ้นมาทำความดีด้วยหัวใจผ่านวิธีการต่างๆ ให้ได้ ขอให้ทุกคนอย่าอายที่จะลุกขึ้นมาทำความดี แล้วสิ่งที่ดีงามจะเกิดขึ้นในประเทศของเราเรา และจะเป็นผลดีต่อลูกหลานของเราต่อไป” นายสุทธิพงษ์กล่าว