อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ลงพื้นที่เยี่ยมน้องมาเรียม และเตรียมไลฟ์สดเกาะติดชีวิต “มาเรียม” พะยูนน้อยแห่งเกาะลิบง
ที่อ่าวดูหยง หมู่ที่ 4 ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ในวันนี้ได้ลงพื้นที่เกาะลิบง จ.ตรัง เพื่อหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัด ท้องถิ่น และเครือข่ายพิทักษ์ดุหยง ในการวางมาตรการดูแลมาเรียม ลูกพะยูนที่ทางสัตวแพทย์ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน (ภูเก็ต) ร่วมกับเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง และอาสาสมัครอนุบาลในพื้นที่ธรรมชาติมาเกือบ 2 เดือน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการอนุรักษ์พะยูน สัตว์ทะเลหายากในพื้นที่ เนื่องจากจะต้องดูแลมาเรียมต่อไปอีกอย่างน้อย 1 ปีก่อนจะเลิกนมและปล่อยให้ใช้ชีวิตตามลำพังได้
นายจตุพร อธิบดี ทช. กล่าวว่า เนื่องจากความน่ารักของมาเรียม พะยูนน้อยที่กลายเป็นขวัญใจของคนทั้งประเทศ และถือเป็นการปลุกจิตสำนึกให้ทุกคนเกิดการอนุรักษ์และหวงแหนพะยูนในวงกว้าง ซึ่งมีคนจำนวนมากอยากรู้จักมาเรียมในฐานะทูตแห่งเกาะลิบง ดังนั้นเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันเกี่ยวกับการดูแลพะยูนที่เป็นตำราใหม่ ทางกรมทช. จึงเตรียมติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) บริเวณสถานที่พักฟื้นพะยูนพื้นที่เขาบาตูปูเต๊ะ จ.ตรัง เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์ดูแลมาเรียมของทีมสัตวแพทย์ ซึ่งนายสมศักดิ์ มหาวิริโย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หน่วยธุรกิจขายและบริการลูกค้าภาคกลาง ภาคใต้ และภาคตะวันออก นำเจ้าหน้าที่จากบริษัททีโอทีลงพื้นที่ตรวจสอบสัญญาณต่างๆ และดูว่าจะต้องติดกี่จุด การติดตั้งวงจรปิดครั้งนี้จะถ่ายทอดสัญญาณผ่านทางเพจเฟซบุ๊กของกรมทช. ตลอด 24 ชั่วโมงเหมือนกับเต่ามะเฟือง ซึ่งมองในแง่ดีจะช่วยดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ให้กับมาเรียม และอีกมุมหนึ่งทุกคนทั่วโลกจะได้เห็นกิจวัตรประจำวันของทีมงานสัตวแพทย์ โดยเริ่มตั้งแต่การป้อนนม การสอนกินหญ้าการพายเรือแม่ส้มออกไปสอนว่ายน้ำเพื่อเป็นการเรียนรู้ชีวิตสัตว์ทะเลหายากที่ไม่เคยมีใครเห็นใกล้ชิดมาก่อน ทั้งนี้ เชื่อว่าจะได้ผลในเชิงบวกในด้านปลุกกระแสการอนุรักษ์พะยูน ซึ่งเป็นสัตว์สงวนของไทยที่มีเพียง 200 กว่าตัว รวมถึงให้ทุกคนเกิดการรักและหวงแหนพะยูนมากยิ่งขึ้น คาดว่าถ้าวางระบบต่างๆ แล้วเสร็จ ในช่วงต้นเดือน ก.ค.นี้จะได้ชมสดชีวิตมาเรียมผ่านทางเฟชบุ๊กแน่นอน ในส่วนข้อเป็นห่วงว่าโอกาสที่มาเรียมจะติดคนหรือมีปัญหาการปรับตัวใช้ชีวิตนั้น ต้องยอมรับว่าแน่นอนว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะที่ผ่านมาเราไม่เคยเลี้ยงลูกพะยูนแบบพื้นที่ธรรมชาติมาก่อน ยังไม่รู้ว่าอันไหนเหมาะสมที่สุด แต่ต้องเน้นสุขภาพมาอันดับแรกๆ แม้แต่คนลงไปป้อนนมยังต้องมีข้อห้าม เช่น ต้องใส่ถุงมือ ห้ามสัมผัสด้วยมือ ลงดูแลครั้งละไม่เกิน 3 คน และห้ามคนที่ไม่เกี่ยวข้องลงไปใกล้ เพื่อความปลอดภัยของเจ้ามาเรียม ทั้งนี้ การปล่อยมาเรียมไปใช้ชีวิตลำพังยังไม่ใช่สูตรสำเร็จ ต้องดูข้อเท็จจริงสถานการณ์ในเวลานั้น เพราะพะยูนที่ออกจากฝูงมานานนั้น การจะกลับเข้าฝูงให้เป็นที่ยอมรับของฝูงหรือไม่ เพราะเป็นสัญชาติญาณและเป็นเรื่องใหม่ของโลก มนต์เจริญ ศรีมงคล จ.ตรัง