เกษตรปทุมธานี สาธิตรถหยอดเมล็ดพันธุ์ และใช้โดรนพ่นยาหว่านปุ๋ยนาข้าวทางอากาศแนวทางเกษตรอัจฉริยะ

เกษตรปทุมธานี สาธิตรถหยอดเมล็ดพันธุ์ และใช้โดรนพ่นยาหว่านปุ๋ยนาข้าวทางอากาศแนวทางเกษตรอัจฉริยะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุน การผลิต
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 15 มิ.ย. 2562 ที่แปลงนาสาทิตหมู่ที่6 ตำบลคลองควาย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี นายสมเดช คงกะพันธ์ เกษตรจังหวัดปทุมธานีพร้อม เกษตรอำเภอทั้ง 7 อำเภอ และหน่วยงานราชการในพื้นที่ บริษัท สยามคูโบต้า จำกัด บริษัท ดี ดับเบิลยู ดี อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัดลงพื้นที่ให้ความรู้และทำแปลงส่งเสริมการปลูกข้าว มุ่งเน้นการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรในการเพาะปลูก ทั้งรถหยอดเมล็ดพันธุ์ ที่ช่วยให้ต้นกล้ามีความสม่ำเสมอกัน และมีระยะที่เหมาะสมกับต้นข้าวในแต่ละพันธุ์ การใช้รถหยอดเมล็ดพันธุ์ ข้าว จะช่วยให้เกษตรกรลดการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวลงได้ ต้นข้าวเรียงกันเป็นแถวสวยงาม ง่ายต่อการบำรุงรักษา และโดรนเพื่อการเกษตรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุน การผลิต


โดยสาธิตและถ่ายทอดเทคโนโลยีการใช้ เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ทันสมัยในกระบวนการ ผลิตข้าวในแปลงต้นแบบ 10 ไร่หมู่ที่6 ตำบลคลองควาย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมานี ของนายสมาน พึ่งคำ โดยเน้นการเปรียบเทียบกรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมของเกษตรกร กับกรรมวิธีตามแนวทางของเกษตรอัจฉริยะ ที่ได้ประสานความร่วมมือจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในแปลงเรียนรู้ ครอบคลุมตลอดทั้งกระบวนการผลิตพืช โดยนำนวัตกรรม เทคโนโลยี และเครื่องจักร มาใช้


นายสมเดช คงกะพันธ์ เกษตรจังหวัดปทุมธานีกล่าวว่า แนวทางเกษตรอัจฉริยะนั้นเป็นวิธีที่มี ประสิทธิภาพสูง ได้เรียนรู้นวัตกรรมใหม่เครื่องจักรกลและเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะที่มาช่วยทำเกษตรที่ทำได้จริง โดยสาธิต และรณรงค์ให้เกษตรกรใช้เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุน การผลิตข้าวในนาแปลงใหญ่ และเปรียบเทียบการทำเกษตรกรรม ระหว่างวิธีการ ทำเกษตรแบบดั้งเดิมของเกษตรกร กับวิธีการ ทำเกษตรแบบเกษตรอัจฉริยะนี้ แสดงให้เห็นว่า ลดต้นทุนการผลิตเพิ่มผลผลิตได้ เช่น การปลูกข้าวแบบอัจฉริยะ 2 ระบบ ได้แก่ ระบบนาดำ และระบบการทำนาหยอดข้าว ที่ควบคุมนำร่องการเคลื่อนที่ด้วยระบบ GPS ร่วมกับการควบคุมพวงมาลัยอัตโนมัติ หรือ auto steering เพื่อช่วยบริหารจัดการพื้นที่แปลงปลูกข้าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถลดเมล็ดพันธุ์เหลือเพียง 10 กก./ไร่ เมื่อเทียบกับวิธีดั้งเดิมคือการทำนาหว่าน ที่ใช้เมล็ดพันธุ์ถึง 25 กก./ไร่ สำหรับการใช้รถหยอดข้าว จะช่วยให้เกษตรกรลดการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวลงได้ต้นข้าวเรียงกันเป็นแถวสวยงาม ง่ายต่อการบำรุงรักษา ซึ่งรถหยอดข้าวคูโบต้ารุ่น DS10 ยังสามารถฉีดยาพ่นคุมวัชพืชไปพร้อมกันได้เป็นการรวมขั้นตอนการปลูกและฉีดยาคุมวัชพืชให้เหลือเพียงขั้นตอนเดียว โดยทั้ง 2 แนวทางนี้ล้วนมีส่วนสำคัญที่ทำให้ต้นข้าวเจริญเติบโตได้ดี ข้าวแตกกอสมบูรณ์ ได้จำนวนเมล็ดข้าวต่อรวงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ส่งผลให้ผลผลิตมีคุณภาพ


และการใช้โดรนเพื่อการเกษตร ให้เกษตรกรชาวนาได้เป็นทางเลือกในการใช้เครื่องมือแบบใหม่มีความรวดเร็วและไว้ในการพ่นยา โดยที่นา 10 ไร่ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็แล้วเสร็จ ไม่มีการเหยียบย่ำทำให้ต้นข้าวเสียหายและลดอันตรายในการฟุ้งกระจายสารเคมีที่มีผลต่อคนพ่นยา เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพพาเกษตรกรไทยก้าวสู่ยุคเกษตรกร 4.0 จึงนับได้ว่าโดรนเพื่อการเกษตรเป็นทางเลือกที่น่าสนใจของการทำเกษตรสมัยใหม่ที่เกษตรกร/ผู้ประกอบการ ควรนำมาปรับใช้เพื่อพัฒนาไปสู่การเป็นเกษตรกรมืออาชีพ (Smart Farmer)
นายสมเดช คงกะพันธ์ เกษตรจังหวัดปทุมธานีกล่าวต่ออีกว่าการรณรงค์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ต้องการให้เกษตรกรไถกลบตอซังฟางข้าว หรือเศษซากพืชไร่ที่เหลืออยู่ในไร่นาหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ฟางข้าวและตอซังข้าวเป็นผลพลอยได้หลังจากการเก็บเกี่ยวและนำเมล็ดข้าวออกแล้ว ซึ่งเป็นวัสดุที่ย่อยสลายง่าย หากมีการไถกลบตอซังข้าวจะทำให้ดินมีคุณสมบัติทางกายภาพ ทางเคมีและทางชีวภาพดีขึ้น มีธาตุอาหารหลักและธาตุอาหารรองที่เป็นประโยชน์ต่อดินทำให้ต้นข้าวเจริญงอกงามให้ผลผลิตดีลดการใช้ปุ๋ยเคมี เนื่องจากอินทรียวัตถุในดินที่มีมากขึ้นเป็นการคืนความอุดมสมบูรณ์กลับสู่ดิน ทำให้ดินฟื้นคืนชีวิต มีพลังในการเพิ่มพูนผลผลิต และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

พงศ์พัทธ์ วงศ์ยะลา ปทุมธานี