สุพรรณบุรี ล่าไอ้เค ศาลาขาว หลอกเจ้าอาวาสวัดดัง ตระเวนยืมเงินเจ้าวัดเกือบ200,000เชิดหนี
ที่ จ.สุพรรณบุรี ร.ต.อ.สมเจตต์ นุชนารถ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งมีคนร้ายหลอกเอาเงินเจ้าอาวาสวัดอุทุมพราราม (ไผ่แขก) หมู่ 5 ต.ดอนโพธิ์ทอง จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจและฝ่ายสืบสวน ที่เกิดเหตุภายในกุฏิเจ้าอาวาสพบพระครูพิสุทธิ์สมณการ (หลวงพ่อทวน) อายุ 81 ปีเจ้าอาวาสพร้อมพระลูกวัดและนายประเทือง แก้วพิพัฒน์ ไวยาวัจกร ของวัดและชาวบ้านจำนวนหนึ่งพูดคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากการสอบถามพระครูพิสุทธิ์สมณการ เจ้าอาวาสซึ่งเป็นผู้เสียหายและอยู่ในอาการมึนงงและหลงลืม เล่าถึงเหตุการณ์ให้ฟังจับใจความได้ว่าก่อนเกิดเหตุช่วงสายวันที่ 12 มิ.ย. ได้มีนายเค อุ่นเรือน อายุ 36 ปีอยู่บ้านเลขที่ 77/1 หมู่ 9 ต.ศาลาขาว อ.เมืองสุพรรณบุรี ซึ่งรู้จักกันมาได้ประมาณ 1 ปีเศษขับรถยนต์กระบะสีขาว จำยี่ห้อและทะเบียนไม่ได้เข้ามาหาบอกว่ามีปัญหาเดือดร้อนเรื่องเงินต้องใช้ในการวิ่งคดี ถ้าไม่ได้ต้องติดคุกแน่ ด้วยความที่เป็นคนรู้จักกันมานับปีจึงเกิดความสงสารจึงบอกนายเค ว่าอาตมาไม่มีเงินนายเค จึงเสนอความคิดให้หลวงพ่อ ไปหายืมเงินจากเจ้าอาวาสวัดต่างๆ ในพื้นที่ อ.เมืองสุพรรณบุรี ด้วยความที่หลวงพ่อท่านชราภาพและมีอาการหลงลืม จึงหลงเชื่อและขึ้นรถไปกับนายเค โดยเริ่มตั้งแต่วัดโรงช้าง 20,000 บาท วัดพันตำลึง 17,000 บาท วัดสามนาค 20,000 บาทวัดกงจักร 20,000 บาทวัดอู่ยา 15,000 บาทหลวงปู่ดุสิต 40,000 บาทวัดโพธิ์ท่าทราย 30,000บาทและโรงท่อ 22,000 บาทรวมเป็นเงิน 154,000 บาทกระทั่งเย็นหลังจากได้เงินนายเค ได้ขับรถพาหลวงพ่อกลับมาส่งที่วัด จากนั้นได้ขับรถออกไปจากวัดอย่างรวดเร็ว
โดยก่อนที่นายเค จะพาหลวงพ่อออกไปตระเวนยืมเงินเจ้าอาวาสวัดต่างๆ นั้นนายเค ได้นำสมุดบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาสวนแตง มาให้หลวงพ่อเก็บไว้โดยบอกกับหลวงพ่อว่าให้หลวงพ่อเก็บสมุดบัญชีไว้ ในบัญชีมีเงินอยู่ 200,000 บาทแต่หลวงพ่อไม่ได้ดูกระทั่งนายเค ได้เงินไปแล้วจึงมาดูบัญชีพบว่ามีตัวเลขเงินในบัญชีเพียง 39,000 กว่าบาทซึ่งไม่แน่ใจว่ามีตัวเงินเหลืออยู่หรือไม่
ทางด้านพระลูกวัดรูปหนึ่งเล่าว่าช่วงบ่ายวันที่ 12 มิ.ย.ได้มีเจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ต.รั้วใหญ่ ได้โทรศัพท์มาหาบอกว่าหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดไผ่แขก มาขอยืมเงิน จะเอาเงินไปใช้ทำอะไรด่วนหรือเปล่าพระลูกวัดจึงตอบไปว่าทางวัดไม่ได้มีงานและไม่ได้ใช้เงินทำอะไร เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จึงไม่ได้ให้ยืมเงิน กระทั่งหลวงพ่อกลับมาที่วัดจึงเชิญกรรมการวัดมาร่วมสอบถาม และทราบว่าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นและเชื่อว่าหลวงพ่อถูกนายเค หลอกเอาเงินไปอย่างแน่นอน
ทางด้านนายประเทือง แก้วพิพัฒน์ กรรมการวัดและเป็นไวยาวัจกร ของวัดเล่าว่าเคยเห็นนายเค มาหาหลวงพ่อเจ้าอาวาสนานแล้วครั้งแรกคิดว่านายเค เป็นญาติกับหลวงพ่อตนจึงไม่ได้สนใจอะไรมากต่อมาได้พบกับนายเค อีกจึงถามว่ามาทำอะไรนายเค บอกว่าเอาพระมาขายให้หลวงพ่อ ตนก็ไม่ได้คิดอะไรจากนั้นก็เห็นนายเค เข้ามาในวัดบ่อยขึ้นกระทั่งมาก่อเหตุขึ้น ซึ่งทางหลวงพ่อนั้นท่านอายุมากแล้วมีอาการหลงลืมและไม่เคยเล่าเรื่องอะไรเกี่ยวกับนายเค ให้ตนและกรรมการหรือแม้กระทั่งพระลูกวัดฟัง เมื่อสอบถามก็จะบอกเพียงว่านายเค เอาพระมาขายเอาวัตถุมงคลมาให้ ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ กระทั่งมีเจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุโทรศัพท์มาบอกพระลูกวัด จึงทราบเรื่องและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
ทางด้าน ร.ต.อ.สมเจตต์ นุชนารถ รองสารวัตรสอบสวน เจ้าของคดีกล่าวว่าจะนำเรื่องนี้ไปลงบันทึกประจำวันพร้อมกับรายงานผู้บังคับบัญชาทราบเบื้องต้นเชื่อได้ว่านายเค น่าจะมาหลอกเอาเงินหลวงพ่อเจ้าอาวาส อย่างแน่นอน จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายเค เคยถูกจับคดียาเสพติดมาก่อน จึงประสานฝ่ายสืบสวน ออกสืบหาเบาะแสของนายเค เพื่อจะได้นำตัวมาสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ภัทรพล พรมพัก/สุพรรณบุรี