น้ำตาท่วมเตียง หลวงพี่น้ำฝน ขับเคลื่อนโครงการธนาคารเตียงรถวีลแชร์ เข้าถึงปัญหาสังคมผู้สูงวัย เดินตามรอยหลวงพ่อพูลให้วัดเป็นที่พึ่งญาติโยม
เข้าสู่สังคมผู้สูงวัยในสังไทย จำนวนผู้สูงอายุในสังคมยิ่งเพิ่มมากขึ้น สิ่งที่ตามมานั่นคือการจะเข้าถึงคุณภาพชีวิตของผู้อายุวัยได้อย่างไร โดยเฉพาะเรื่องการดูแลเรื่องสุขภาพที่จะมีแต่เสื่อมสภาพลง ด้วยสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมไทยที่ทราบดีกันอยู่แล้วในหลายรัฐบาลที่ผ่านมา ตั้งแต่ครั้งพระเดชพระคุณหลวงพูล อัตตรักโข พระเกจิเถราจารย์ ตำนานแห่งวัดไผ่ล้อม ยังคงมีชีวิต ท่านมีจิตเมตตาในสังสงเคราะห์ญาติโยม ที่อยู่รายรอบวัด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในการดำเนินชีวิตเรื่องใด ท่านไม่เคยที่จะมองข้ามและมอบหมายให้พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน ศิษย์เอก เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้สานต่อให้วัดไผ่ล้อมเป็นศูนย์รวมของการช่วยเหลือประสานงานให้กับญาติโยม โดยเฉพาะพื้นที่รอบและใกล้เคียงวัดไผ่ล้อม
โครงการธนาคารเตียงผู้ป่วยและรถวีลแชร์ โดยกองทุนหลวงพ่อพูลวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม โดยพระครูปลัยสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) ยังคงเป็นที่พึ่งพิงให้กับผู้สูงวัยและครอบครัวที่ประสบปัญหามีผู้สูงอายุนอนป่วยติดเตียงและผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านสุขภาพที่ต้องนอนรักษาตัวและพักฟื้นอยู่บนเตียงเท่านั้น ซึ่งหลวงพี่น้ำฝนยังคงตั้งมั่นในการสงเคราะห์ญาติโยมที่ยังไม่สามารถจัดหาเตียงหรือรถวีลแชร์ที่มีความจำเป็นในการดำเนินชีวิต โดยเป็นส่วนที่ญาติโยมหลายครอบครัวยังคงติดขัดเรื่องรายได้และไม่สามารถจัดหามาใช้งานได้ ซึ่งมีจำนวนมากขึ้นที่เข้ามาประสานขอรับการสนับสนุนจากวัดไผ่ล้อม
โดยได้มีลูกหลานและบุคคลในครอบครัวได้ประสานเข้ามาขอรับการบริจาคเตียงผู้ป่วย อย่างต่อเนื่องซึ่ง จากการสำรวจข้อมูล2 รายล่าสุดพบว่าเป็นครอบครัวที่เข้ากฎเกณฑ์ในการรับบริจาค หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จึงได้เร่งดำเนินการลงพื้นที่ทำการส่งมอบเตียงและปัจจัยรวมถึงเครื่องยังชีพ โดยทันที รายแรกเดินทางไปที่ บ้านเลขที่ 9/22 หมู่ 5 ตำบลสามควายเผือก อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจนายสมทรง แดงมณี ที่นอนป่วยติดเตียง ด้วยอาการป่วยกระดูกสันหลังเคลื่อนหลังจากผ่าตัดแล้วไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายท่อนล่างได้ โดยมีภรรยาคือนางนวลจันทร์ พรหมธาระ เป็นผู้ดูแล ซึ่งเมื่อนายสมทรงได้พบกับหลวงพี่น้ำฝน ถึงกับหลั่งโผกอด และหลั่งน้ำตาด้วยความดีใจ และได้ขอถวายสังฆทานบนเตียงเนื่องจากไม่มีโอกาสได้เดินทางไปทำบุญที่วัดได้ โดยทางภรรยาที่ดูแลเผยว่ารู้สึกดีใจที่หลวงพี่น้ำฝน ได้มามอบเตียงผู้ป่วยให้ถึงบ้าน
จากนั้นได้เดินทางไปยัง บ้านเลขที่ 43/51 หมู่ 5 ตำบลลำพญา อำเภอเมืองนครปฐมจังหวัดนครปฐม เพื่อไปพบหับนางสาวมณีนพรัตน์ วิวัฒนานนท์ อายุ 68 ปี ซึ่งนอนป่วยอยู่ติดเตียงด้วยโรคเบาหวานและมีแผลเบาหวานที่เท้า โดยมีนางสาวภัควลัญชญ์ วิวัฒนานนท์ หลานสาว ประกอบอาชีพขายข้าวยำแหนม ในตลาดซอย 2 เขตเทศบาลนครนครปฐม เป็นผู้คอยดูแล ซึ่งเมื่อได้พบกับหลวงพี่น้ำฝน ถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความปลาบปลื้มที่ได้รับการช่วยเหลือทันทีที่มีการร้องขอความช่วยเหลือเข้ามา โดยหลวงพี่น้ำฝนได้ให้กำลังใจและชื่นชนบุตรหลานที่ไม่ทอดทิ้งผู้สูงอายุให้ต้องลำบากเพียงลำพังซึ่งทั้ง 2 ครอบครัวรวมถึงทุกรายที่มีการช่วยเหลือจะมีการมอบภาพของหลวงพ่อพูลซึ่งเป็นพระที่ญาติโยมให้ความรักและศรัทธาแม้ท่านจะละสังขารไปแล้วกว่า 20 ปีแล้ว
หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม กล่าวว่า สำหรับการเข้าช่วยเหลือญาติโยมที่มีความเดือดร้อนโดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ ที่ต้องใช้ทั้งเตียงสำหรับผู้ป่วยและรถวีลแชร์ ซึ่งอาตมายังคงจะทำต่อไปกระทั่งหมดแรงหากไม่ติดภารกิจอื่นก็จะลงไปพบญาติโยมด้วยตัวเองเพื่อให้กำลังใจและสอบถามปัญหาด้วยตัวเอง เพื่อที่จะได้เข้าใจถึงปัญหาแต่ละเรื่องที่มีแตกต่างกันออกไป และยังคงจะมุ่งมั่นสานต่อเจตนารมของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล ที่ท่านเป็นห่วงญาติโยมเสมอหากมีความเดือดร้อนในเรื่องต่างๆ ซึ่งอาตมาตั้งมั่นในการทำให้วัดไผ่ล้อมเป็นศูนย์กลางการประสานงานความช่วยเหลือให้กับญาติโยม นอกเหนือจากการสืบสานพระพุทธศาสนาให้คนไทยได้มีความรักสามัคคีต่อกันภายใต้สถาบันหลักของชาติไทย ซึ่งจะทำให้เราเป็นสังคมที่เกื้อกูลต่อกันอย่างยั่งยืน ด้วยหลัก บวร บ้าน วัด โรงเรียน สืบไป