สุพรรณบุรี เพลิงไหม้ร้านขายฮาร์ทแวร์ ผู้สมัคร สจ.เมืองสุพรรณ ดับ พร้อมลูกเมีย4ราย

สุพรรณบุรี  เพลิงไหม้ร้านขายฮาร์ทแวร์เครื่องใช้ไฟฟ้าคลอกผู้สมัคร สจ.เมืองสุพรรณ พร้อมลูกเมีย4ราย
ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อเวลาประมาณ 05.25 น. วันที่ 11 ม.ค.68  พ.ต.ท.นิคม ขุนสะอาดศรี  พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี   ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ตึกแถว  3 คูหา  3 ชั้น ขายอุปกรณ์ไฟฟ้า-ก่อสร้าง บริเวณสี่แยกนางพิม   เลขที่ 103-105-107 ถนนพระพันวษา ต.ท่าพี่เลี้ยง   อ.เมืองสุพรรณบุรี   จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ประสานรถดับเพลิง เทศบาลเมืองสุพรรณ นำระกระเช้าสำหรับอาคารสูง  และใกล้เคียง กว่า 10 คันรุดไปตรวจสอบพร้อมนายวิริยะ ฉันทดิลก ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นายกลวัชร ทรัพย์ส่งสุข  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พ.ต.อ.กฤศ  จันทร์สว่าง รองผู้บังคับการตำรวจภูรจังหวัดสุพรรณบุรี รักษาการผู้กำกับ สภ.เมืองสุพรรณบุรี มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี และสมาคมเณรแก้วกู้ภัยทางหลวง 
ที่เกิดเหตุ เป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น3 คูหาขายอุปกรณ์ก่อสร้าง และเครื่องใช้ไฟห้าอยู่กลางตลาดเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี    พบแสงเพลิง และกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากด้านในตัวอาคารจำนวนมาก   เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ต้องทุบกุญแจล็อกประตูด้านหน้า  ใส่อุปกรณ์ผจญเพลิงบุกเข้าไปด้านใน และระดมฉีดน้ำเพื่อควบคุมไม่ให้ลุกลามขยายวงกว้างไปห้องข้างเคียง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง  เพลิงจึงสงบ จากการตรวจสอบ เบื้องต้นพบทรัพย์สินที่อยู่ภายในซึ่งเป็นอุปกรณ์ก่อสร้างประเภทฮาร์ทแวร์ และแครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนมากถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด
ทางด้านนายเอกพันธ์  อินทร์ใจเอื้อ  นายกเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี กล่าวว่าหลังจากได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังพร้อมประสานหน่วยงานข้างเคียง รุดเข้าตรวจสอบ  และพยายามติดต่อเจ้าของบ้านและไม่สามารถติดต่อได้  เมื่อพบว่าประตูปิด  จึงทำการงัดประตูบ้านเข้าไปพบเพลิงกำลังลุกไหม้อยู่ภายในเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว  จึงเร่งทำการฉีดน้ำดับเพลิง  และส่งชุดผจญเพลิงเข้าไปตรวจสอบ  ในเบื้องต้นยังไม่พบผู้ตกค้างอยู่ภายใน  ขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงได้ในวงจำกัดเหลือเพียงกลุ่มควันที่ยังอยู่ด้านใน  เจ้าหน้าที่เร่งทำการระบายควันออก เพื่อจะตรวจสอบว่ามีบุคคลตกค้างอยู่ด้านในหรือไม่ ซึ่งก็ได้ภาวในว่าไม่ให้มีคนอยู่  ส่วนความเสียหายมีมาก และสาเหตุคงต้องรอทางตำรวจมาตรวจสอบต่อไป
ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังระดมฉีดโดยมีนายพูลศักดิ์  รุ่งโรจน์ชัยพร  อายุ 78 ปี บิดาของ นายภูษิต อดีต สจ. เดินทางมาดูที่เกิดเหตุด้วยอาการช็อก บอกกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆว่าไม่รู้ว่ามีคนอยู่ภายในหรือไม่
หลังเกิดเหตุญาติของ นายภูษิต อดีต สจ. จำนวนมากมาดูที่เกิดเหตุได้กอดกันร้องไห้ระงม ยืนยันว่า ที่เกิดเหตุ มีคนอาศัย 4 คน คือ สจ.ภูษิต  รุ่งโรจน์ชัยพร ภรรยา และลูกอีก 2 คน  อยู่ระหว่างรอการเข้าตรวจสอบเพื่อยืนยัน
ทางด้าน นางวาสนา  มาตรศรี  อดีต สจ.อู่ทอง ผู้สมัคร สจ.เขต 3 อำเภออู่ทอง เพื่อนสนิทกับครอบครัวนี้ เดินทางมาดูที่เกิดเหตุกล่าวว่า ในบ้านนี้อาศัยอยู่กัน 4 คน ทั้งครอบครัว  ซึ่งหลังทราบข่าว ตนเดินทางก็พยายามโทรหาตลอดทางทั้ง 2 คน  จนโทรศัพท์ของ สจ.โทรติดแต่ไม่รับสายจึงโทร คุณติ๊ก ภรรยา สจ.ภูษิต  เหมือนแบตหมด ตัดสัญญานไป  ก็ตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายกลวัชร ทรัพย์ส่งสุข  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรีเปิดเผยว่าที่เกิดเหตุเป็นอาคาร3ชั้น3คูหาเบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต4รายเป็นชาย2หญิง2 อยู่ระหว่างการลำเลียงไปพิสูจน์หลักฐาน   ส่วนสาเหตุคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรเนื่องจากพื้นที่ตรงนี้เป็นอาคารที่มีเครื่องมืออุปกรณ์ค่อนข้างเยอะ แต่อย่างไรก็ตามต้องรอผลตรวจพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ซึ่งต้องให้อาคารเซ็ตตัวก่อนเพราะยังเป็นพื้นที่ตราย
จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงที่เข้าไปช่วยดับไฟในอาคารกล่าวว่า เมื่อเข้าไปในอาคาร พบเพลิงลุกไหม้จากชั้นล่างขึ้นไปสู่ชั้นบนและพบร่างผู้เสียชีวิต 4 รายที่ชั้น 2 ตรงบันได 1 รายชั้น 3  จำนวน 3 ราย ซึ่งคาดว่า ติดประตู หน้าต่างเหล็กดัด  ไม่สามารถหนีออกสู่ด้านบนดาดฟ้าได้ ส่วนอีกรายพบอยู่ที่ชั้น 2 จึงอยากฝากเตือน ประชาชนที่ติดเหล็กดัดไว้ควรทำช่องประตูฉุกเฉินเอาไว้ด้วยเมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิดจะได้หลบหนีออกทัน
ผู้เสียชีวิตทั้งหมด 4 คนประกอบด้วย นายภูษิต รุ่งโรจน์ชัยพร  อายุ 52 ปี นางกนกวรรณ รุ่งโรจน์ชัยพร  อายุ 49 ปี สามีภรรยา  และลูกอีก 2 คน คือนายถิรวัสส์ รุ่งโรจน์ชัยพร อายุ 26 ปี และ นางสาววรสิริ  รุ่งโรจน์ชัยพร  อายุ 24 ปี ทั้ง 4 ราย สภาพโดนไฟไหม้เกิน 90%
ภัทรพล  พรมพัก   สุพรรณบุรี