ปปส แถลงการปราบปรามยาเสพติดภาคเหนือ
31 สิงหาคม 2567
ปฏิบัติการ “ตัดไฟแต่ต้นลม”
ร่วมบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ป.ป.ส. ทหาร ตำรวจ พลเรือน และสำนักงานอัยการ ผนึกกำลังขยายผลตรวจค้น จับกุม ยึดทรัพย์สิน เพื่อทำลายกลุ่มเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญพื้นที่ชายแดนภาคเหนือตอนบน ทางพ.ต.ต. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม , นายนิยม เติมศรีสุข ที่ปรึกษา รมว.ยธ, พล.ต.ท. ภาณรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส, นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. และหน่วยงาน ความมั่นคง ประกอบด้วย พล.ต.ท. คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส., พล.ต.ต. ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รอง ผบช.ภ.5,พล.ต. ชายแดน กฤษณสวรรณ ผบ.พล.ร.๗ ฯลฯ มาร่วมแถลงการการปิดล้อมตรวจค้น ยึดทรัพย์ เครื่อข่าย ของ พ.อ. จะลอโบฯ และ นายวีระฯ ซึ่งบุคคลทั้งสองเป็นนักค้ายาเสพติดรายสำคัญที่มีที่มีพฤติการณ์ในการร่วมกันกันจัดหายาเสพติดจากพื้นที่รัฐฉาน สหภาพเมียนมา มาจำหน่ายทางภาคเหนือของประเทศไทย
บูรณากาการ ทหาร ตำรวจ พลเรือนได้สนธิกำลังกว่า ๑๕๐ นาย เพื่อปฏิบัติการ ตามแผนปฏิบัติการ “ตัดไฟแต่ต้นลม” ครั้งที่ ๑ โดยได้กำหนดเป้าหมายเพื่อติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับในข่าย พ.อ. จะลอโบ รวมจำนวน ๑๑ หมายจับ พร้อมยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการที่เกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งชุดปฏิบัติการได้เช้าปิดล้อมตรวจค้นอย่างพร้อมเพรียงกัน ในพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย อ.แม่ลาว เชียงราย, อ.เมืองเชียงใหม่ อ.ฝาง อ.แม่อาย อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ผลการปฏิบัติการ ๑. จับกุมบุคคลตามหมายจับได้ จำนวน ๔ ราย หนึ่งในนั้นเป็นพี่ชาย สจ คนหนึ่งในพื้นที่อำเภอฝาง ๒. ยึด/อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ดังนี้- อสังหาริมทรัพย์จำนวน ๒๐ แปลงมูลค่าประมาณ๖๑,๔๕๐,๐๐๐ บาท๔๗๒,๐๐๐ บาท- บัญชีเงินฝากจำนวน ๑๖ บัญชีมูลค่าประมาณ – ยานพาหนะจำนวน ๖ คันมูลค่าประมาณ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท- เงินสดมูลค่าประมาณ๒๑๐,๐๐๐ บาท- ทองรูปพรรณจำนวน ๗ รายการมูลค่าประมาณ๕๗๐,๐๐๐ บาท- ทรัพย์สินอื่นๆจำนวน ๑๐ รายการมูลค่าประมาณ๔๐๐,๐๐๐ บาท มูลค่ารวม ๖๖,๑๐๒,๐๐๐ บาท
ทางทางพ.ต.ต. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวถึงความร่วมมือของ 11 ประเทศในอาเซียน รวมถึงประเทศจีน ที่จะให้ความร่วมือกันทุกประเทศที่จะทำการร่วมกันทำการปราบปรามยาเสพติดโดยจับผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ซึ่งจะได้มีความร่วมมือจับตามหมายศาลของทุกประเทศ ที่ติดตามตัวบุคคลที่หลบหนีออกนอกประเทศไดได ประเทศนั้นๆจะติดตามตัวแล้วส่งเข้าประเทศไทยเพื่อทำการลงโทษตามกฏหมายของประเทศนั้นๆ
ในการปฏิบัติการครั้งนี้ถือว่าเป็นความร่วมมือของหน่วยราชการทุกภาคส่วนและภาคประชาชน โดยมุ่งเป้าหมายเพื่อลดบทบาทการค้ายาเสพติดและลดอิทธิพลของกลุ่มบุคคลหรือ กกล.ชาติพันธ์ต่างๆตามแนวชายแดนในการปฏิบัติการครั้งนี้ถือว่าเป็นความร่วมมือของหน่วยราชการทุกภาคส่วนและภาคประชาชน โดยมุ่งเป้าหมายเพื่อลดบทบาทการค้ายาเสพติดและลดอิทธิพลของกลุ่มบุคคลหรือ กกล.ชาติพันธ์ต่างๆตามแนวชายแดนไทย – สหภาพเมียนมา ซึ่งจะส่งผลดีในการลดการนำเข้ายาเสพติด ลดอาชญากรรม และลดบทบาทผู้มีอิทธิพล ตามแนวชายแดน รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในจัดระเบียบตามแนวชายแดน ทำให้การแก้ปัญหาด้านอุปทาน (Suppy)ยาเสพติด ตามนโยบายของรัฐบาลประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ทุกหน่วยงาน
ผนึกกาลังและยึดเป้าหมายสงสดรวมกัน นั่นคือการลดความเดือดร้อนของประชาชน และบังคับไช้ประมวลกฎหมาย ยาเสพติดอย่างมีประสิทธิภาพ การปฏิบัติการ “ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม” ครั้งนี้ เป็นการให้ความสำคัญต่อการดำเนินการทางกฎหมายกับหัวหน้ากลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ และเครือญาติหรือกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องที่มีบทบาทในการผลิต การค้า
การลำเลียงยาเสพติด โดยมีการดำเนินการภายใต้ความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. จักดำเนินการลักษณะดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ผู้ค้ายาเสพติดจะต้องได้รับการลงโทษและถูกยึดทรัพย์สินอย่างจริงจัง เพื่อเป็นการลดทอนศักยภาพในการผลิตและตัดวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร นำไปสู่การลดปัญหาการค้าและการแพร่ระบาดยาเสพติด
นายสำราญ แสงสงค์ ข่าว
อำเภอฝาง จังหวัดเขียงใหม่
