สิงห์บุรี เกษตรจังหวัด จัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
วันพุธที่ 24 กรกฎาคม 2567 นายสุเมธ ธีรนิติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ วัดพิกุลทอง อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี โดยมี นายปรีชา ดิลกพรเมธี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี,นายวันชัย นิลวงศ์ เกษตรจังหวัดสิงห์บุรี นายอำเภอท่าช้าง, หัวหน้าส่วนราชการกระทรวงเกษตรเเละสหกรณ์ ผู้เเทนหน่วยงาน เเละพี่น้องเกษตรกร เข้าร่วมโครงการฯ รวมจำนวนกว่า 300 คน โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ อันเป็นโครงการฯ ที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงดำรงพระราชอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีพระชนมายุครบ 50 พรรษา ในพุทธศักราช 2545 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระราชานุญาต จัดทำโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ถวาย และขอรับพระมหากรุณาธิคุณให้โครงการฯ อยู่ในพระราชานุเคราะห์ ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การบริการแก่เกษตรกร ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ด้านการเกษตร เเบบครบวงจร สอดคล้องกับพื้นที่และความต้องการของเกษตรกร รวมถึงการปรับเปลี่ยนวิธีการผลิตในรูปเเบบเดิม มุ่งสู่การทำการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปลอดภัยจากสารพิษ โดยการลด ละ เลิก การใช้สารเคมีที่อันตราย เเละหยุดการเผาในพื้นที่การเกษตร เพื่อลดปัญหาสารพิษตกค้างในผลผลิตที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีการบูรณาการความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริม และหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันพัฒนาฟื้นฟูเกษตรกรให้สามารถประกอบอาชีพทางการเกษตรได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
ภายในงานฯ จัดให้มีการเปิดคลินิกให้บริการจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยคลินิกหลักประกอบด้วย คลินิกพืช คลินิกดิน คลินิกปศุสัตว์ คลินิกประมง คลินิกบัญชี คลินิกกฎหมาย คลินิกชลประทาน คลินิกสหกรณ์ คลินิกบริหารศัตรูพืช คลินิกจักรกลเกษตร และคลินิกเสริม จากหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนในพื้นที่ อาทิ ศูนย์ป่าไม้สิงห์บุรี สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และบริษัท คูโบต้า สิงห์บุรี เป็นต้น ซึ่งหน่วยงานดังกล่าว เข้ามาร่วมให้บริการความรู้และแก้ไขปัญหาทางด้านการเกษตรให้กับเกษตรกรในพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกเเละลดภาระค่าใช้จ่ายเเละเวลาของเกษตรกรในการเดินทางไปติดต่อหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งเกษตรกรจะสามารถเข้ามาติดต่อสอบถามข้อมูล เเนวทางเเก้ไขปัญหาด้านการเกษตร เเละขอรับการสนับสนุนปัจจัยการผลิตทางการเกษตรจากหน่วยงานต่าง ๆ ได้อย่างครบครับภายในคราวเดียว อีกทั้งยังมีการเปิดพื้นที่ให้เกษตรกรในพื้นที่ทั้งรายเดี่ยวเเละเเบบกลุ่ม เข้ามาจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรในงานฯ เพื่อเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมให้เกษตรกรเเละกลุ่มอาชีพมีรายได้ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ของชุมชนให้เป็นที่รู้จักต่อสาธารณชน