นครปฐม หลวงพี่น้ำฝน ตำรวจพระ ไม่ทิ้งตำรวจเมือง จัดเตียงสำหรับผู้ป่วยช่วย 2 นายตำรวจเมืองนครปฐมป่วย ประสบอุบัติเหตุนอนติดเตียง
ตำรวจพระไม่ทิ้งตำรวจเมือง หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมจัดเตียงผู้ป่วย ช่วย 2 นายตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ประสบอุบัติเหตุ ป่วยหนัก นอนพักฟื้นนานนับเดือน รองสวป.เชื่อว่ารอดตายจากรถชนเพราะบารมีหลวงพ่อพูล รูปหล่อรุ่น 1 ที่ห้อยติดตัวตลอด เผยเคยเห็นบารมีศักสิทธิ์กับตา เผยดีใจและมีกำลังใจเมื่อหลวงพี่น้ำฝนมาถึงบ้าน ไม่คิดว่าจะมีเตียงมาถึง ส่วนหมวดพนักงานวิทยุ บอก 2 เดือนป่วยทรุดน้ำหนักลด 20 กิโลกรัม ขอบคุณหลวงพี่มาช่วยถึงบ้าน
วันที่ 6 กรกฎาคม 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ได้รับการประสานขอความช่วยเหลือเพื่อขอรับเตียงสำหรับผู้ป่วย ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัดสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม 2 นาย ซึ่งรายหนึ่งมีอาการป่วยส่วนอีกรายประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งทั้งคู่กำลังอยู่ในช่วงพักฟื้นที่บ้านพัก โดยหลังทราบเรื่องได้มีการลงพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือตามโครงการธนาคารเตียงและวีลแชร์ วัดไผ่ล้อมเพื่อญาติโยม
โดยหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้นำเตียงผู้ป่วยพร้อมด้วยเครื่องยังชีพ มอบให้ ร.ต.ต.อัชสิทธิ์ น้ำดอกไม้ รอง สวป. สภ.เมืองนครปฐม อายุ 55 ปี ภายในบ้านเลขที่ 226/15 ซอยร่วมจิต7/ 1 ถนน 25 มกราคม ตำบลพระปฐมเจดีย์อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ซึ่งประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ส่วนอีกราย คือ ร.ต.ท.โอภาส กิจสมัย อายุ 55 ปี เจ้าหน้าที่ประจำห้องวิทยุ สภ.เมืองนครปฐม ที่บ้านเลขที่ 33/2 ม.8 ตำบลบ่อพลับอำเภอเมือง จังหวัดนครปฐมโดยมีอาการนอนติดเตียงไม่สามารถไปปฏิบัติหน้าที่ได้
รายแรก ร.ต.ต.อัชสิทธิ์ น้ำดอกไม้ รอง สวป. สภ.เมืองนครปฐม บอกว่าตอนนี้ประสบอุบัติทางรถจักรยานยนต์ ศรีษะได้รับการกระทบเทือนอย่างหนัก ขาหัก 3 ท่อน สะโพกหัก ต้องตัดลำไส้ โดยได้ทำการรักษาตัวมาแล้ว 1 เดือนเศษ ซึ่งได้รับการผ่าตัดมาแล้ว 5 ครั้ง และตอนนี้ประสบปัญหา เนื่องจากมีปัญหาเรื่องค่าใช่จ่ายในครัวเรือน ซึ่งการจะซื้อเตียงผู้ป่วยต้องมีรายจ่ายที่ค่อนข้างสูงจึงต้องอาศัยเตียงที่บ้านนอนรักษาตัวโชคดีที่คนในครอบครัวรักใคร่กันดีจึงได้มาช่วยกันให้กำลังใจจนสามารถผ่านพ้นช่วงวิกฤติของชีวิตมาได้
ร.ต.ต.อัชสิทธิ์ บอกต่อว่า ตอนแรกทราบจากสื่อโซเชียลว่า หลวงพี่น้ำฝน ท่านมีโครงการนี้คิดอยากจะขอยืมมาใช้ในช่วงนอนพักฟื้นที่บ้าน แต่ก็คิดว่าน่าจะยากเพราะว่าเราเป็นข้าราชการอยู่ในบ้านพัก แต่ก็เป็นบ้านเช่าและมีคนที่รอความช่วยเหลืออีกมา แต่เมื่อมีเจ้าหน้าที่ อสม.เทศบาลนครนครปฐม ไปแจ้งให้ท่านทราบและทางญาติก็ไปขอความเมตตาท่านก็มาด้วยตัวเอง และมาช่วยจัดเตียงให้รู้สึกซาบซึ้งในเมตตา โดยยังมีผู้บังคับบัญชาและหัวหน้าหน่วยมาดูแลบ่อยครั้งทำให้มีกำลังใจขึ้นมาก
“ผมเชื่อว่าที่ผมรอดตายเพราะบารมีของหลวงพ่อพูล พระอาจารย์ของหลวงพี่น้ำฝน เพราะตอนเกิดอุบัติเหตุหนึ่งในพระที่ผมห้อยติดคอคือรูปหล่อ หลวงพ่อพูลรุ่น 1 ผมได้รับมากับมือท่านโดยตรงและผมเห็นความศักดิ์สิทธิ์มากับตา และวันนี้ผมมีกำลังใจอยากจะกลับไปทำงานในหน้าที่ให้ไวที่สุด เพราะอุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้ผมเห็นถึงความรักที่ทุกคนมอบมาให้ยิ่งหลวงพี่น้ำฝน ท่านไม่เหมือนกับที่คนในโซเชียลพูดถึง ท่านทำอะไรก็ทำจริงช่วยจริง และทำบ่อยไม่คิดว่าวันหนึ่งผมจะต้องมาเป็นผู้รับการช่วยเหลือจากหลวงพี่น้ำฝน” ร.ต.ต.อัชสิทธิ์ กล่าว
ร.ต.ท.โอภาส กิจสมัย อายุ 55 ปี เจ้าหน้าที่ประจำห้องวิทยุ บอกว่า ตนเองเริ่มป่วยเมื่อ 2 เดือนก่อน โดยมีอาการมึนศรีษะ จึงได้ไปตรวจที่ รพ.ศิริราช ก็พบว่ามีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง และน้ำในหูไม่เท่ากัน จากนั้นก็เริ่มหมดแรงและน้ำหนักลดลงไป 20 กิโลกรัม โดยจากนั้นได้กลับมารักษาตัวที่ รพ.นครปฐมก่อนกลับมารักษาตัวที่บ้าน ซึ่งเดิมทีมีเตียงผู้ป่วยที่ ผู้บังคับบัญชาไปยืมจากท้องที่อื่นมาให้ซึ่งมีชาวบ้านที่มีอาการป่วยก็อยากจะได้รับเตียงไปใช้ โดยผู้บังคับบัญชาทราบว่าหลวงพี่น้ำฝน ท่านมีโครงการให้ยืมก็ได้ประสานเอามาให้ ซึ่งตอนนี้อาการเริ่มฟื้นตัวการมีเตียงสำหรับผู้ป่วยช่วยให้แม่บ้านดูแลช่วยพยุงตัวได้สะดวกมากขึ้น โดยเมื่อเห็นหลวงพี่น้ำฝน นำมาให้ใช้รู้สึกดีและมีกำลังใจมากขึ้น
หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า สำหรับ โครงการธนาคารเตียงสำหรับผู้ป่วยและรถวีลแชร์ เป็นโครงการหนึ่งในนามมูลนิธิหลวงพ่อพูล ซึ่งมีภารกิจหนึ่งคือการช่วยเหลือญาติโยมที่ประสบปัญหาในการดำเนินชีวิต การนำเตียงมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นายซึ่งพบว่ามีอาการหนักจำเป็นต้องใช้เตียงสำหรับผู้ป่วยในการนอนพักฟื้นไม่ต่างจากญาติโยมที่ประสบปัญหาเช่นกัน และวัดไผ่ล้อมยังคงเป็นศูนย์กลางการประสานงานเพื่อความช่วยเหลือญาติโยมในทุกมิติอีกด้วย