คณะผู้บริหารของมูลนิธิ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ตรวจเยี่ยมครอบครัวอุปถัมภ์ และร่วมงานเลี้ยงรับรองครอบครัวอุปถัมภ์และเยาวชนโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 42 จังหวัดอ่างทอง
วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เวลา 17.00 น. ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกมูลนิธิ “สานใจไทย สู่ใจใต้” และ ท่านอารีย์ วงศ์อารยะ ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิ “สานใจไทย สู่ใจใต้” พร้อมคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมครอบครัวอุปถัมภ์ และร่วมงานเลี้ยงรับรองครอบครัวอุปถัมภ์และเยาวชนโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 42 จังหวัดอ่างทอง
โดยมีนายพิริยะ ฉันทดิลก ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วย นางมณฑา ฉันทดิลก นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง นายทัศนัย สุธาพจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง นายบุญเสริม หนูทอง ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดอ่างทอง ปลัดจังหวัดอ่างทอง ตำรวจภูธรจังหวัดอ่างทอง รอง.ผอ.รมน.จังหวัดอ่างทอง หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง นายอำเภอทั้ง 7 อำเภอ นายก อบจ. อปท. เยาวชนและครอบครัวอุปถัมภ์ จำนวนทั้งสิ้น 20 คน 10 ครอบครัว รวมทั้งสื่อมวลชนท้องถิ่น ร่วมให้การต้อนรับ และบรรยายสรุปการดำเนินงานกิจกรรมในพื้นที่
ในการนี้ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกมูลนิธิ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ได้กล่าวขอบคุณครอบครัวอุปถัมภ์และให้โอวาทเยาวชน โดยมีตัวแทนครอบครัวอุปถัมภ์ กล่าวความรู้สึกที่ได้รับเยาวชนมาอยู่ในความดูแล และตัวแทนเยาวชน กล่าวความรู้สึกที่ได้มาพำนักกับครอบครัวอุปถัมภ์ จากนั้น ได้มอบของที่ระลึกและใบประกาศเกียรติคุณให้กับครอบครัวอุปถัมภ์ที่รับเด็กเยาวชนโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 42 เข้ามาดูแล เพื่อเรียนรู้ของวิถีชีวิตสังคมพหุวัฒนธรรมในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง ในระหว่างวันที่ 24 เมษายน – 9 พฤษภาคม 2567
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ได้มอบของที่ระลึกให้แก่ให้กับพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกมูลนิธิ “สานใจไทย สู่ใจใต้” และท่านอารีย์ วงศ์อารยะ ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิ “สานใจไทย สู่ใจใต้”และครูพี่เลี้ยงของโครงการฯ ซึ่งจังหวัดอ่างทองได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจากที่ทำการปกครองจังหวัดอ่างทอง อำเภอไชโย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดอ่างทอง ร่วมกันดำเนินโครงการฯ ดังกล่าว โดยคณะเยาวชนจะได้ร่วมกิจกรรมและทัศนศึกษาในสถานที่สำคัญต่าง ๆ ของจังหวัดอ่างทองและใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวอุปถัมภ์ที่มีความต่างกันทางด้านประเพณีศาสนาและภาษา สามารถนำแบบอย่างที่ดีกลับไปดำเนินชีวิตในภูมิลำเนา พร้อมพัฒนาวิถีชีวิตครอบครัวชุมชนและสังคมในพื้นที่ให้ความสุขสงบ ต่อไป
