หลวงพี่น้ำฝน ลุยจับอีกพระยืนบิณฑบาต เวียนของขายแม่ค้าตลาดซอย 2 ที่เดิมอีกแล้ว
หลวงพี่น้ำฝนนำชุดปฏิบัติการพระวินยาธิการ ออกตรวจพระยืนบิณฑบาตหน้าร้านขาย อาหารใส่บาตร พบพระหน้าเดิมกลับมาปฏิบัติเช่นเดิม โดยเป็นพระวัดเดียวกันถึง 5 รูป จาก 6 รูป ที่ตรวจสอบพบในวันนี้ โดยขณะประสานขอความร่วมมือจากร้านค้าไม่ให้ พระยืนหน้าร้านพบว่าพ่อค้าแม่ค้าถูกกันจึงต้องขอบิณฑบาตสงบศึกอีกหนึ่งเรื่อง ย้ำการแก้ปัญหาอยู่ที่เจ้าอาวาสวัดนั้นนั้นว่าจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดอย่างไร โดยพบว่าญาติโยมอาศัยความสะดวกใส่บาตรใส่ปัจจัย ได้ครบในจุดเดียวเป็นสาเหตุให้พระเห็นแก่ผลประโยชน์แสดงพฤติกรรมทำให้ชาวพุทธไม่สบายไทย เตรียมประสานหลายหน่วยงานหาแนวทางแก้ไขจริงจังให้ได้
วันที่ 30 มีนาคม 67 เวลา 06.30 น. พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ต. พระปฐมเจดีย์ อ. เมือง จ.นครปฐมในฐานะประธานคณะทำงานดำเดินการแก้ไขข้อขัดข้อง ระงับเหตุ และแก้ไขปัญหาอธิกรณ์ข้อร้องเรียนในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 14 นำคณะทำงานพระวินยาธิการคณะสงฆ์ภาค 14 ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมของพระภิกษุสงฆ์ที่ยืนแช่บิณฑบาตอยู่บริเวณหน้าร้านจำหน่ายอาหารสำหรับใส่บาตร และภายในทางเดินตลาดเช้า ซอย 2 ถนนเทา ซอย 2 เขตเทศบาลนครนครปฐม หลังจากได้รับร้องเรียนจากประชาชนว่ามีการพบเห็นพระภิกษุสงฆ์หลายรูปมีพฤติกรรม ไม่ใช้วิธีการเดินบิณฑบาตแต่เป็นการยืนแช่เพื่อรับบาทและปัจจัยจากชาวบ้านที่มาจับจ่ายสินค้าในช่วงเช้าช่วงหลายวันที่ผ่านมา
โดยเมื่อคณะทำงานได้มีการลงไปถึงพื้นที่พบพระภิกษุสงฆ์หลายรูปกำลังยืนรับบาตร โดยไม่มีการเดินตามปกติแต่จะมีการยืนอยู่เป็นจุดเหมือนที่เคยร้องเรียนมาแล้วหลายครั้งซึ่งพระหลายรูปก็เป็นพระหน้าเดิมที่เคยถูกนิมนต์มาตักเตือนและทำประวัติห้ามปฏิบัติกิจดังกล่าวซึ่งเป็นการไม่เหมาะสมและสร้างความไม่สบายใจให้กับพุทธศาสนิกชน โดยเมื่อหลวงพี่น้ำฝนได้เดินไปถึงตัวหลายรูปถึงกับหน้าถอดสีและยอมรับว่ายืนแช่ระบาดอยู่ในจุดดังกล่าวตามที่ร้องเรียนจริงจากนั้นจึงได้มีการนิมนต์ให้มา ตรวจสอบรายชื่อทั้งหมด 6 รูป โดย 5 ใน 6 รูป เป็นพระวัดดังที่อยู่ไม่ห่างจากพื้นที่ตลาด หลวงพี่น้ำฝนจึงได้นิมนต์ทั้งหมดให้มารับฟังการชี้แจงและปรับทัศนคติที่วัดไผ่ล้อมก่อนประสานเจ้าอาวาสวัดต้นสังกัดและลูกศิษย์มารับตัวกลับโดยเตรียมที่จะหาแนวทางในการป้องกันปัญหาดังกล่าวซึ่งเป็นปัญหาที่เรื้อรังมานานและมีการร้องเรียนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
จากนั้น หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้เข้าสอบความคิดเห็นจากชาวบ้านที่มาใส่บาตรหลายคนบอกว่าในการออกปฏิบัติภารกิจดังกล่าวในการปราบปรามและจัดระเบียบถือว่าดีมากเพราะว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานแม้จะมีการแก้ไขหลายครั้งแต่พระรูปเดิมก็มีพฤติกรรมกลับมาปฏิบัติกิจดังกล่าวซึ่งไม่ถูกตามหลักพระธรรมวินัยโดย พฤติกรรมนี้มีมานานนับปีแม้หลวงพี่น้ำฝนจะมีการปราบปรามไปแล้วหลายครั้ง แต่เมื่อ เจ้าหน้าที่และคณะสงฆ์ที่ดูแลอยู่ไม่ได้ลงมาดูเป็นประจำพระภิกษุหน้าเดิมๆก็จะกลับมาทำหน้าที่ในการยืนแช่เพื่อรับบาตรและปัจจัยเช่นเดิม
วันเดียวกันหลวงพี่น้ำฝนยังได้เชิญร้านค้าที่จำหน่ายอาหารเกี่ยวกับการใส่บาตร ในพื้นที่ดังกล่าวหารือแนวทางร่วมกันว่าจะมีแนวทางใดบ้างที่จะไม่ให้มีการปล่อยให้พระภิกษุสงฆ์มายืนแช่อยู่ในบริเวณหน้าร้านซึ่งขณะที่มีการหารือทราบว่าร้านค้าก็มีปัญหากันด้วยจึงได้ขอนิมนต์ให้มีการยุติความขัดแย้งและเสนอแนวทางในการที่จะทำให้สามารถค้าขายได้และพระภิกษุสงฆ์ประพฤติอยู่ในกรอบเป็นระเบียบสง่างาม ขณะเดียวกันได้มีชาวบ้านเข้ามาร้องเรียนต่ออีกว่าร้านบางแห่งมีการรับเวียนอาหารที่ใส่บาตรไปแล้วจากพระภิกษุสงฆ์โดยเป็นการแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดทุกวันจนเป็นที่ระอาและอยากให้มีการแก้ไขจัดระเบียบเพื่อความสง่างามของคณะสงฆ์ด้วย
หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า วันนี้ที่ลงตรวจก็ได้รับร้องเรียนมาเช่นเดิมแล้วก็พบพระภิกษุสงฆ์หน้าเดิมๆที่ยังปฏิบัติอยู่ วันนี้ก็ได้นิมนต์ไปปรับความเข้าใจแล้วก็ประสานทางเจ้าอาวาสให้ทราบว่าเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นก็อยู่ที่เจ้าอาวาสวัดนั้นนั้นว่าจะ ดำเนินการอย่างไร ซึ่งวันนี้ก็ได้มีการพูดคุยกับร้านค้าที่จำหน่ายอาหารใส่บาตรและอาหารสำหรับประชาชน เจ้าหน้าที่จากเทศบาลนครนครนครปฐม ไว้เบื้องต้นว่าจะหาแนวทางอย่างไรในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างยั่งยืน ซึ่งตอนนี้ได้รับข้อมูลมาหลายทางก็จะนำทั้งหมดมาหารือกันกับหน่วยงานเพื่อที่จะกำหนดบทบาทในการจัดระเบียบให้ได้อย่างจริงจัง
“ประเด็นที่เจออย่างจริงจังคือญาติโยมมีความสะดวกเนื่องจากมาถึงตลาดแล้วก็สามารถซื้ออาหารใส่บาตรได้ทันทีไม่ต้องไปถึงวัดด้วยความที่เป็นชาวพุทธเห็นพระก็อยากทำบุญตรงนี้เองก็เป็นช่องทางที่จะทำให้พระภิกษุบางรูปอาศัยช่องทางรับผลประโยชน์เป็นกิจกรรมที่ทำอยู่เป็นประจำ ซึ่งตอนนี้ก็อาจจะมีการขอความร่วมมือจากชมรมตลาด ซอย 2 ที่จะนำพ่อค้าแม่ค้ามาหารือร่วมกันว่าเราจะกำหนดบทบาทได้อย่างไรให้ชัดเจนนับจากนี้ซึ่งอัฐมาตั้งใจจะแก้ปัญหาเหล่านี้ที่ได้รับการร้องเรียนมาแทบทุกวันให้ได้อย่างจริงจังต่อไป” หลวงพี่น้ำฝนกล่าว
หลวงพี่น้ำฝนกล่าวอีกว่า สำหรับคณะสงฆ์ของวัดไผ่ล้อมมีการกำชับด้วยบทบาทแน่นอนว่าจะต้องเดินบิณฑบาตรับจากญาติโยมโดยไม่มีการยืนแช่นี่คือกฎเหล็กของวัดหากพระภิกษุสงฆ์วัดรายใดมีพฤติกรรมดังกล่าวก็จะมีการใช้กฎระเบียบขั้นเด็ดขาดนั่นคือการขับออกจากวัด เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ เป็นที่ยอมรับเป็นที่ศรัทธาของชาวบ้าน แต่ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าอาวาสวัดนั้นนั้นว่าจะดำเนินการอย่างไรหรือจะนำแบบวัดไปล้อมไปปฏิบัติซึ่งเป็นการแก้ปัญหาได้อย่างจริงจังก็สามารถทำได้อันนี้ขึ้นอยู่กับแนวคิดของท่านเจ้าอาวาสแต่ละวัดด้วย