สวัสดีปีใหม่ 2567
พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม เจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกท่าน บัดนี้ก็เข้าสู่ปีใหม่ ศักราชใหม่ พุทธศักราช 2567 กันแล้ว อย่างที่อาตมาเคยบอกไว้ว่า เรื่องการขึ้นปีใหม่นั้นเป็นวันสมมติตามปฏิทิน เพราะโลกมันก็หมุนของมันเป็นวงรี จะหาจุดเริ่มของวงรีนั้นจะเอาตรงไหนแน่ แต่มนุษย์เรามีสติปัญญา สังเกตฤดูกาลและท้องฟ้า พบว่ามันเปลี่ยนแปลงไปแล้วมันก็กลับมาเหมือนเดิม เวียนไปเช่นนี้ในทุก ๆ ปี พืชพันธุ์ธัญญาหารก็ปลูกขึ้นแล้วเติบโตจนเก็บเกี่ยวได้ในช่วงวงจรนี้ มนุษย์จึงกำหนดให้เวลาดังกล่าวนี้เป็น “ปี” เมื่อวงจรธรรมชาติมาถึง
ชนชาติต่าง ๆ ในโลก มักถือเอารอยต่อระหว่างฤดูเพาะปลูกหนึ่ง ๆ เป็นปีใหม่ คือเมื่อเก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว เข้าสู่ฤดูแล้ง จะหนาวก็ดี ร้อนก็ดี อย่างของฝรั่งก็เอาช่วงหน้าหนาว ของไทยก็เป็นช่วงหน้าร้อน พอเริ่มปีใหม่ก็เริ่มเพาะปลูกกันใหม่ ให้ได้ข้าวได้ปลามากิน ต่อมามนุษย์ก็รู้จักทำปฏิทิน กำหนดจำนวนวันและจำนวนเดือน ปีใหม่จึงเป็นโอกาสสำหรับการเฉลิมฉลอง การขอบคุณสำหรับปีที่ผ่านมา การพักผ่อนจากความเหนื่อยล้า ความอุดมสมบูรณ์ที่ได้รับมา และความหวังในสิ่งที่ดีกว่าสำหรับปีต่อไปที่กำลังมาถึง ปีนี้เพาะปลูกได้ดี ปีหน้าก็หวังว่าจะดี ปีนี้เพาะปลูกไม่ดี ปีหน้าก็ขอให้ดีกว่านี้ ปีใหม่จึงมีความหมายสำหรับมนุษย์ยิ่งกว่าแค่เป็นวันตัดปี เปลี่ยนปีปฏิทิน เพราะถ้าเป็นแค่เปลี่ยนปีปฏิทิน ก็คงเหมือนกับสิ้นเดือนธรรมดา แต่ปีใหม่กลายเป็นสิ่งพิเศษเพราะมันคือโอกาสให้ “สิ่งที่ล่วงแล้วให้แล้วกันไป” และปีใหม่ที่สวัสดี
ในต่างประเทศ ใครเคยไปต่างประเทศช่วงปีใหม่ เขาร้องเพลงสามัคคีชุมนุม แต่เนื้อเพลงเป็นภาษาอังกฤษนะ ที่ร้องกันนี้ไม่ได้แปลว่าเขาไปค่ายลูกเสือเล่นรอบกองไฟกัน แต่มันเป็นวัฒนธรรมของเขา เพราะเพลงที่ว่านี้พูดเรื่องการให้อภัย และลืมเรื่องความบาดหมางต่าง ๆ ที่เคยมีมาในปีเก่า แต่พอเพลงนี้ถูกแปลเป็นภาษาไทยก็กลายเป็นเรื่องสามัคคี เป็นเพลงสามัคคีชุมนุม เขาเลยเอาไปร้องในการเข้าค่ายแทนที่จะเป็นปีใหม่ แต่ปีใหม่บ้านเราก็มีเพลงแบบนี้นะ คือเพลงสวัสดีปีใหม่ของสุนทราภรณ์ เพลงบอกว่า
“สิ่งที่ล่วงแล้วให้แล้วกันไป อย่าได้ผูกใจอาวรณ์ จับมือกันไว้อวยชัยอวยพร สุขสโมสรเริงรมย์ ความพลั้งพลาดล่วงเกิน อย่าหมางเมินระทม รวมน้ำใจให้เหลียวกลม จงถืออารมณ์อภัย”
สาระสำคัญของปีใหม่ก็เป็นแบบนี้แหละ ทิ้งสิ่งเก่าที่หม่นหมอง ความขัดแย้งที่ผ่านมา แล้วก้าวสู่ปีใหม่ที่หวังว่าจะดีกว่า ความขัดแย้งทำให้เกิดการแตกสามัคคี แต่สังคมมนุษย์ดำรงอยู่ได้ด้วยความสามัคคี การทิ้งความขัดแย้งไป และสมานความกลมเกลียวไว้จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสังคมมนุษย์
และเราก็ถือว่า ถ้าเริ่มต้นดี เดี๋ยวสิ่งอื่น ๆ ก็จะดีตามมา เพราะฉะนั้น เราก็เลยแสดงออกผ่านสิ่งต่าง ๆ เช่น การเฉลิมฉลองให้เกิดความสุขสนุกสนาน หรือบางท่านที่ใฝ่ในธรรมก็บอกว่า ถ้าเราเริ่มต้นดี ทุกอย่างก็ดีตาม เรามาสวดมนต์ข้ามปีกันเถอะ เป็นการเริ่มต้นที่ดี หลัง ๆ มาเลยเห็นกันได้ว่า แทบทุกวัดในประเทศไทยรวมถึงประเทศเพื่อนบ้านล้วนมีพิธีสวดมนต์ข้ามปี และแต่ละที่ก็มีคนมารวมงานกันหนาแน่น เอาเป็นว่า บางวัด จัดงานแต่เย็น คนก็ไม่ค่อยมีหรอก เก้าอี้โหรงเหรง แต่พอนาฬิกาบอกห้าทุ่ม ไม่รู้คนมาจากไหน แน่นวัดไปหมด ก็ถือว่าประชาชนให้ความสนใจและถือว่าการสวดมนต์ข้ามปีเป็นกิจกรรมที่น่าทำในคืนข้ามปี ทำกิจกรรมสวดมนต์ร่วมกัน ก็เกิดพลัง เกิดความศักดิ์สิทธิ์ที่ประจักษ์แก่ตา ทิ้งสิ่งไม่ดีไว้ข้างหลัง และรับเอาสิ่งดีเข้ามาในชีวิต นี่จึงเป็นโอกาสในการเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ และทุกสิ่งเริ่มต้นขึ้นที่ใจ
เราจะเริ่มต้นปีใหม่อย่างไร ปีใหม่เราก็หวังว่าเราจะเป็นคนใหม่ เป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิม มีประสิทธิภาพกว่าเดิม แม้ว่าโลกภายนอกเราจะเป็นอย่างไร ปีใหม่ ศักราชใหม่นี้ ไม่มีใครบอกได้ว่าโลกเราจะเกิดอะไร ดูทรงแล้วก็คงมีเรื่องมีราวอะไรอีกตามเคย ทั้งในประเทศเราและทั่วโลก แต่ไม่ว่าโลกจะเป็นอย่างไร รักษาใจเราไว้ให้ดีก็เพียงพอ รักษาคุณธรรมสำคัญประจำใจไว้ คือ ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน รู้บุญคุณคน เป็นคุณธรรมที่ไม่ทำให้ใครอดตาย และไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหน จะดี จะร้าย มีสี่ข้อนี้ไว้ ก็ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ เป็นแน่แท้
สี่ข้อนี้ ให้มีสติกำกับประจำใจ จะทำอะไรขอให้มีสติ คือ ทำด้วยความรู้ตัว รู้ว่าเรากำลังทำอะไร พูดอะไร คิดอะไร ความเจริญทั้งปวงเริ่มต้นที่สติ สติคือหัวใจหลักของพุทธศาสนิกชน เพราะพุทธศาสนาเน้นเรื่องความมีสติ ขึ้นชื่อว่าเป็นศิษย์พุทธะ พุทธศาสนิกชน ก็ต้องมีสติเป็นพื้นฐาน การมีสติไม่จำเป็นว่าต้องไปนั่งสมาธิกันทุกวัน ทั้งวัน จนเสียการเสียงาน แต่ก็แค่มีสติจริง ๆการเป็นคนใหม่ ในปีใหม่ จึงเป็นเรื่องที่เริ่มต้นได้ด้วยตนเอง
ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย คุณหลวงพ่อพระพุทธเมตตาประทานพร บารมีในพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล อตฺตรกฺโข พระโพธิสัตว์กวนอิมพันมือ ปวงเทพเทวา พระพรหมประกาศิต ครูบาอาจารย์ กุมารสมบัติ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านทั้งหลายเคารพนับถือ จงอวยพรท่านให้มีแต่ความสุขความเจริญ สมปรารถนา สุขภาพร่างกายแข็งแรง ให้มีแต่ความโชคดี โชคดี โชคดี มีชัยในทุกประการ ให้ปีนี้เป็นปีมังกรทอง มะโรงทองของทุกท่านทุกคนเทอญ