กาญจนบุรี ชาวบ้านกว่า 2 หมื่นครัวเรือนเดือดร้อน ที่ปลูกบ้านอยู่ในที่ดินของรัฐฯขอไฟฟ้ามาใช้ภายในครัวเรือนไม่ได้ ส่งตัวแทน ยื่นหนังสือ ผ่าน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ไปถึงนายกรัฐมนตรี
วันที่ 25 กันยายน 2566 ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี ร.ต.สำราญ วงษ์น้อย พร้อมด้วยประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจังหวัดกาญจนบุรี เป็นตัวแทนตัวแทนชาวบ้านกว่า 2 หมื่นราย ได้ไปรวมตัวหน้าศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมป้ายข้อความที่ชาวบ้านปลูกสร้างบ้านอยู่ในที่ดินของรัฐ กว่า 2 หมื่นครัวเรือน มาเป็นเวลากว่า 5 ปี ไม่สามารถขอไฟฟ้าใช้ในบ้านได้ จึงได้ไปรวมตัวยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี โดยผ่านนานรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายอนันท์ชัย ทองสีนุช ป้องกันจังหวัดกาญจนบุรี มาร่วมรับหนังสือร้องเรียน
โดยข้อความเอกสารประกอบด้วยประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรี กว่า 2 หมื่นครัวเรือน เดือดร้อนไม่มีไฟฟ้าใช้ภายในครัวเรือนและพื้นที่ทำการเกษตร มานานตั้งแต่ปลายปี 2559 เนื่องจาก มีมติคณะรัฐมนตรี ปี 2546 ที่กำหนดไว้ว่า ราษฎรรายใดที่ปลูกบ้านอยู่ในที่ดินของรัฐฯ ทุกๆประเภทจะขอสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า น้ำประปา ได้จะต้องมีหนังสือ อนุญาตยินยอม จากส่วนราชกาลที่ดูแลพื้นที่นั้นๆ ซึ่งเมื่อปลายปี 2559 รัฐบาลชุดที่แล้ว ได้สั่งการให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคยึดถือปฏิบัติตาม มติคณะรัฐมนตรี ปี 2546 โดยได้กำหนดให้ ราษฎรที่ปลูกบ้านอยู่ในที่ดินของรัฐ ทุกๆประเภทจะขอไฟฟ้าได้ก็ต่อเมื่อ มีหนังสืออนุญาตยินยอม จากส่วนราชกาล ที่ราษฎรรายนั้น ปลูกบ้านอยู่อาศัย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ถึงจึงจะต่อกระแสไฟฟ้าให้กับราษฎรรายนั้นๆได้ โดยให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติของมติคณะรัฐมนตรี ปี 2546 ที่ออกระเบียบไว้ ด้วยสาเหตุนี้ ทำให้ประชาชนคนไทยทั่วประเทศ เดือดร้อน ไม่มีไฟฟ้าใช้ ภายในครัวเรือนมากมายหลายแสนครัวเรือน
จังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ ที่ดิน มากเป็นลำดับที่ 3 ของประเทศ แต่กลับมีที่ดิน ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ เป็นที่ดินของรัฐฯ หลายๆประเภท กว่า 70 % ในที่ดินทั้งหมดของจังหวัดกาญจนบุรี ทำให้ประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรี ต้องปลูกบ้านอยู่อาศัย และทำกินในที่ดินของรัฐฯ หลายๆประเภท ทำให้ประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรีเดือดร้อน มีความเป็นอยู่ที่ไม่มั่นคงในที่ดินที่ปลูกบ้านอยู่อาศัย และที่ดินทำกิน เคยถูกส่วนราชกาลที่ดูแลพื้นที่ที่ดินของรัฐ แจ้งความดำเนินคดี กับประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรี อยู่เนืองๆ ทั้งๆ ที่ประชาชนรายนั้นๆ ปลูกบ้านอยูอาศัยและทำกิน มาก่อนที่จะมีมติคณะรัฐมนตรี ปี 2546
ซึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี มีหลายร้อยหมู่บ้าน ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ในที่ดินที่ปลูกบ้านอยู่อาศัยและที่ดินทำกินเลย ทั้งๆ ที่หมู่บ้านนั้นๆ มีวัด มีโรงเรียน เป็นชุมชนหนาแน่น มากว่า 100 ปี แล้วก็มี เพื่อความเป็นอยู่ที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ให้กับประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรี และประเทศชาติไทยสืบไป และเมื่อวันที่ 24 กันยายน หนังสือนี้ทางกลุ่มประชาชนที่เดือดร้อน ได้มอบให้กับทาง นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ (หรือหมอหนุ่ย) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ได้ลงพื้นที่ตรวจราชการไปก่อนหน้านี้แล้วเช่นกัน โดยมี ส.ส. ทั้ง 3 เขต ร่วมเป็นสักขีพยานการมอบหนังสือกับรมช. ในครั้งนี้ด้วย พร้อมรับปากว่าจะนำเสนอต่อ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ช่วยชาวบ้านในจังหวัดกาญจนบุรีด้วย
เกษร เสมจันทร์ กาญจนบุรี