สุพรรณบุรี ผู้ว่าฯลงพื้นที่สั่งเร่งจับจระเข้ที่เหลือ
ที่สุพรรณบุรี กรณีเกิดเหตุฝนตกลมพายุพัดถล่มเมื่อคืน 21 กันยายน ทำให้บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ตำบลดอนมะสังข์ พังเสียหายหลายสิบหลังคาเรือน ต้นไม้ล้ม จำนวนมากนอกจากนี้ลมพายุยังพัดกำแพงบ่อเลี้ยงจระเข้ ในพื้นที่ตำบลดอนมะสังข์ พังถล่มทำให้มีจระเข้หลุดออกจากบ่อในฟาร์มเลี้ยงของ อมรฟาร์ม เลขที่ 10/2 หมู่ที่ 4 ตำบลดอนมะสังข์ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี กว่า 30 ตัว หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้ออกช่วยกันค้นหาเพื่อจับจระเข้ที่หลุดออกไปกลับมาให้ได้เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน
นายอมร สุขสมศร อายุ 69 ปี เจ้าของเป็นฟาร์มเลี้ยงจรเข้ เปิดเผยว่าฟาร์มของตนมีใบอนุญาตถูกต้องตามกฏหมาย ภายในฟาร์มมีบ่อจรเข้อยู่ 10 บ่อ และมี 2 บ่อ ถูกแรงลมพายุพัดทำให้ต้นไม้หักไปทับกำแพงปูนของบ่อที่สูงเกือบ 2 เมตร พังถล่มลงมา ทำให้จระเข้ที่เลี้ยงไว้หลุดออกมา จึงได้แจ้ง เจ้าหน้าที่ประมง เจ้าหน้าที่ชุดไกรทองของกรมประมง จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดชัยนาท จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้ากู้ภัยมูลนิธิเสมกันสุพรรณบุรี กำนันผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านเร่งตามจับกันวุ่น ซึ่งพื้นที่รอบฟาร์มส่วนใหญ่จะเป็นนา และสวน ทำให้จระเข้ที่หลุดออกไปได้กระจายไปหลบซ่อนอยู่ตามร่องน้ำในบริเวณรอบฟาร์ม ซึ่งล่าสุดจับจรเข้ได้แล้ว 24 ตัว
จระเข้ที่เลี้ยงไว้ทั้งหมด 10 บ่อ มีจระเข้กว่า 300 ตัว จระเข้ที่หลุดไปคาดว่าน่าจะ 30 กว่าตัว ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านได้ระดมกำลังจับมาได้แล้วกว่า 20 ตัว ซึ่งจระเข้ที่ฟาร์มตนได้เลี้ยงไว้เพื่อส่งโรงงานทำหนังจระเข้ ซึ่งวันนี้เป็นวันครบกำหนดจับจระเข้ที่ฟาร์มพอดี แต่เมื่อคืนได้เกิดลมพายุพัดกระหน่ำทำให้จระเข้หลุดออกจากบ่อและเป็นครั้งแรกที่ตนเองเลี้ยงจระเข้มา 14 ปี ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีพายุพัดกำแพงบ่อจระเข้พัง มูลค่าความเสียหายคาดว่าน่าเกือบ 2 แสนบาท
ด้านนายไพศาล สุขปุณพัณธ์ ประมงจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า จากเหตุที่ภัยพิบัติ วาตภัย เมื่อคืนที่ผ่านมาทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย รวมถึงผนังกั้นบ่อจระเข้พัง ซึ่งที่ผ่านมาประมงจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เข้ามาตรวจสอบความแข็งแรงอยู่ตลอด ถ้าอยู่ในสถานการณ์ปกติก็จะไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด แต่เนื่องด้วยเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติ วาตภัย ทำให้เกิดเหตุการณ์จระเข้หลุดออกจากบ่อนี้ขึ้น แต่ด้วยพื้นที่ ที่มีจระเข้หลุดไปนั้นไม่มีบ้านเรือนประชาชน เป็นร่องน้ำและสวนร้างของชาวบ้าน ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ประมงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วนั้น ก็ได้พบจระเข้ที่หลุดมาอยู่ในคูน้ำร่องสวน โดยจะดำเนินการจับจระเข้ ที่หลุดออกจากฟาร์มอย่างเร่งด่วน มีเจ้าหน้าที่ชุดไกรทอง ของกรมประมง จากจังหวัดชัยนาท และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และของจังหวัดสุพรรณบุรี ช่วยกันจับให้หมดภายในวันนี้ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้จับขึ้นมาแล้วกว่า 20 ตัว และยังเหลืออีก 10 กว่าตัว คาดว่าวันนี้น่าจะจับหมดทุกตัว
สำหรับการเลี้ยงจระเข้เป็นสัตว์เลี้ยงที่อยู่ในประเภทควบคุมของประมง การที่จะเลี้ยงจระเข้ได้ต้องอยู่ภายไต้ขอบเขตหรือบริเวณที่ทางคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดได้ประกาศไว้ ซึ่งจังหวัดสุพรรณบุรีได้มีประกาศให้มีการเลี้ยงจระเข้ได้เมื่อ 4 กุมพาพันธุ์ 2563 ให้มีการดำเนินเพาะเลี้ยงจระเข้ได้ทั้งจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งการเลี้ยงจระเข้จะต้องได้รับการอนุญาตจากประมงจังหวัดและต้องมีการแจ้งข้อมูลการนำจระเข้เข้าออก ต้องอยู่ภายไต้การควบคุมของประมงจังหวัดด้วย
ด้านนายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผจว.สุพรรณบุรีได้ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติงานไล่ล่าจระเข้ พร้อมกล่าวว่า ฟาร์มนี้มีการจดทะเบียนที่ถูกต้องและได้ มีการตรวจสอบจากประมงจังหวัด เรียบร้อยแล้วซึ่งทราบว่ามีการเลี้ยงอยู่ทั้งหมด 10 บ่อ แต่เนื่องจากเมื่อคืนมีฝนพายุลมแรงจนทำให้ต้นไม้หักล้มไป ทับขอบบ่อ 2 บ่อ ทำให้บ่อพัง แต่เมื่อคืนนี้ หลังจากทราบว่ามีจระเข้หลุดทางผู้นำชุมชนได้ระดมกำลังร่วม กับทางเจ้าของฟาร์มเพื่อตามจับจระเข้กลับมา ซึ่งก็มีพี่น้องประชาชนที่เป็นจิตอาสาไปตามจับ ซึ่งก็ไม่มีความรู้ความชำนาญในเรื่องของการจับจระเข้ พอเขาเจอก็ใช้วิธีการแบบจับตาย
พอตอนเช้าได้ประสานทางประมงจังหวัดและได้ขอความร่วมมือไปกับหน่วยงานที่มีความชำนาญในการจับจระเข้ ซึ่งก็มาพร้อมกันตั้งแต่เช้า ตอนนี้ก็เคลียร์ในพื้นที่ใกล้เคียงและมีการจับเพิ่มมาได้อีก ตอนนี้ในพื้นที่ราบได้เคลียร์พื้นที่หมดแล้วเหลือแต่ในหนองน้ำธรรมชาติ ที่มี 7 บ่อ ซึ่งเคลียร์ไปแล้ว 5 บ่อ ตอนนี้เหลืออีก 2 บ่อ ก็คิดว่าน่าจะเสร็จภายในวันนี้ หลังจากนี้ก็จะวางกำลังตรวจตรา ให้ช่วยกันเฝ้าระวัง เบื้องต้นจากการตรวจสอบจระเข้ ในบ่อน่าจะมีประมาณ 70 ตัว ตอนนี้จับได้แล้ว 26 ตัว อยู่ในบ่ออีก 40 กว่าตัว ตอนนี้น่าจะเหลืออีก 4-5 ตัวที่ตามจับอยู่ พร้อมกันนี้เราต้องเช็คข้อมูลให้ถูกต้องอีกทีว่าจริงๆแล้วมีจระเข้ ที่อยู่ในบ่อมีทั้งหมดเท่าไหร่แล้วหลุดไปเท่าไหร่ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าเราเคลียร์ว่าจับได้หมดแล้วซึ่งตนได้กำชับเจ้าหน้าทื่ชุดจับให้เร่งจับให้หมดถ้าไม่หมดก็ให้เหลือน้อยที่สุดพร้อมกันนี้ก็ให้เฝ้าระวังกันอย่างเต็มที่ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่
ภัทรพล พรมพัก สุพรรณบุรี