กาญจนบุรี แปลกแต่จริง ชาวบ้านนำแป้งโรยถูหาเลขเด็ดจากปลัดขิกยักษ์

กาญจนบุรี  แปลกแต่จริง ทำกันไปหากเกิดความสบายใจ!! จากที่ขอฝน วันนี้เป็นขอหวยแล้ว โดยใกล้วันหวยออก ชาวบ้านนำแป้งโรยถูหาเลขเด็ดจากปลัดขิกยักษ์
วันที่ 15 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปบนถนนแสงชูโตสาย 323 กาญจนบุรี-ไทรโยค ช่วง กม.110-111 สามแยกช่องแคบ หมู่ 1 ตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ใกล้ถึงวันหวยออกได้พบว่ามีชาวบ้านนำแป้งฝุ่นมาโรยทาถูท่อนปลัดขิกยักษ์ เพื่อหาเลขเด็ดเพื่อนำไปเสี่ยงโชคกัน ซึ่งเป็นวิถีคนไทยจริงๆ เมื่อมีอะไรแปลกๆ ก็ต้องมีการเสี่ยงดวงกันเป็นธรรมดา แต่เลขที่ออกมาจะได้หรือไม่ หากโชคดีก็ดีไป หากไม่มีโชคก็ถือว่าเสี่ยงโชคกันไปถือว่าคลายเครียดกันไป
ส่วนคนทำปลัดขิกคือ นายมาโนช เพชรแต่ง อายุ 45 ปี ที่อยู่ 184/1 หมู่ 1 ตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ก่อนเล่าให้รายละเอียดว่าปลัดขิกยักษ์นี้มีขนาดความยาว 4 เมตร ความกว้างขนาดหนึ่งคนโอบ น้ำหนักประมาณ 600 กิโลกรัม ใช้รอกดึงขึ้นมาแล้วไว้บนเทรนเลอร์ใช้ไม้ค้ำให้เอียงสู่ท้องฟ้า ใช้สีแดงทาที่ปลายหัว แล้วนำมาตั้งตรงจุดนี้เพราะเป็นทางแยกสี่ ซึ่งมีกันมาแต่โบราณตามความเชื่อในพื้นที่ โดยตั้งแล้วก็จะปรับเปลี่ยนชี้ไปตามทิศทาง มีปรับทิศไปเรื่อย และจากที่เกิดแล้งยาวนาน ชาวบ้านแถวนี้ทำเกษตรไม่ได้ จึงคิดทำปลัดขิกขนาดยักษ์ ขึ้นมาเพื่อขอฝน และเมื่อนำมาตั้งบริเวณริมถนนใกล้ทางแยก เด่นสง่า ทำให้ผู้ผ่านไม่มาสนใจแวะมาสอบถามกันไม่ขาด ทั้งนักท่องเที่ยว และผู้ใช้รถที่ผ่านไป-มา


นอกจากที่ตนเองต้องการทำเพื่อขอฝนให้ตกลงมาบริเวณแปลงเกษตรมากๆ ซึ่งที่ผ่านมาฝนไม่ตกในพื้นที่ แต่ไปตกในป่า ชายเขา หลบไป หลบมา อย่างนี้ตลอดจนก็เลยมีความคิดว่าเราจะต้องทำปลัดขิกอันใหญ่สักหนึ่งตัว ที่ต้อทำขนาดใหญ่ เพื่อให้เทวดาได้แลเห็นชัดๆ ซึ่งเป็นความเชื่อของชาวบ้านสืบทอดกันมานานแล้ว เพื่อจะขอให้ฝนตกลงมาตามฤดูกาล หรือให้ฝนตกตรงตามพื้นที่เราต้องการ เพราะว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ใหญ่ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ก็เลยคิดว่าทำปลัดขิกขนาดใหญ่นี้ขึ้นมา เพราะทำเล็กๆไปมันก็งั้นๆ และผู้ที่ผ่านไปมาพบเห็นก็ลงมาสอบถาม และถ่ายภาพกันไปด้วยเช่นกัน และใกล้วันหวยออกก็เริ่มมีชาวบ้านนำแป้งฝุ่นไปโรยถูหาเลยเด็ดกันบ้างแล้ว บางรายบอกเห็นเป็นเลข 73- 37 กันแล้ว…….ส่วนเรื่องการนำปลัดขิกออกมาตั้งได้ประมาณ 2 อาทิตย์ เพื่อขอฝนก็เริ่มมีฝนตกลงมาได้ 2-3 วันแล้วเช่นกันประชาชนต่างก็นำพืชทางการเกษตรออกไปปลูกกันแล้ว และในหลายพื้นที่ของจังหวัดกาญจน์ ท้องฟ้าก็ชุ่มฉ่ำ เรื่องนี้มันก็อาจเกิดจากเข้าช่วงฤดูฝนพอดีด้วย
สำหรับปลัดขิกนี้ทำด้วยเป็นไม้กระพง ขนาดยาว 4 เมตร ความกล้างหน้าประมาณ 24 น้ำหนักประมาณ 600 กิโลกรัม เป็นไม้เนื้ออ่อน ทีแรกเราจะใช้เป็นต้นนุ่น แต่ต้นนุ่นมันหาไม่ได้ ที่ต้องทำขนาดใหญ่ เผื่อเทวดาหรือว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะมองเห็นชัดๆว่าพวกเราต้องการฝนจะได้มาตกให้เราบ้าง ตามความเชื่อของชาวบ้านมาแต่โบราณ รวมถึงหากมีเรื่องอาถรรพ์ปลัดขิกก็จะปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไปด้วย และปลัดขิกก็มีชาวบ้านนำผ้าสามสีมาผูกเพื่อขอเอาฤกษ์เอาชัยที่ปลายปลัดขิกยักษ์ พร้อมทั้งอธิฐานขอให้ฝนตก และเมื่อได้มีฝนตกลงมาแล้ว จนเพาะปลูกพืชเสร็จแล้ว ชาวบ้านจะรวมตัวกันทำการแห่ปลัดขิกยักษ์นี้ไปรอบๆ หมู่บ้านเป็นการเฉลิมฉลองขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์เทวดาอารักษ์ทำให้ฝนตกลงมาตามที่อธิฐานไว้ต่อไป
เกษร เสมจันทร์ กาญจนบุรี