สุพรรณบุรี รมช.มหาดไทยติดตามการการทำงานของศูนย์ ปภ.เขต 2
ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 2 สุพรรณบุรี วันที่ 26 พ.ค.2566 นายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะลงพื้นที่ ตรวจราชการและติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีนายธีรยุทธ์ จันทร์ดิษฐวงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นายเอกภพ จันทร์เพ็ญ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 2 สุพรรณบุรี พร้อมคณะให้การต้อนรับและรายงานแผนการปฏิบัติงานในการเตรียมพร้อม การแก้ไขและการป้องกัน ภัยของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 2
นายเอกภพ จันทร์เพ็ญ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 2 สุพรรณบุรี กล่าวว่าภาพรวมการดำเนินการของศูนย์ฯ ทั้ง 4 จังหวัดในความรับผิดชอบ ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และจังหวัดสุพรรณบุรี ในด้านอำนาจหน้าที่ และการเตรียมความพร้อมการป้องกันและแก้ปัญหาภัยแล้ง ปี 2566 โดยมีการแต่งตั้งคณะทำงาน/การวางแผนบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ/การทบทวนและจัดทำแผนเผชิญเหตุ/การสำรวจหมู่บ้าน/ชุมชนที่เคยประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำการจัดสรรน้ำเพื่อการเกษตร/การสร้างการรับรู้ทั้งประชาชนและส่วนราชการถึงสถานการณ์น้ำและการเตรียมความพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ และเครื่องจักรกล เพื่อทำการช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที
นายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่าว่าจากการลงพื้นที่ติดตามการทำงานของศูนย์ ปภ.เขต 2 สุพรรณบุรี ซึ่งมีพื้นที่รับผิดชอบจังหวัดกาญจนบุรี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และจังหวัดสุพรรณบุรี และได้รับการรายงานแผนการปฏิบัติงานของศูนย์แล้ว ต้องขอชื่นชมในการบริหารจัดการน้ำ/การป้องกันแก้ปัญหาภัยแล้งในห้วงที่ผ่านมา สุพรรณบุรีถือว่าประสบความสำเร็จ สามารถเป็นต้นแบบให้กับจังหวัดอื่นๆ ได้ พร้อมกันนี้ได้ให้นโยบาย ให้ทุกหน่วยงาน ร่วมมือจัดทำแก้มลิงเพื่อกักเก็บน้ำให้ได้มากที่สุด และหากมีพื้นที่ว่างให้ร่วมกันปลูกต้นไม้ โดยเลือกไม้ประจำถิ่น อีกทั้งทั้งช่วยรณรงค์ให้คนมีวินัย มีความรับผิดชอบต่อการกระทำของตนและช่วยสังคมให้มีความรักความเอื้ออาทรต่อกัน/ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง/พึ่งตนเอง/ตามแนวพระราชดำริ ซึ่งจะทำให้สามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาการเกิดอุบัติเหตุและแก้ไขปัญหาในยามมีภัยพิบัติได้ ที่สำคัญคือ ให้ช่วยรณรงค์ให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เชื่อมั่นในรัฐบาลและสถาบันพระมหากษัตริย์ว่าจะปกป้องแผ่นดินไทยแก้ปัญหาและพัฒนาบ้านเมืองได้ ยามสงคราม – ยามสงบ ต้องร่วมกันพัฒนา ย้ำเตือนว่าหน่วยงานของเรา หมายถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกระทรวงมหาดไทย คือที่พึ่งของประชาชน โดยเฉพาะในยามเกิดวิกฤตหรือมีภัยพิบัติซึ่งมีความคาดหวังว่าจะสามารถตอบสนองต่อความต้องการและสามารถเข้าไปแก้ไขปัญหาได้อย่าง ทันท่วงที
นอกจากนี้ ขอให้หน่วยงานเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับความท้าทายกับสภาพปัญหาในปัจจุบันซึ่งมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ต้องกำหนดแผนในระยะสั้น ระยะปานกลาง และระยะยาวไว้ให้ครบถ้วน-ชัดเจน ได้แก่ด้าน 1. บุคลากร 2. ด้านแผนงาน/งบประมาณ3.เครื่องมือ/วัสดุอุปกรณ์ และ 5.ด้านการบริหารจัดการในกรณีที่มีการสลับสับเปลี่ยนผู้รับผิดชอบ หรือมีการโยกย้ายของบุคลากร เพื่อให้งานในหน้าที่ความรับผิดชอบมีความต่อเนื่องกัน อย่างไรก็ตาม ขอให้กำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้แก่พี่น้องประชาชน เพราะ เราคือทัพหน้าของการแก้ปัญหาในทุกวิกฤตของประเทศ /เราคือความหวังของพี่น้องประชาชนในทุกยาม โดยเฉพาะยามมีภัยพิบัติ /เราคือตัวแทนรัฐบาลที่ส่งต่อความห่วงใย /เราคือมหาดไทยที่ยืนบำบัดทุกข์ บำรุงสุข อย่างทระนง ไม่หวั่นไหว
ภัทรพล พรมพัก สุพรรณบุรี